ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คุมตัวพนักงานบริษัทขนเงินแบงก์กรุงไทยขอนแก่นทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังสอบพบหลักฐานเป็นคนขโมยเงินที่นำไปเข้าตู้เอทีเอ็มนานต่อเนื่องถึง 6 เดือน รวมเป็นเงินกว่า 19 ล้านบาท ผู้ต้องหาอ้างต้องการนำเงินไปเล่นการพนัน อาศัยประสบการณ์ทำงานนาน 15 ปีรู้ช่องทางและจังหวะยักยอกโดยที่เพื่อนร่วมงานไม่รู้
จากกรณีที่นายวันชัย ศรีกุงทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.4 ต.ดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้รับมอบอำนาจจาก บริษัทกรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีพนักงานของบริษัทฯ ประกอบด้วย นายธวัชชัย สำราญบำรุง, นายสมโภชน์ สิงห์สม และนายสุรศักดิ์ ประเสริฐสังข์ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบและนำจ่ายเงินสดให้แก่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยที่ติดตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังมีการตรวจสอบพบว่ามีการยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์นายจ้างเป็นเงินสดไปเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อเย็นวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว และจากการสอบสวนสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดเมื่อคืนที่ผ่านมาเบื้องต้นพบว่านายสุรศักดิ์ ประเสริฐสังข์ และนายธวัชชัย สำราญบำรุง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่หายไป ผู้ต้องหาที่กระทำผิดมีเพียงคนเดียวคือนายสมโภชน์ สิงห์สม
ต่อมาบ่ายวันนี้ (2 ส.ค.) พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันควบคุมตัวนายสมโภชน์ สิงห์สม ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ศูนย์บริหารและจัดการธนบัตร ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาขอนแก่น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ภายหลังก่อเหตุขโมยเงินที่นำไปฝากในตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทยสาขาต่างๆ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นเป็นเงินรวมแล้วกว่า 19 ล้านบาท
โดยนำตัวนายสมโภชน์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดแรกที่บริเวณตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ถนนหลังศูนย์ราชการ หน้ากองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 2 ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่นายสมโภชน์ได้อาศัยช่วงที่เพื่อนลงไปรับประทานอาหารขโมยเงินที่จะนำเข้าตู้เอทีเอ็มไป
พล.ต.ท.บุญเลิศกล่าวว่า นายสมโภชน์ได้ลงมือลักทรัพย์เป็นเงินสดที่ได้รับมอบหมายนำไปเข้าตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทยมานานกว่า 6 เดือน โดยจะอาศัยช่วงที่เดินทางนำเงินเข้าไปเติมในตู้เอทีเอ็มสาขาต่างๆ แล้วฉวยโอกาสนำเงินที่ยังเหลือค้างในตู้เอทีเอ็มออกมา ในขณะที่เพื่อนร่วมงานไม่ทราบพฤติกรรมของนายสมโภชน์แต่อย่างใด รวมแล้วได้เงินกว่า 19 ล้านบาทเศษ
อย่างไรก็ตาม นายสมโภชน์รับสารภาพว่าทางบริษัทฯ เริ่มพบความผิดปกติของตนเองและได้มีการแจ้งความจึงได้ลางานแล้วหลบหนีไปยัง สปป.ลาว จนกระทั่งถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่ สปป.ลาวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา
สำหรับเหตุจูงใจที่ก่อเหตุลักทรัพย์ นายสมโภชน์อ้างว่าต้องการนำเงินไปเล่นพนันฟุตบอลและใช้จ่ายทั่วไป ประกอบกับเป็นคนที่ใช้เงินเกินตัว เงินเดือนไม่พอใช้ จึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุ เนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานด้านนี้มานานกว่า 15 ปีจึงรู้ช่องทาง รู้จังหวะการลักทรัพย์ แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ท.บุญเลิศกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ร่วมขบวนการร่วมลักทรัพย์กับนายสมโภชน์จะมีอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำเพื่อนร่วมงานทั้งหมด ส่วนทรัพย์สินที่ยึดคืนกลับมาได้ขณะนี้มีเงินสดจำนวน 1.8 ล้านบาท ทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง และกำลังขยายผลยึดทรัพย์สินทั้งหมดของนายสมโภชน์เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากเงินที่ลักขโมยไป