ป.ป.ช.ออกประกาศ “ข้าราชการเกษียณ” จ้างทำงานต่อ เน้นตําแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรมในสาขากระบวนการยุติธรรมหรือประเภทวิชาการในสาขาตําแหน่งทั่วไปและดํารงตําแหน่งระดับเชี่ยวชาญ เหตุขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณ หรือเชิงคุณภาพ
วันนี้ (5 ส.ค.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่องการให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558
“โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารงานบุคคลและการกําหนดตําแหน่งของข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. ๒๕๕๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๐๗ มาตรา ๑๑๐ และมาตรา ๑๑๔ แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๑๐๘ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓ ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๓ การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ผู้ใดซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณใดและดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรมในสาขากระบวนการยุติธรรมหรือประเภทวิชาการในสาขาตําแหน่งทั่วไปและดํารงตําแหน่งระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ รับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ จะต้องเป็นกรณีที่
(๑) มีเหตุผลและความจําเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
(๒) ตําแหน่งที่จะให้ผู้นั้นรับราชการต่อไปต้องเป็นตําแหน่งที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคล กําหนดให้เป็นตําแหน่งที่มีความขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณ หรือเชิงคุณภาพและหาผู้อื่นปฏิบัติงานแทนได้ยากเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในทางวิชาการ หรือหน้าที่ที่จะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว และ
(๓) ตําแหน่งที่จะให้ผู้นั้นรับราชการต่อไปต้องเป็นตําแหน่งที่ผู้นั้นครองอยู่เดิม”
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖ (๑) และข้อ ๖ (๔) ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๑) ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรมในสาขากระบวนการยุติธรรม หรือประเภทวิชาการในสาขาตําแหน่งทั่วไปและดํารงตําแหน่งระดับเชี่ยวชาญขึ้นไป แล้วแต่กรณี ต่อเนื่องกันมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันสิ้นปีงบประมาณนั้น”
(๔) ผ่านการตรวจสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลกําหนด”
ข้อ ๕ ให้ยกเลิกความในข้อ ๗ ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไปพ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๗ การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ผู้ใดซึ่งดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรมในสาขากระบวนการยุติธรรม หรือประเภทวิชาการในสาขาตําแหน่งทั่วไปและดํารงตําแหน่งระดับเชี่ยวชาญหรือระดับทรงคุณวุฒิตามข้อ ๓ (๒) ได้รับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ให้คณะอนุกรรมการข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.เป็นผู้พิจารณา”
ข้อ ๖ ให้ยกเลิกความในข้อ ๘ ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไปพ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๘ ให้ส่วนราชการดําเนินการตามข้อ ๗ ภายในเดือนมีนาคมของปีงบประมาณที่ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ผู้นั้นจะมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ และให้คณะอนุกรรมการข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.พิจารณาข้อเสนอของส่วนราชการ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนของปีงบประมาณนั้น”
ข้อ ๗ ให้ยกเลิกความในข้อ ๙ ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไปพ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๙ ในกรณีที่คณะอนุกรรมการข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. เห็นชอบให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ผู้ใดรับราชการต่อไปได้เมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคําสั่งให้ผู้นั้นรับราชการต่อไป และส่งสําเนาคําสั่งให้กรมบัญชีกลางทราบเพื่อดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”
ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ”