xs
xsm
sm
md
lg

เป็นเรื่อง! ผู้ว่าฯ สั่งสอบฮุบ “ป่าปาย” ขายนายทุนไทย-ต่างชาติยกกระบิแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เมืองสามหมอกสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหารุกป่าสงวนฯ ปายยกกระบิ หลัง “ASTVผู้จัดการ” นำเสนอข่าวต่อเนื่อง เล็งเป้าผู้ถือครองที่ดิน 4 รายสำคัญ ย้ำให้หาแนวทางคืนสิทธิ์วัดป่าโครงการพุทธอุทยานที่มีคนปลุกชาวบ้านไล่พระพ้นพื้นที่ด้วย แฉมีเจ้าหน้าที่เลี่ยงบาลีบอกชาวบ้านปล่อย “เช่า” แทน

วันนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ ทั้งเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ นำเสนอข่าวเกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน รวมถึงกรณีการขับไล่พระที่เคยจำพรรษาในที่พักงานวัดป่าเวียงเหนือมาอย่างต่อเนื่องแล้ว (อึ้ง! ชาวบ้านเดินหน้าไล่พระ-ปิดวัดป่าเมืองปาย บอกกลัวฮุบป่าช้าจนไม่มีที่เผาศพ, ผ่าเบื้องหลังไล่พระวัดป่าเมืองปาย หึ่งวัดดังจ้องฮุบ พบนายทุนรุก ซื้อขายที่ป่าโจ่งครึ่ม และ ตะลึง! ป่าสงวนเมืองปายกลายเป็นที่ดินจัดสรร ขายทั้งฝรั่ง-ทุนไทยยันชนเผ่า) นั้น

ล่าสุดนายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า จ.แม่ฮ่องสอน (คปป.จ.มส.) มีคำสั่งที่ 1/2558 ลงวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ นำเสนอข่าว “ตะลึงป่าสงวนฯ ปาย กลายเป็นที่ดินจัดสรร ขายต่างชาติ-คนไทย”

โดยระบุว่าตามที่หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ฉบับที่ 1876 ประจำวันจันทร์ ที่ 1 มิถุนายน 2558 หน้า 5 นำเสนอข่าว “ตะลึงป่าสงวนฯ ปาย กลายเป็นที่ดินจัดสรร ขายต่างชาติ-คนไทย” โดยในเนื้อข่าวได้นำเสนอว่ามีการซื้อขายที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ปายฝั่งซ้ายตอนบน ในบริเวณย่านวัดป่าเวียงเหนือ ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีเอกสารเป็นหนังสืออนุญาตให้สิทธิทำกินในเขตปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติ (สทก.) และมีอดีตข้าราชการ รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นตลอดจนชาวต่างชาติ และชนเผ่าต่างๆ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง บางส่วนได้มีการขายให้องค์กรศาสนาแห่งหนึ่งด้วย

ซึ่งต่อมาสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ มส.4 (ทุ่งยาว) ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้รับรายงานว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการถือครองเอกสารสิทธิหลายประเภท เช่น โฉนดที่ดิน เอกสารใบตอบรับ สทก. และหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.)

โดยในส่วนของพื้นที่ นสล.ใช้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ (ป่าช้า) อยู่ติดกับวัดป่าเวียงเหนือ (โครงการพุทธอุทยาน) และในบริเวณใกล้บ้านเป็นที่ตั้งของโบสถ์คริสต์ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบการถือครองเอกสารสิทธิของบุคคลต่างๆ ประกอบด้วย นายประพันธ์ ปฏิพันธกานต์, นายสวัสดิ์ ภูมิตระกุล, นายธนพัฒน์ ใสส่อง และนางพุทธชาด กันทะวงศ์

แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีพื้นฐานเกิดจากความขัดแย้งของบุคคลและกลุ่มบุคคลในพื้นที่ ซึ่งมีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน และเป็นเรื่องที่สาธารณชนและประชาชนคนทั่วไปได้ให้ความสนใจเป็นอันมาก ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีส่วนได้เสียทุกๆ ฝ่ายและเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยละเอียด

โดยในการดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ตลอดจนหลักเกณฑ์เงื่อนไข ระเบียบปฏิบัติต่างๆ ที่ได้กำหนดเอาไว้ อาศัยอำนาจตามคำสั่งคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ ที่ 7/2552 ลงวันที่ 1 ก.ค. 2552 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าระดับจังหวัด ข้อที่ 2.1 ข้อ 2.2 และข้อ 2.4

จึงตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง 1. นายอำเภอปาย หัวหน้าคณะทำงาน 2. เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดแม่ฮ่องสอนสาขาปาย คณะทำงาน 3. ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปาย คณะทำงาน 4. ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 5 กรมทหารราบที่ 7 หรือผู้แทน คณะทำงาน 6. กำนันตำบลเวียงเหนือ คณะทำงาน 7. หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.4 (ทุ่งยาว) คณะทำงานเลขาฯ 8. ปลัดอำเภอปาย (ฝ่ายความมั่นคง) คณะทำงานผู้ช่วยเลขาฯ

โดยให้คณะทำงานฯ มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1. สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมูลเหตุของความขัดแย้งที่แท้จริง จนนำไปสู่การรวมตัวของราษฎรในพื้นที่ เพื่อขับไล่ไม่ให้พระภิกษุสงฆ์อยู่ปฏิบัติพระธรรมวินัยบริเวณสำนักสงฆ์ วัดป่าเวียงเหนือ (โครงการพุทธอุทยาน)

2. ตรวจสอบเอกสารสิทธิการถือครองที่ดินของราษฎร และที่ดินสาธารณประโยชน์ในบริเวณโดยรอบสำนักสงฆ์วัดป่าเวียงเหนือ ว่าผู้ถือครองที่ดินประเภทต่างๆ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของเอกสารสิทธิในแต่ละประเภท รวมถึงการครอบครองที่ดิน ซึ่งอยู่ในลักษณะที่ได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผันจากทางราชการด้วยหรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะการถือครองเอกสารสิทธิของนายประพันธ์ ปฏิพันธกานต์, นายสวัสดิ์ ภูมิตระกุล, นายธนพัฒน์ ใสส่อง และนางพุทธชาด กันทะวงศ์

3. แสวงหาแนวทางเพื่อขจัดความขัดแย้งของบุคคลและกลุ่มบุคคลในพื้นที่ รวมถึงการสร้างความเข้าใจ และขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนในแขนงต่างๆ ให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าวในกรณีที่มีพื้นฐานจากความขัดแย้ง เพื่อเป็นการสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคม อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขโดยรวมของชุมชนบ้านเวียงเหนือ

โดยเฉพาะการบูรณปฏิสังขรณ์สำนักสงฆ์ วัดป่าเวียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในโครงการพุทธอุทยาน ที่กรมป่าไม้ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ให้กลับมามีสถานะเป็นสถานที่เคารพสักการะ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง

4. รายงานผลการปฏิบัติงานหรือรายงานความคืบหน้า ตลอดจนอุปสรรคขัดข้องรวมถึงข้อเสนอแนะในการดำเนินงาน ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน (คปป.จ.มส.) ทราบโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าหลังสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ นำเสนอข่าวดังกล่าวแล้ว มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ อ.ปาย เกือบตลอดอายุราชการ เคยย้ายออกนอกพื้นที่เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งในพื้นที่นานกว่า 10 ปี และทำรีสอร์ตหรูอยู่ในพื้นที่ อ.ปาย ได้ตระเวนบอกผู้ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินเขตป่าในพื้นที่ ต.เวียงเหนือ และได้ขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อรายใหม่ไปแล้ว ให้ทำสัญญา “เช่า” กับผู้ซื้อแทน พร้อมกับย้ำว่า หากใครถาม ก็ให้บอกว่า เป็นการเช่าเท่านั้น




กำลังโหลดความคิดเห็น