อุบลราชธานี - ประธาน ป.ป.ช. และผู้แทน UN ร่วมเปิดตัวร้านขายกาแฟต่อต้านคอร์รัปชันของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พร้อมช่วยผลักดันให้มีการเปิดในสถาบันอุดมศึกษาอื่น เพื่อปลูกฝังค่านิยมคนรุ่นใหม่ไม่เอาด้วยต่อพฤติกรรมคอร์รัปชันหลังจบการศึกษาออกไปทำงาน
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายบลุค สตีเวนส์ (Luc Stevens) ผู้ประสานงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย และเป็นผู้แทนสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เยี่ยมชมการประกอบธุรกิจร้านกาแฟ “คอร์รัปชัน ฉันไม่ขอรับ” ตั้งอยู่ที่อาคารศูนย์เครื่องมือกลางและปฏิบัติการชีวภาพ (CTB) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
โดยร้านขายกาแฟแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนแนวคิดจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินงานโดยนักศึกษา เน้นการพูดคุยเรื่องราวพฤติกรรม และผลเสียของการคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และต่างประเทศ เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษา รวมทั้งบุคลากรของมหาวิทยาลัยร่วมกันต่อต้านการทำทุจริตทุกรูปแบบหลังจบการศึกษาออกไป จึงนับเป็นร้านกาแฟแห่งแรกของประเทศ และของโลกที่ประกาศตัวต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเปิดเผย
นายบลุค สตีเวนส์ ผู้ประสานงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย กล่าวว่า อนาคตของประเทศไทยจะต้องไม่ยอมให้คนโกงเพียงไม่กี่คนดูดกินทรัพยากรประเทศจนหมดสิ้น และคนที่จะนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าได้นั้นต้องเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษา และแสวงหาความโปร่งใส รับผิดชอบในหน้าที่ และมีความยุติธรรม นี่คือวิสัยทัศน์ที่เราจะให้การสนับสนุนคนในชาตินั้น
ด้าน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการดำเนินงานของร้านกาแฟแห่งนี้ เป็นยุทธศาสตร์ของสำนักงาน ป.ป.ช. ต้องการให้คนรุ่นใหม่นำปัญหาการคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นมาพูดคุยกันอย่างจริงจัง นอกจากการพูดคุยเรื่องการเมือง หรือเรื่องอื่นๆ เพราะนักศึกษาคือกำลังสำคัญในการต่อต้านการคอร์รัปชันในอนาคต โดยสำนักงาน ป.ป.ช.จะสนับสนุนให้เกิดร้านกาแฟแนวคิดนี้ในสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ ทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่ นายวรากร ทองตรีพันธ์ ผู้จัดการร้านกาแฟ “คอร์รัปชัน ฉันไม่ขอรับ” นักศึกษาชั้นปี 4 คณะบริหารศาสตร์ สาขาการจัดการตลาด กล่าวว่า การต่อต้านการคอร์รัปชันในจุดเริ่มต้นคือ ต้องเริ่มจากตัวของเราก่อน แล้วส่งต่อแนวความคิดไปยังรุ่นน้อง
หลังเปิดดำเนินงานมากว่า 2 เดือน มีนักศึกษาเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายพูดคุยถึงปัญหาการคอร์รัปชัน รวมทั้งเข้าร่วมทำกิจกรรมในหลายรูปแบบเพิ่มขึ้นกว่า 5,000 คน หรือกว่าครึ่งหนึ่งของมหาวิทยาลัยแล้ว และมีระยะเวลาทดลองโครงการ 5 ปี หากได้ผลดีสามารถสร้างแนวร่วมได้มากขึ้น มหาวิทยาลัยจะสนับสนุนให้ทำไปอย่างต่อเนื่องด้วย
