ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เร่งสอบ 3 ผู้ต้องหาลักเงินตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทย 19 ล้านพร้อมญาติ หวังขยายผลตามเงินที่ยังหายไปอีกกว่า 18 ล้านคืน ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาที่ 1 ไปฝากขังศาลขอนแก่นบ่ายวันนี้ ด้าน 2 เพื่อนร่วมงานยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยอมรับมือฉกน์แบ่งเงินให้ใช้กว่าแสนบาท อ้างได้จากพนันฟุตบอล
ช่วงสายวันนี้(3 ส.ค.)พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สอบปากคำนายสมโภชน์ สิงห์สม พร้อมญาติ รวมทั้งนายธวัชชัย สำราญบำรุง และนายสุรศักดิ์ ประเสริฐสังข์ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ร่วมกันกระทำผิดในคดีลักทรัพย์ศูนย์บริหารและจัดการธนบัตร ธนาคารกรุงไทย สาขาขอนแก่น
โดยก่อเหตุขโมยเงินที่นำฝากในตู้เอทีเอ็มในเขตเทศบาลนครขอนแก่นต่อเนื่องเป็นเวลาร่วม 6 เดือน รวมเงินกว่า 19 ล้านบาท ซึ่งการสอบสวนผู้ต้องหาและญาติครั้งนี้ เพื่อขยายผลติดตามเงินที่หายไปกว่า 18 ล้านบาทกลับคืนมา เพราะจากการติดตามเงินที่ถูกขโมยไป สามารถยึดกลับคืนมาประมาณ 1.8 ล้านบาทเท่านั้น
พ.ต.อ.นพดล เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายสมโภชน์ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่าเงินที่ได้จากการขโมยจากตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทยนั้น ได้นำไปให้ภรรยา 3 แสนบาท ให้มารดา 2 แสนบาท ใช้จ่ายบัตรเครดิต 190,000 บาท ที่เหลือใช้หนี้การพนันและใช้จ่ายส่วนตัวจนหมดแล้ว ไม่มีเหลือฝากไว้ที่ไหน อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ จึงได้เชิญญาติของนายสมโภชน์มาสอบสวนด้วย
ขณะที่นายธวัชชัย สำราญบำรุง และนายสุรศักดิ์ ประเสริฐสังข์ เพื่อนร่วมงานนายสมโภชน์ ให้การว่าเคยได้รับเงินจากนายสมโภชน์รวมกันแสนกว่าบาท โดยนายสมโภชน์อ้างว่าได้เงินมาจากการเล่นพนันฟุตบอล จึงนำมาแบ่งปันให้ และยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นกับกระทำของนายสมโภชน์
พ.ต.อ.นพดล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนนายสมโภชน์ผู้ต้องหาคนที่ 1 ให้แล้วเสร็จภายในเที่ยงวันนี้ ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดทรัพย์สินของนายสมโภชน์เป็นทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง ที่เชื่อว่าได้จากการขโมยเงินไปซื้อ รวมแล้วกว่า 2 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล