ศูนย์ข่าวศรีราชา - สายการเดินเรือต่างชาติ และผู้บริหารท่าเอกชนในท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ยังมั่นใจมาตรการรักษาความปลอดภัยในท่าเรือไทย และมั่นใจการทำงานของรัฐบาล การท่าเรือแห่งประเทศไทย และท่าเรือแหลมฉบัง ว่ามีความพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันเหตุ เผยเหตุวางระเบิดที่ราชประสงค์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก
วันนี้(20 สิงหาคม) ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้จัดแถลงข่าวมาตรการและวิธีปฏิบัติในการขนถ่ายสินค้าอันตรายของท่าเรือแหลมฉบัง หลังเกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงบริเวณคลังเก็บสินค้าอันตราย ซึ่งตั้งอยุ่ในเขตอุตสาหกรรมของท่าเรือเมืองเทียนจิน ประเทศจีน จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังเกิดเหตุวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชนที่อยู่โดยรอบท่าเรือ โดยมี ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการท่าเรือเอกชน รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าร่วม
ร.อ.สุทธินันท์ เผยว่า หลังเกิดเหตุวางระเบิดศาลพระพรหมได้เพียง 1 ชั่วโมง ท่าเรือแหลมฉบังได้ประกาศให้มีการยกระดับรักษาความปลอดภัยเป็นระดับ 2 ตามหลักสากลในทันที ซึ่งที่ผ่านมาท่าเรือแหลมฉบัง มีมาตรการตรวจสอบด่านตรวจสินค้าต่างๆภายในท่าเทียบเรือ ตรวจสอบคลังสินค้าอันตราย รวมทั้งสังเกตุการณ์รอบคลังสินค้า และตรวจสอบรถและคนที่ผ่านมาเข้าออกบริเวณท่าเทียบเรืออย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ก็ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามจุดเสี่ยงเป็นเท่าตัว
วันนี้เรายังได้ประสานข้อมูลต่างๆกับ EOD ในเชิงลึก และยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และระเบียบการออกบัตรอนุญาตผ่านเข้าออกในเขตศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2554 รวมถึงการปฏิบัติตามประมวลข้อบังคับว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยของเรือ และท่าเรือระหว่างประเทศ รวมทั้งการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบอาคารสถานในเขตท่าเรือ ตรวจเข้มบุคคล ยานพาหนะที่ผ่านเข้ามาในรั้วศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังอย่างละเอียด โดยเฉพาะบริเวณประตูตรวจสอบสินค้าที่ 2, หากพบเห็นบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งศูนย์รับแจ้งเหตุในทันที
อย่างไรก็ดีหลังเกิดเหตุทางสายการเดินเรือ และผู้ประกอบการขนส่งสินค้าต่างชาติ ยังมีความเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของไทย และท่าเรือแหลมฉบัง ขณะเดียวกันในส่วนของท่าเรือแหลมฉบังเอง ก็ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการด้วยการทำหนังสือชี้แจงถึงเหตุการณ์ และมาตรการในการดูแลความปลอดภัยไปยังสายการเดินเรือ และผู้ประกอบการต่างชาติแล้ว
โดยมร.นีลส์ ที.แฮนเซ่น ผู้บริหารระดับสูง บริษัท แอลซีบี คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล 1 จำกัด ผู้บริหารท่าเทียบเรือ B1ท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า ยังเชื่อมั่นใจความปลอดภัยของไทย ทั้งนี้เหตุการณ์วางระเบิดที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทยเพียงแห่งเดียว แต่ยังเกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ขณะที่รัฐบาลไทย ก็ได้แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันเหตุ และดูแลสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดว่าทั้งการท่าเรือแห่งประเทศไทย และท่าเรือแหลมฉบัง มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและการเตรียมรับมือเหตุร้ายที่ชัดเจน
ส่วนการดูแลคลังสินค้าอันตรายในท่าเรือแหลมฉบังนั้น ต้องการให้ท่าเรือแชร์ข้อมูลการขนถ่ายสินค้าอันตราย และสารเคมีของผู้ประกอบการท่าเรือต่างๆ ให้ได้รับรู้โดยทั่วกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการอื่นๆได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยของตนเองได้ด้วย
นอกจากนี้ร.อ.สุทธินันท์ ยังได้เผยถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยคลังสินค้าอันตรายภายในท่าเรือ หลังเกิดเหตุรุนแรงขึ้นที่เขตอุตสาหกรรมของท่าเรือเมืองเทียนจินว่า ท่าเรือแหลมฉบังได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งเข้มงวดในการดูแลสินค้าอันตรายมากขึ้นเป็นเท่าตัวในทุกจุดเสี่ยง นอกจากนั้นยังมีกระบวนการตรวจสอบรถขนส่งสินค้าอย่างเข้มข้น ตั้งแต่การตรวจสอบใบอนุญาตขับรถขนส่งสินค้าของผู้ขับ และยังควบคุมไปถึงการตรวจสอบการปล่อยสินค้าอันตรายออกจากคลังสินค้า ทั้งนี้ท่าเรือแหลมฉบัง มีนโยบายที่ชัดเจนในการไม่อนุญาตให้มีการขนถ่ายสินค้าอันตรายประเภทวัตถุระเบิด และกัมมันตรังสีในท่าเรือ โดยเด็ดขาด ที่สำคัญยังไม่อนุญาตให้มีการพักสารเคมี และสินค้าอันตรายทุกชนิดในท่าเรือ
"วันนี้เรามั่นใจว่าท่าเรือแหลมฉบังมีวิธีปฏิบัติและป้องกันเหตุได้ดีที่สุด ไม่ใช่เฉพาะในประเทศ แต่ดีในระดับมาตรฐานสากล และที่ผ่านมาก็มีการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการท่าเรือ ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด แต่เราก็ไม่สามารถที่จะการันตีได้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง แต่ก็เชื่อว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้วเราก็มีแผนระงับเหตุได้ เพราะที่ผ่านมาเรามีการฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งการกำจัดสารเคมี การดับเพลิงกับหน่วยงานต่างๆ ในทุกๆ ปีและยังมีการจัดซื้อเครื่องมือที่ทันสมัย และรถกระเช้าสำหรับดับเพลิงในอาคารสูง"
เพื่อเป็นการคลายความวิตกกังวลต่อสาธารณชน ท่าเรือแหลมฉบังขอนำเสนอข้อมูลและวิธีปฏิบัติในการกำกับและขนถ่ายสินค้าอันตราย ดังนี้ 1.เคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎหมายภายในประเทศและระหว่างประเทศ 2.กำหนดกลุ่มสินค้าอันตรายในการห้ามบรรทุกขนถ่าย หรืออนุญาตให้ขนถ่ายแต่ต้องนำออกจากเขตท่าเรือฯ โดยทันที 3. ผู้นำเข้าสินค้าอันตรายและผู้ส่งออกสินค้าอันตราย จะต้องแจ้งข้อมูลรายละเอียดของสินค้าอันตรายพร้อมแนบข้อมูลความปลอดภัยและรายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ในการปฏิบัติและดูแล ก่อนเรือเทียบท่า 24 ชั่วโมง 4.โครงสร้างคลังสินค้าอันตราย ได้ออกแบบสำหรับจัดเก็บสินค้าอันตรายเป็นการเฉพาะและมีระบบแจ้งเตือน ระบบตอบโต้ภาวะฉุกเฉินขั้นรุนแรง