ตร.ทางหลวงรวบสองผัวเมียขนยาบ้า อ้างหาเงินส่งลูกเรียน

ตำรวจทางหลวงสกัดจับผัวเมียลักลอบขนยาบ้า 4.5 แสนเม็ด บนถนนพหลโยธินขาเข้า จ.ตาก สารภาพรับจ้างขนยานรกจากเอเยนต์รายใหญ่ใน จ.เชียงใหม่ แลกค่าจ้าง 3 หมื่นบาท อ้างหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือ

วันนี้ (5 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผบก.ทล. พ.ต.อ.ชินพันธ์ พราหมณ์พันธ์ ผกก.5 บก.ทล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ทล.(ตำรวจทางหลวงตาก) แถลงข่าวจับกุม นายยอดยิ่ง มานิตเกรียงไกร อายุ 37 ปี และนางว้าง แซ่กือ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 ม.9 ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.ตาก ผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 450,000 เม็ด ยาไอช์น้ำหนักรวม 975 กรัม รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กท 4542 หมวดจังหวัดพิษณุโลก 1 คัน เงินสด 10,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ได้ที่หน้าหน่วยบริการทางหลวงสามเงา ถ.พหลโยธิน (ทล.1) ขาเข้า กม.578 ต.วังจันทร์ อ.สามเงา จ.ตาก

พล.ต.ต.สมชายกล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากภาคเหนือเข้าสู่ กทม.โดยใช้ถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางลำเลียง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการตั้งจุดตรวจสกัดบนถนนพหลโยธินด้านหน้าหน่วยบริการทางหลวงสามเงา ถ.พหลโยธินฝั่งขาเข้า กม.578 ต.วังจันทร์ อ.สามเงา จ.ตาก กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ผู้ต้องหาทั้งสองได้ขับขี่รถยนต์ของกลางผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเรียกตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าเป้ลายพรางทหารสีเขียว และในถุงปุ๋ยซุกซ่อนอยู่ภายในยางอะไหล่ใต้ฝากระโปรงท้ายรถ จึงได้ทำการควบคุมตัวทั้งสองคนพร้อมของกลางไว้ตรวจสอบ

จากการสอบสวนนายยอดยิ่งให้การรับสารภาพว่า ตนและนางว้างเป็นสามีภรรยากันมีอาชีพเป็นเกษตรกรทำไร่ข้าวโพด โดยก่อนเกิดเหตุตนได้รับว่าจ้างจากเอเยนต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จำนวนเงิน 30,000 บาท เพื่อนำยาเสพติดของกลางไปส่งต่อให้กับลูกค้าที่แยกสลกบาตร จ.กำแพงเพชร โดยเงินจ้างจะนำไปส่งเสียเป็นค่าเล่าเรียนให้บุตรเนื่องจากฐานะทางครอบครัวของตนและภรรยาค่อนข้างยากจน แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน

พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด คือ กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบังคับการตำรวจรถไฟ กองบังคับการตำรวจน้ำ และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 4 หน่วยงานหลักคอยดูแลสอดส่องเฝ้าระวังการลักลอบขนถ่ายลำเลียงยาเสพติดตามเส้นทางต่างๆ อย่างใกล้ชิด จึงนำมาซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ โดยหลังจากการจับกุมจะมอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามขยายผลเพื่อทำการจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เเจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการเครือข่ายดังกล่าวต่อไป