ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เข้าหน้าฝน 2 เดือนแล้ว น้ำ 5 เขื่อนใหญ่โคราชยังวิกฤต ล่าสุดเหลือแค่ 23% ขณะเขื่อนลำตะคองแหล่งน้ำหลักผลิตประปาหล่อเลี้ยงเมืองต้องปรับแผนลดระบายน้ำลงอีกวันละ 8.6 หมื่น ลบ.ม. หลังไม่มีน้ำเติมเขื่อนมีน้ำใช้การได้แค่ 48 ล้าน ลบ.ม. 15% ห่วงหาก ต.ค.ไม่มีน้ำฝนเติมปี 59 แล้งวิกฤตหนักแน่ วอนช่วยกันประหยัดใช้น้ำจริงจัง
วันนี้ (3 ก.ย.) นายสิทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา น่าห่วงเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อน คือ บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แม้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนมากว่า 2 เดือนแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค - 2 ก.ย. 2558 มีน้ำไหลลงอ่างแค่ 10.8 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เท่านั้น ทำให้มีน้ำใช้การได้ขณะนี้เหลือแค่ 48 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุ ระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ทางโครงการฯ ได้ระบายน้ำออกจากอ่างฯ เพื่อส่งให้ท้องถิ่นได้ใช้ผลิตประปาและหล่อเลี้ยงระบบนิเวศในช่วงเวลาดังกล่าว รวมกว่า 8 ล้าน ลบ.ม.
นายสิทธิโรจน์กล่าวว่า ล่าสุดทางโครงการฯ ได้ปรับแผนการระบายน้ำจากเดิมวันละ 345,600 ลบ.ม. ลดลงเป็นวันละกว่า 259,200 ลบ.ม. หรือลดลงวันละ 86,400 ลบ.ม. เพื่อยืดระยะเวลาให้น้ำเหลือในอ่างให้นานที่สุด พร้อมทั้งแจ้งเตือนการประปาท้องถิ่นต่างๆ ให้เร่งกักเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาให้ได้มากที่สุดเพื่อให้มีน้ำดิบใช้ผลิตประปา เนื่องจากขณะนี้เขื่อนลำตะคองมีกำลังในการส่งน้ำให้น้อย บางแห่งที่อยู่ไกลน้ำอาจไปไม่ถึง
อย่างไรก็ตาม โดยปกติจังหวัดนครราชสีมามักจะมีฝนตกหนักในช่วงปลายฤดูหรือประมาณเดือน ต.ค. ซึ่งหากสภาพอากาศไม่เปลี่ยนแปลงมากก็อาจมีความหวังว่าน้ำจากฝนจะมาเติมน้ำให้เขื่อนลำตะคองได้บ้าง แต่หากน้ำในเขื่อนน้อยคาดว่าส่งผลต่อปีหน้าที่จะเจอภาวะวิกฤตแล้งหนักแน่นอน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจะต้องนำน้ำจากเขื่อนทั้ง 5 เขื่อนใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมามาบริหารจัดการร่วมกันเพื่อให้เป็นเขื่อนเดียวกันจึงจะสามารถฝ่าวิกฤตไปได้ ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำกันอย่างประหยัด และดำเนินการอย่างจริงจังด้วย
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 โครงการ ล่าสุดมีปริมาณน้ำอยู่ 221 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุระดับกักเก็บ 948 ล้าน ลบ.ม. โดย เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำเหลือ 64.13 ล้าน ลบม. (น้ำใช้การได้ 48 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 15%) คิดเป็นร้อยละ 20 ของความจุระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำเหลือ 16.39 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 14.92 ของความจุระดับกักเก็บ 109 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 36 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 25.7 ของความจุระดับกักเก็บ 141 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 58 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 21 ของความจุระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำเหลือ 40.6 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 39.7 ของความจุระดับกักเก็บ 98 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 22 โครงการ มีปริมาณน้ำเหลือ 75.5 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุที่ระดับกักเก็บรวม 226.74 ล้าน ลบ.ม.