ศูนย์ข่าวศรีราชา - นิคมฯ ท่าเรือ โรงกลั่นน้ำมัน แหลมฉบัง วางมาตรการเข้มหลังมีเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ โดยประสานตำรวจในพื้นที่ตรวจตรา รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง
นายปรีชา จรเณร ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ กทม. เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ทาง กนอ.แหลมฉบัง ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจตราในพื้นที่รอบนิคมอุตสาหกรรมให้เข้มงวดขึ้น
นอกจากนั้น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เข้มงวดต่อสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ หากเกิดปัญหาขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน
นอกจากนั้น กนอ.ยังได้ว่าจ้างบริษัท กัสโก้ เอ็นไวรันเมนทัล แมเนจเม้นท์ จำกัด ในการดูแลปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ โดยได้กำชับให้บริษัทดังกล่าวเพิ่มมาตรการเข้มงวดด้วย พร้อมกันนั้น ได้มีหนังสือแจ้งไปยังโรงงานต่างๆ ให้ช่วยสอดส่องดูแลสถานการณ์บริเวณโรงงานให้เข้มงวดขึ้นด้วย เพื่อป้องกันสถานการณ์ต่างๆ โดยให้เข้มงวดทั้งเดือนสิงหาคมนี้เลย
ด้าน เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เผยว่า ในส่วนของท่าเรือแหลมฉบัง ได้มีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นระดับ 2 หลังเกิดเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ได้เพียงหนึ่งชั่วโมง โดยได้ประกาศให้มีการตรวจเข้มรถยนต์ รถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ และบุคคลที่เข้า-ออกท่าเรือฯ อย่างละเอียด และเข้มงวด
พร้อมแจ้งผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ และบริษัท เจ ดับเบิลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด ผู้บริหารประกอบการคลังสินค้าอันตรายที่ท่าเรือแหลมฉบัง ให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และขอความร่วมมือในการตรวจบุคคล และยานพาหนะที่จะเข้า-ออกเขตอย่างเข้มงวด
นอกจากนั้น ยังประกาศแผนปฏิบัติเพื่อรับมือการก่อเหตุตามมาตรฐานสากลที่เคยมีการจัดซ้อมอย่างต่อเนื่อง และหากมีการเกิดเหตุร้ายขั้นสูงสุด ก็พร้อมประกาศแผนรับมือในระดับ 3 ทันที
ทั้งนี้ ข่าวที่เกิดขึ้นจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการขนส่งสินค้าในประเทศ แต่จะส่งผลในเรื่องการท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศมากกว่า
ด้านผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในพื้นที่แหลมฉบัง ทั้ง เอสโซ่ ไทยออยล์ และ ปตท. ได้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบก็ตาม