บุรีรัมย์ - รวบแล้วโจรใจบาปงัดกุฏิเจ้าอาวาสขโมยเงินวัดดังบุรีรัมย์กว่า 1.8 ล้าน ที่แท้เป็นหลานชายในไส้เจ้าอาวาสเองที่เคยชุบเลี้ยง และบวชให้ สารภาพเงินที่ขโมยนำไปกินเหล้าเที่ยวผู้หญิง หลังสำนึกผิดกราบอ้อนวอนให้อภัย แต่หลวงพ่อเมิน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจเอาผิดตามกฎหมาย
วันนี้ (30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายบุกงัดกุฏิ พระครูสังวรโพธิวัฒน์ หรือฉายา สวโร อายุ 82 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองมะเกลือ ม.17 ต.หนองตาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เข้าไปขโมยเงินที่บรรจุใสถุงพลาสติกไว้ในห้องเก็บของ จำนวน 5 ถุง รวมกว่า 1,800,000 บาท โดยเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ญาติโยมมาทำบุญบริจาค และเงินที่ได้จากการทอดกฐิน ผ้าป่าที่เก็บรวบรวมไว้บูรณะซ่อมแซมศาลาการเปรียญ สิ่งปลูกสร้างภายในวัด และเตรียมไว้จัดงานฝังลูกนิมิตในปี 2559 ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด ตำรวจสามารถติดตามสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว ภายหลัง พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.อ.ท.กัมพล วงษ์สุวรรณ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิต สว.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร.ต.อ.ประจวบ สุตเดช รอง สว.สส. สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร.ต.อ.ราชศักดิ์ เธียรรัม์ รอง สวป. และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับตำรวจ สภ.พุทไธสง ได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
โดยคนร้ายรายดังกล่าวคือ นายวิวัฒน์ หุสิกา อายุ 38 ปี ถูกจับกุมขณะนั่งดื่มเหล้าเมาไม่ได้สติอยู่บ้านเลขที่ 73 ม.12 ต.บ้านยาง อ.พุทไธสง ซึ่งเป็นบ้านตนเอง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบสวน และพาไปเอาของกลางเงินสดที่ขโมยมาที่ฝากไว้กับนางวันทอง ตองติดรัมย์ อายุ 60 ปี เจ้าของร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน อ.พุทไธสง ที่นับถือเป็นแม่บุญธรรม โดยสามารถยึดเงินสดได้ จำนวน 230,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท รถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่นอน 1 หลัง และชุดเครื่องเสียงคาราโอเกะอีก 1 ชุด รวมมูลค่าทั้งเงินสด และทรัพย์สินที่ตรวจยึดคืนมาได้ประมาณ 400,000 บาท ที่นายวิวัฒน์ นำเงินที่ขโมยมาไปซื้อไว้
ส่วนเงินที่หายไป นายวิวัฒน์ ยอมรับว่าได้นำไปกินเหล้าเที่ยวผู้หญิงเมามายทุกวัน จนเป็นที่สงสัยของชาวบ้านว่า นายวิวัฒน์ นำเงินมากมายจากไหนมากินเที่ยว ทั้งยังหลอกแม่และคนในครอบครัวว่าเงินที่ได้มากินเที่ยวได้มาจากการจำหน่ายยาบ้า
กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบเบาะแส และติดตามจับกุมได้ และนายวิวัฒน์ ได้กราบอ้อนวอนให้หลวงพ่ออโหสิกรรมให้ แต่หลวงพ่อกลับเมิน พร้อมระบุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย
โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายวิวัฒน์ โจรใจบาป “ลักทรัพย์” ส่วนนางวันทอง ที่รับฝากเงินที่นายวิวัฒน์ ขโมยมาข้อหา “รับของโจร” ด้วย
จากการสอบสวน นายวิวัฒน์ ยอมรับว่าเป็นหลานเจ้าอาวาส เคยมาอาศัยอยู่กับหลวงพ่อ และบวชเป็นพระที่วัด สึกออกไปได้ประมาณ 2 ปีกว่า จากนั้นก็ไม่ได้ทำงานอะไร ต่อมาไม่มีเงินใช้จึงมาขโมยเงินหลวงพ่อที่ซุกซ่อนไว้ในกุฏิหลายครั้ง ทุกครั้งจะก่อเหตุเพียงคนเดียวโดยอาศัยช่วงที่หลวงพ่อ และพระลูกวัดออกไปบิณฑบาต และรับกิจนิมนต์ไม่มีใครอยู่วัด พอได้เงินจะนำไปกินเหล้าเที่ยวเตร่ พอเงินหมดก็จะกลับมาขโมยซ้ำอยู่อย่างนี้เรื่อยมา แต่ละครั้งนี้ขโมยเป็นหลักแสน สุดท้ายหลวงพ่อรู้จึงแจ้งตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมได้ดังกล่าว