“สมยศ” มอบเงินรางวัลตำรวจ สภ.คลองหลวง 7 นาย หลังตั้งด่านปรับ “เนวิน ชิดชอบ” ซิ่งซูเปอร์ไบค์ผิดกฎจราจร ระบุบังคับใช้กฎหมายตรงไปตรงมา
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จำนวน 7 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ต.สรายุทธ แสงทองสว.จร.สภ.คลองหลวง, ร.ต.ท.กันตพัฒน์ ปัสสา รอง สวป.สภ.คลองหลวง (ช่วยงานจราจร), ด.ต.พจน์ ฉัตรแก้ว, ด.ต.ประสงค์ โชติมาพร, ด.ต.วิรัชย์พนธ์ สิงห์คำ, ด.ต.สงกรานต์ สุริยะศรี และ ด.ต.อภิเดช พุทธา ผบ.หมู่จราจร สภ.คลองหลวง ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ระหว่างการตั้งด่านสกัดจับกลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์ซูเปอร์ไบค์ บนถนนพหลโยธินขาออก ในช่องทางด่วน หน้าตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี หนึ่งในนั้น คือ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จึงได้มีการแจ้งข้อหาไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจร หรือเครื่องหมายจราจร ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนรับทราบข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงได้ออกใบสั่งและให้มาเสียค่าปรับคนละ 400 บาท
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนขอชื่นชมการทำงานของตำรวจ สภ.คลองหลวง ทั้ง 7 นายที่ทำตามนโยบาย บังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช้อำนาจหน้าที่เอาเปรียบประชาชน เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ตำรวจนายอื่น พร้อมฝากถึงตำรวจทุกนาย อย่าใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
ด้าน พ.ต.ต.สรายุทธกล่าวว่า หลังเรียกตรวจและพบว่าเป็นนายเนวินก็รู้สึกตกใจ แต่ก็แนะนำตัวและแจ้งถึงการทำหน้าที่ในการทำดำเนินคดีตามปกติเหมือนประชาชนคนอื่น ที่ผ่านมาไม่เคยจับคนใหญ่คนโตมาก่อน แต่แม้จะเป็นบุคคลมีชื่อเสียงก็ยืนยัน จะจับกุมดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น
สำหรับกรณีนี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 11.40 น. ขณะที่ พ.ต.ต.สรายุทธ แสงทอง สว.จร.สภ.คลองหลวง ออกตรวจพื้นที่แนวถนนพหลโยธิน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุฯ ว่ามีกลุ่มจักรยานยนต์จำนวนหลายคันขับขี่ในช่องทางด่วนจึงได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดหน้าซอยศรีปทุม จากนั้นได้พบกลุ่มจักรยานยนต์ดังกล่าวจำนวน 6 คัน จึงเรียกให้หยุดตรวจและเข้าทำการตรวจสอบ พบว่าหนึ่งในนั้นคือนายเนวิน จากการตรวจสอบพบทุกคนมีเอกสารครบถ้วน จึงแจ้งข้อหาให้ทราบว่าการขับขี่จักรยานยนต์ในช่องทางด่วนเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรห้ามจักรยานยนต์ใช้ทางหลัก (ช่องทางด่วน) ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนรับทราบข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกใบสั่งต่อผู้ขับขี่ทุกคน และต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้มาทำการเปรียบเทียบค่าปรับตามข้อกล่าวหา
