xs
xsm
sm
md
lg

โคราชเร่งตั้งเครื่องดันน้ำรับมือ “หว่ามก๋อ” ถล่มท่วมเมือง ขณะ 5 เขื่อนใหญ่แห้งรับน้ำได้อีกอื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชเตรียมพร้อมรับมือฝนถล่มจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “หว่ามก๋อ” 16-17 ก.ย.นี้ เร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ห่วงท่วมเมืองเขตเศรษฐกิจ โรงพยาบาล ขณะเขื่อนยังแห้งรับน้ำได้อีกมากเหตุน้ำเหลือน้อย งัดแผนจัดการน้ำระยะที่ 4 ระยะสุดท้ายสู้ รอความหวังฝนเติมน้ำเขื่อน
เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว 1ใน 5 เขื่อนใหญ่ จ.นครราชสีมา เหลือปริมาณน้ำใช้การได้แค่ 48 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุ 314 ล้าน ลบ.ม. ยังรับน้ำฝนจากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ ได้อีกมาก วันนี้ ( 14 ก.ย.)
วันนี้ (14 ก.ย.) จากกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “หว่ามก๋อ” มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองดานัง ประเทศเวียดนามประมาณ 350 กม. หรือที่ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กม.ต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 12 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย.นี้ โดยจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยในช่วงวันที่ 16-17 ก.ย. 2558 โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างนั้น

นายสิทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า โครงการฯ ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบจากพายุดังกล่าวซึ่งอาจเกิดปัญหาน้ำท่วมในเขตตัวเมืองนครราชสีมา โดยได้สั่งการให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้วไว้ที่ประตูระบายน้ำจอหอ, ข่อยงาม, กันผม เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำในเวลาน้ำหลาก ป้องกันน้ำท่วมเขตชุมชนเทศบาลนครนครราชสีมา เทศบาลจอหอ และเทศบาลตำบลหัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา

พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้วไว้ที่หมู่บ้านวีไอพี และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อช่วยสูบน้ำลงลำตะคองให้เร็วขึ้น ป้องกันน้ำท่วมหมู่บ้าน และโรงพยาบาล รวมทั้งสั่งการเจ้าหน้าที่ทั้งหมดทุกเขื่อนและประตูระบายน้ำเฝ้าระวังเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย

ขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว ยังน่าห่วง ปัจจุบันมีน้ำใช้การได้แค่ 48 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุ ระดับกักเก็บ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ทางโครงการฯ ได้ปรับแผนการจัดการน้ำเข้าสู่ระยะที่ 4 คือระยะสุดท้าย ในเดือน ก.ย.นี้ ตามมติของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดนครราชสีมาได้วางแผนไว้ โดยให้เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแชะ เขื่อนลำปลายมาศ และเขื่อนระบายน้ำพิมาย ดำเนินการควบคุมการระบายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และรักษาระบบนิเวศน้ำให้คงเดิม

ส่วนการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ให้คงอัตราการระบายน้ำออกจากเขื่อนวันละ 2.59 แสน ลบ.ม. (3 ลบ.ม./วินาที) แต่ทั้งนี้ ระหว่างที่ใช้แผนนี้อาจปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยมอบหมายให้ผู้อำนวยการโครงการฯ มีอำนาจตัดสินใจ เพื่อรักษาน้ำที่เหลืออยู่ในเขื่อนให้คงระยะอยู่ได้จนกว่าจะมีน้ำไหลเข้าเขื่อน รวมทั้งพิจารณาปิดประตูระบายน้ำหรือลดการระบายน้ำเมื่อมีฝนตกลงมาในพื้นที่ท้ายเขื่อนและมีน้ำเพียงพอในลำตะคอง

พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และประชาชน ภายในจังหวัดนครราชสีมา ลดการใช้น้ำลงร้อยละ 10 ของปริมาณน้ำที่เคยใช้ของแต่ละเดือน รวมทั้งให้หน่วยงานที่มีระบบประปาผิวดินเป็นของตนเองให้เร่งสูบน้ำกักเก็บไว้ในช่วงฤดูฝนให้มากที่สุดเพื่อให้มีน้ำดิบสำรองหลังสิ้นฤดูฝน

ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 โครงการของ จ.นครราชสีมา ยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก ล่าสุดมีปริมาณน้ำอยู่ 210 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุระดับกักเก็บ 948 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำเหลือ 65.48 ล้าน ลบ.ม. (น้ำใช้การได้ 48 ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 20.8 ของความจุระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำเหลือ 14.96 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 13.65 ของความจุระดับกักเก็บ 109 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 33.39 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 23.68 ของความจุระดับกักเก็บ 141 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 52.85 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสางมีปริมาณน้ำเหลือ 38.78 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 39.58 ของความจุระดับกักเก็บ 98 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 22 โครงการ มีปริมาณน้ำเหลือ 73.31 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 32 ของความจุที่ระดับกักเก็บรวม 226.74 ล้าน ลบ.ม.
กำลังโหลดความคิดเห็น