พิษณุโลก - ผู้เสียหาย พร้อมทนายขึ้นโรงพักแจ้งจับหนุ่มพิษณุโลกเพิ่ม หลังใช้เฟซบุ๊กชวนลงทุนหุ้นจีน หน่วยละ 5 พัน อ้างให้ผลตอบแทนงามถึง 20% ทุก 10 วัน จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินร่วมลงทุนกันเพียบ สุดท้ายสูญทั้งเงินลงทุน-ผลตอบแทน
วันนี้ (4 ก.ค.) นายธัชชัย จักษุคำ ทนายความ พร้อมผู้เสียหาย 2 คน คือ นางชัญญ์ชนพร โชติกุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/95 ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ กทม. และ น.ส.ษิณิภา ศิริชูโสภา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/296 ม.5 ต.วัชรอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.พุฒินนท์ คงเสมอ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เอาผิด นายปราการ สำเร็จดี อยู่บ้านเลขที่ 349/20 ถ.ไชยานุภาพ อ.เมืองพิษณุโลก และ หจก.สำเร็จดีธุรกิจ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายธัชชัย เปิดเผยว่า ลูกความได้มอบหมายให้ตนพาเข้าแจ้งความเอาผิด นายปราการ สำเร็จดี ที่ฉ้อโกงเงินไป หลังจากเคยแจ้งความร้องทุกข์ครั้งแรกไปแล้วเมื่อปลายปี 2557 ที่ผ่านมา ร่วมกับผู้เสียหายหลายคนหลากหลายอาชีพ และกระจายอยู่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้หลงเชื่อลงทุนกับ นายปราการ สำเร็จดี
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้เห็นการชักชวนผ่านทางหน้าเพจ Easy Invest ที่นายปราการ เป็นผู้ดำเนินการทางหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ที่ชักชวนให้ประชาชนมาร่วมลงทุนหุ้นจีน หน่วยลงทุนละ 5,000 บาท จะให้ผลตอบแทน 20% ทุกๆ 10 วัน ซึ่งระยะแรกๆ ก็ได้ผลตอบแทนดี จากนั้นนายปราการ ที่อ้างตัวว่าเป็นด็อกเตอร์ จบจากต่างประเทศได้ชักชวนให้ลงทุนต่อ ผู้เสียหายต่างก็เพิ่มวงเงินลงทุน โดยติดต่อกับ นายปราการ ทั้งทางไลน์ โทรศัพท์ พร้อมกับโอนเงินลงทุนให้
กระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2557 พอใกล้ถึงวันจ่ายผลตอบแทนการลงทุน ผู้เสียหายเริ่มติดต่อนายปราการ ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางไลน์ หรือทางโทรศัพท์ นายปราการ ก็อ้างว่าเดินทางไปประเทศจีน จากนั้นก็มีการปิดไลน์ ปิดหน้าเพจ
เมื่อผู้เสียหายต่างรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงมอบหมายให้ตนแจ้งความร้องทุกข์ ครั้งแรกมาแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ในข้อหาฉ้อโกง เป็นคดีที่ยอมความได้ และตนก็ได้พบกับนายปราการ มีการทำข้อตกลงว่า จะจ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหายภายใน 6 เดือน คือ ภายในเดือนมิถุนายน 2558 แต่สุดท้าย นายปราการ ก็หายตัวไป ไม่ยอมชำระเงินคืนให้ผู้เสียหาย
“วันนี้จึงนำผู้เสียหาย 2 ราย มาแจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่เป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ เฉพาะลูกความของตน 24 ราย มีมูลค่าเงินที่ถูกฉ้อโกง 2 ล้านบาท และจากการติดต่อของผู้เสียหายหลายคนทราบว่า น่าจะมีผู้เสียหายจากทั่วประเทศมากกว่านี้”
นางชัญญ์ชนพร โชติกุล ผู้เสียหายเปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้วได้เห็นหน้าเพจทางเฟซบุ๊ก ชักชวนให้ลงทุนหุ้นจีน คิดว่าน่าสนใจดี จึงลองเริ่มลงทุน 10 หน่วย เป็นเงิน 50,000 บาท โดยติดต่อกับนายปราการ และโอนเงินลงทุนเข้าบัญชีนายปราการ ซึ่งแรกๆ ก็ได้รับผลตอบแทนดีจริง ต่อมาเมื่อใกล้ถึงวันปันผล นายปราการ ได้โทรศัพท์ชักชวนให้ลงทุนเพิ่มจึงเริ่มลงทุนเพิ่มในหลักแสนบาท และยังคงได้ผลตอบแทนกลับมาเช่นกัน
กระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2557 ได้ลงทุนครั้งสุดท้าย 300,000 บาท รวมเงินลงทุนของตนทั้งหมด 750,000 บาท ปรากฏว่า เมื่อใกล้ถึงวันปันผลพอติดต่อไปนายปราการ อ้างว่าไปประเทศจีน และถูกทำร้ายร่างกายที่ประเทศจีน สุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้อีก มีการปิดไลน์ ปิดโทรศัพท์ และปิดหน้าเพจ พวกตนจึงติดต่อกันในหมู่ผู้ร่วมลงทุนเพราะเชื่อว่าถูกหลอกแน่ จึงรวมตัวจ้างทนายความมาแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลก
“อยากเตือนผู้ที่จะคิดลงทุนเรื่องหุ้น และติดต่อผ่านทางออนไลน์ให้ระมัดระวัง ตรวจสอบให้ดี อย่าหลงเชื่อง่ายๆ จะสูญเสียเงิน”
ด้าน น.ส.ษิญาภา ศิริชูโสภา ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า เริ่มเห็นหน้าเพจ และรู้จากเพื่อน เห็นการลงทุนหุ้นจีนกับนายปราการ แล้วได้ผลดี จึงติดต่อ และเริ่มลงทุนครั้งแรก 20,000 บาท ก็ได้ผลตอบแทนกลับมา ต่อมา เดือนพฤศจิกายน2557 ได้ลงทุนเพิ่มอีก 40,000 บาท รวมเงินลงทุน 60,000 บาท เป็นช่วงที่นายปราการ เริ่มหายตัวไป และติดต่อไม่ได้
พ.ต.อ.พุฒินนท์ คงเสมอ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก บอกว่า ทนายความได้นำพยานหลักฐานพร้อมผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก แล้วจำนวน 24 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ขณะนี้ได้สอบผู้เสียหายบางรายแล้ว แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายอยู่ต่างจังหวัดจำนวนมาก จึงจะทำเรื่องประสานให้ผู้เสียหายมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่ และส่งกลับมาที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับจะออกหมายเรียกนายปราการ มารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานนำฟ้องศาลต่อไป