ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้เสียหายเช่าตู้คอนเทนเนอร์เกือบ 1,000 คน เข้าแจ้งความที่ สภ.แหลมฉบัง หลังถูกบริษัทฯ โกงเงินไม่ยอมจ่ายค่าเช่าตู้ สร้างความเสียหายหลาย 1,000 ล้านบาท เตรียมตั้งตัวแทนนำเอกสารเข้าร้อง DSI, ปอศ. และสำนักนายกฯ เพื่อเปิดโปงบริษัทฯ ดังกล่าว
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีผู้เสียหายจากการให้เช่าตู้คอนเทนเนอร์กับบริษัท ฟีนิกซ์ คอนเทนเนอร์ ซัพพลาย จำกัด และบริษัท เค.เอส.มารีน แอนด์ กอฟเวอร์เนอร์ เซอร์วิส จำกัด ประมาณเกือบ 1,000 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง หลังบริษัทฯ ดังกล่าวไม่จ่ายเงินค่าเช่าตู้ให้แก่ผู้เสียหายดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นายขวัญเมือง ผาซา ตัวแทนผู้ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ในวันนี้ผู้เดือดร้อนเป็นจำนวนมากเข้ามาแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินคดีต่อผู้บริหารบริษัทฯ ดังกล่าว เนื่องจากไม่จ่ายเงินค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์ หลังทางบริษัทฯ รับปากจะจ่ายค่าเช่าให้เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ที่รับปากกันไว้แต่ก็ไม่ยอมมาตามที่สัญญาไว้ จึงต้องรวมตัวแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
การเข้าแจ้งความในวันนี้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยนำสัญญาการเช่าตู้คอนเทนเนอร์ สัญญาประกันชีวิต สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนมาเป็นหลักฐานให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดี นอกจากนั้น ยังรวบรวมเอกสารจากผู้ที่ได้รับความเสียหายอีก 3 ชุด เพื่อนำไปร้องเรียนต่อ DSI, กองบังคับการปราบปรามอาชญากรทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งรัดคดีดังกล่าว
นายขวัญเมือง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเข้าร่วมในธุรกิจดังกล่าว ซึ่งในช่วงแรกได้ผลตอบแทนดี แต่ระยะหลังทางบริษัทฯ เบี้ยว และไม่จ่ายเงินค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์ให้แก่ชาวบ้าน และพนักงานบริษัทในพื้นที่แหลมฉบัง และพื้นที่ใกล้เคียง สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นำบ้าน รถยนต์ และที่ดินเข้าไปจำนำ และจำนองไว้ ซึ่งไม่มีเงินไปผ่อนก็จะทำให้ทรัพย์สินดังกล่าวอาจถูกยึดในที่สุด
ขณะนี้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ทราบว่าธุรกิจตู้คอนเทนเนอร์นั้นมีจริงหรือไม่อย่างไร โดยไม่มีใครเคยเห็นตู้คอนเทนเนอร์เลย โดยทางบริษัทฯ ทำสัญญาการเช่าตู้ฯ ก็เพียงนำเงินจ่ายไป และหลังจากนั้นก็เพียงรอรับเงินค่าเช่า ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการเช่นไรนั้นไม่มีใครทราบโดยพอให้จ่ายเงินค่าเช่าก็พอแล้ว
นายขวัญเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ผู้เสียหายต้องการทราบว่าเงินที่นำไปลงทุนนั้นทางบริษัทฯ ไปทำธุรกิจแบบไหน เพราะเป็นเงินจำนวนมหาศาล จึงต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่มาที่ไปของเงินจำนวนดังกล่าว และต้องการเปิดโปงบริษัทฯ ดังกล่าวเพื่อไม่ต้องการให้ไปหลอกลวงใครๆ ต่อไปอีก
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจแหลมฉบัง กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการรวบรวมหลักฐานประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หลังบริษัทฯ ไม่ดำเนินการตามสัญญาที่ว่าไว้ หลังจากนั้น ก็จะทยอยเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำเพื่อรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลระยะหนึ่ง เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก