แพร่ - ชาวบ้านทั้งตำบลฮือต้านผู้ว่าฯ เอาป่าช้าสร้างศาลากลางจังหวัด ด้านสภาองค์กรชุมชนตำบล ชี้ผู้บริหารจังหวัดแพร่ ม่ให้ความสำคัญต่อกฎหมาย พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551
รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า มีกลุ่มชาวบ้านในหมู่ 1-4 ต.น้ำชำ อ.เมือง จ.แพร่ กลุ่มเยาวชนตำบลน้ำชำ จำนวน 300 คน ร่วมชุมนุมที่อาคารฌาปนสถาน (ป่าช้า) ตำบลน้ำชำ ต่อต้านการนำพื้นที่ป่าช้า และพื้นที่ป่าชุมชนจำนวน 147 ไร่ ไปทำศูนย์ราชการ อาคารศาลากลางจังหวัดแพร่แห่งใหม่ และมหาวิทยาลัยแพร่
โดยมี นายอำนวย พลหล้า ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลน้ำชำ เป็นแกนนำจัดประชุมสภาองค์กรชุมชนตำบลน้ำชำ ได้ทำหนังสือเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ นายพิเชษฐ์ เรือนสอน ตัวแทนสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแพร่ นางประชิด กาทองทุ่ง นายก อบต.ร่องฟอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจง
แต่ปรากฏว่า นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และนายอนุวัธ วงศ์วรรณ ายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ไม่มาตามคำเชิญ และไม่ส่งตัวแทน ทำให้ที่ประชุมชี้ให้เห็นว่า หน่วยงานบริหารจังหวัดไม่ให้ความร่วมมือ และไม่ให้ความสำคัญต่อ พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนตำบล พ.ศ.2551 ยังเป็นการละเมิด มาตรา 21 (6) จัดให้มีการปรึกษาหารือกันของประชาชนเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการให้ความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการ หรือกิจกรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชนที่มีผลหรืออาจก่อให้เกิดผลต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ สุขภาพอนามัยคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน
ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้ดำเนินการหรือเป็นผู้อนุญาตให้ภาคเอกชนดำเนินการต้องนำความเห็นดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาด้วย มาตรา 22 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานรัฐส่งเสริมสนับสนุนและให้ความร่วมมือ รวมตลอดทั้งชี้แจงทำความเข้าใจแก่สภาองค์กรชุมชนตำบล และชุมชนทุกประเภทตามที่ร้องขอ โดย นายอำนวย พลหล้า ประธานสภาฯ จะส่งหนังสือให้ชี้แจงเหตุผลของการไม่ให้ความร่วมมือต่อการประชุมในครั้งนี้
สำหรับผลการประชุม ชาวบ้านมีมติเอกฉันท์ไม่อนุญาตให้ทางราชการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ป่าช้า และป่าชุมชนดังกล่าวเป็นที่ก่อสร้างศาลากลางจังหวัดแพร่ และศูนย์ราชการในพื้นที่ รวม 146 ไร่ ซึ่งถ้ายังฝ่าฝืนความอาถรรพ์ของป่ากับป่าช้าจะลงโทษคนที่ฝ่าฝืนให้มีอันเป็นไป
นายเตชิต สุขวัฒนานนท์ แกนนำเยาวชนตำบลน้ำชำ กล่าวว่า ประเทศไทยมีปัญหาป่าถูกทำลาย มีการส่งเสริมปลูกป่าด้วยงบประมาณมหาศาล แต่บ้านน้ำชำ รักษาป่าไว้เป็นอย่างดีแต่กลับจะถูกทางราชการทำลายป่าเพื่อสร้างอาคาร กลุ่มเยาวชนไม่เห็นด้วย รวมทั้งป่าช้าที่มีประวัติการเผาศพ และฝังศพมานานกว่า 100 ปี เยาวชนขอพิทักษ์ผืนป่าไว้เป็นปอดของหมู่บ้านต่อไป
นายพิเชษฐ์ เรือนสอน ตัวแทนสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแพร่ กล่าวว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นนโยบายจังหวัดที่ต้องการใช้เป็นที่รองรับความเจริญในอนาคต โดยต้องการใช้ป่าช้าไปสร้างศาลากลางจังหวัดแพร่ มหาวิทยาลัยแพร่ วิทยาลัยชุมชน สำนักงาน ป.ป.ช.แพร่ รองรับความเจริญ และการการพัฒนาในอนาคต
ผลของการประชุม ที่ประชุมได้มีการขอประชามติโดยการโหวตเสียง ปรากฏว่า มีผู้ไม่เห็นด้วยต่อทางจังหวัดในการเอาป่าช้าไปทำศาลากลางจังหวัดมากถึง 100% ที่ไม่เห็นด้วยทั้ง 4 หมู่บ้าน หลังมีการลงประชามติจบ ชาวบ้านได้ร่วมกับเยาวชนสำรวจป่าสมุนไพร โดยมีหมอพื้นบ้านในท้องถิ่นนำเดินสำรวจเพื่อการขึ้นทะเบียนพันธุ์พืชท้องถิ่นชุมชนเป็นเจ้าของต่อไป