หนองคาย - ตำรวจเมืองหนองคาย รวบ 2 ผัวเมียแสบฉ้อโกงเงิน หลอกเหยื่อร่วมลงทุนทำธุรกิจออแกไนซ์รับงานทั่วอีสาน ผู้เสียหายทุ่มเงินลงทุนระยะแรกได้เงินดี แต่หลังนำเงินลงทุนเพิ่มทุนกลับถูกเชิด แถมจ่ายเช็คเด้งให้ เบื้องต้นเหยื่อเข้าแจ้งความ 12 ราย และยังมีผู้เสียหายที่รู้ข่าวเข้าแจ้งความเพิ่ม มูลค่าเงินที่ฉ้อโกงหลายสิบล้านบาท
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ สภ.เมืองหนองคาย พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมด้วยตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายธัชชัย ยอดถา อายุ 47 ปี และ น.ส.กานต์มธุลดา สินนวกุลธร อายุ 41 ปี สองสามีภรรยาข้อหาฉ้อโกงเงิน เบื้องต้น มีผู้เสียหายที่แจ้งความไว้ 12 ราย เงินที่ฉ้อโกงรวมกว่า 23 ล้านบาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ทยอยเดินทางมาแจ้งความเพิ่ม หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการจับกุมตัวสองสามีภรรยาได้แล้ว คาดมีเงินที่ถูกฉ้อโกงไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 น.ส.วารี ปัญญาศิริ กับพวกรวม 12 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 โดยผู้แจ้งได้มอบเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อคดีไว้ให้แก่พนักงานสอบสวน
โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับ ซึ่งศาลได้อนุญาตออกหมายจับเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย และ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ที่บ้านพักเลขที่ 538 หมู่ 3 ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี ในช่วงบ่ายของวันที่ 19 สิงหาคม 2558 และนำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองหนองคาย
พฤติกรรมฉ้อโกงของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนั้นได้อ้างต่อผู้เสียหายว่า เป็นออแกไนซ์รับจัดบูทงานแสดง หรือประมูลพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ จึงชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนด้วย โดยจะได้ผลกำไรตอบแทนจากเงินที่ลงทุนร้อยละ 10 ทุก 15 วัน โดยผู้ต้องหาได้ออกเช็คค้ำประกันเงินที่มาลงทุนไว้ ซึ่งตอนแรกๆ ผู้เสียหายจะได้รับเงินที่อ้างว่าเป็นผลกำไร จากนั้นผู้เสียหายก็จะลงทุนเพิ่มมากขึ้น และชักชวนให้ญาติพี่น้อง และคนที่รู้จักมาร่วมลงทุน
ผู้ลงทุนทุกคนที่นำเงินมาร่วมลงทุนจะได้รับผลกำไรตอบแทนในระยะแรกๆ จึงทำให้นำเงินมาลงทุนมากขึ้น รวมระยะเวลาที่ผู้เสียหายร่วมลงทุนประมาณ 1 ปีเศษ จากนั้นไม่ได้รับผลกำไรอีก ผู้เสียหายจึงได้นำเช็คที่ค้ำประกันเงินที่ลงทุนไว้ไปขึ้นเงิน ปรากฏว่า เช็คเด้ง เมื่อไปทวงถามก็ได้รับการปฏิเสธจ่ายเงินคืนให้ จึงได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว โดย ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้ฝากเตือนถึงประชาชนทั่วไปว่าอย่างโลภ อะไรที่อ้างว่ามีผลตอบแทนมากก็ยิ่งเสี่ยงมาก
ผู้เสียหายรายหนึ่งเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับผู้ต้องหามาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว เนื่องจากเดิมนั้นพักอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งผู้ต้องหาได้เข้ามาชักชวนให้ร่วมลงทุน โดยอ้างว่าไปประมูลพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าได้ แรกๆ ลงทุน 1 ล้านบาท ได้รับเงินที่อ้างว่าเป็นผลกำไรทุก 15 วัน จึงได้นำเงินไปลงทุนเพิ่ม และชักชวนให้ญาติพี่น้องนำเงินมาร่วมลงทุน แรกๆ ก็ได้รับผลกำไรกันทุกคน จึงได้นำเงินที่มีอยู่ไปร่วมลงทุน ต่อมา ก็ไม่ได้รับผลกำไรอีก รวมมูลค่าเงินที่นำมาลงทุนประมาณ 3 ล้านบาท
เช่นเดียวกับผู้เสียหายอีกรายที่รู้จักกับผู้ต้องหาเนื่องจากเคยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ช่วงแรกก็ได้รับเงินปันผลกำไรคืน จนนำเงินที่มีอยู่ไปร่วมลงทุนทั้งหมด และได้ชักชวนญาติพี่น้องมาร่วมลงทุน สูญเงินไปรวมแล้วกว่า 8 ล้านบาท