สุราษฎร์ธานี - ปิดตำนานสำนักงานกองบัญชาการภาค 8 สุราษฎร์ธานี อย่างถาวร หลังบริการรับใช้ประชาชนมาถึง 22 ปี พร้อมเปิดให้บริการประชาชนในสถานที่แห่งใหม่ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นวันแรกที่เกาะภูเก็ต ขณะที่เจ้าหน้าที่บางรายหวั่นผีหลอก เหตุที่ตั้งแห่งใหม่เป็นสุสานฝังศพไร้ญาติ
ถ้าพูดถึงสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 หลายๆ คนก็ต้องมุ่งไปที่ เลขที่ 26 ถนนจุลจอมเกล้า ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีอายุมากว่า 22 ปีแล้ว โดยสำนักงานภูธรภาค 8 จ.สุราษฎร์ธานี เป็นที่ตั้งเดิมของกองบังคับการตำรวจภูธร 10 (บก.ภ.10) เดิมกองบังคับการตำรวจภูธร 10 เป็นกองบังคับการตำรวจภูธรหนึ่งของกองบัญชาการตำรวจภูธร 4 (บช.ภ.4) เดิม โดยกองบังคับการตำรวจภูธร 10 รับผิดชอบพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, ชุมพร, ระนอง, พังงา และ ภูเก็ต ต่อมา เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2537 ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2536 มีการปรับโครงสร้างกรมตำรวจ ตำรวจภูธรได้ถูกแบ่งเป็น 9 ภาค (เดิมมี 4 กองบัญชาการภาค)
โดยสำนักงานตำรวจภาค 8 ให้รับผิดชอบพื้นที่ของ บก.ภ.10 เดิม ทั้งหมด และให้ จ.นครศรีธรรมราช และกระบี่ ซึ่งเดิมขึ้นการบังคับบัญชาต่อ บก.ภ.11 มาขึ้นกับสำนักงานตำรวจภาค 8 และมีที่ตั้งของสำนักงานตำรวจภาค 8 อยู่ในที่ตั้งที่เดิมของ บก.ภ.10 โดยกรมตำรวจได้มอบหมายให้ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ทำหน้าที่หัวหน้าตำรวจภาค 8 เป็นผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วย มีผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการเป็นรองหัวหน้าภาค 8 และผู้ช่วยผู้บัญชาการเป็นผู้ช่วยหัวหน้าภาค 8
หลังจากนั้น ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2539 จัดตั้งตำรวจภูธรภาค 1-9 ขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2539 มีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วย โดยให้ตำรวจภูธรภาค 8 รับผิดชอบพื้นที่ของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ทั้งหมด จึงทำให้ตำรวจภูธรภาค 8 ทั้งหมดในปัจจุบัน มีพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัด ซึ่งสามารถจำแนกพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่งทะเล คือ ฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย ได้แก่ จังหวัดชุมพร, สุราษฎร์ธานี,นครศรีธรรมราช และฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ จังหวัดระนอง, พังงา, กระบี่, ภูเก็ต ถือได้ว่าตำรวจภาค 8 รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 8 จังหวัด ของประเทศไทย ทิศเหนือจดเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทิศตะวันออกจดทะเลด้านอ่าวไทย ทิศตะวันตกจดทะเลอันดามัน และทิศใต้จดเขต จังหวัดสงขลา, พัทลุง และตรัง
จึงนับได้ว่า สำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 หลังจากปรับโครงสร้างแล้วได้ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาเป็นเวลา 22 ปี และจะปิดทำการอย่างถาวรลงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 นี้ ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีมติอนุมัติโครงการย้ายสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ไปยังจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 ซึ่งเกิดขึ้นในสมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเป็นผู้วางศิลาฤกษ์ โดยใช้พื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ แปลงหมายเลขที่ ภก.153 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 185 ไร่ 2 งาน 13 ตารางวา ก่อสร้างเป็นศูนย์ราชการตำรวจภูธรภาค 8 มีบ้านพัก ศูนย์ฝึกยุทธวิธี สโมสร สนามกีฬา มูลค่า 169 ล้านบาท
โดยอ้างเหตุผลว่า ที่เดิมคับแคบไม่เหมาะที่จะเป็นกองบัญชาการ ส่วนที่ใหม่มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์ของประชาชน พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนตัวสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ที่เดิม ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า จะใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไป
สำหรับบรรยากาศที่สำนักงานกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 เป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่เวรยามดูแลความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีการขนย้ายอุปกรณ์ไปแล้วกว่า 90% ยังคงเหลือระบบการสื่อสารเพียงเท่านั้น และจะปิดทำการถาวรในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ในส่วนแฟลตตำรวจด้านหลังสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ยังคงมีครอบครัวของเจ้าหน้าที่อาศัยยังอยู่ครบ คงมีเพียงตัวเจ้าหน้าที่ในสังกัดจะต้องเดินทางไปประจำทำงานที่สำนักงานแห่งใหม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากที่พักสำนักงานแห่งใหม่ยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ประกอบพื้นที่ยังอยู่ห่างไกลตัวเมืองกว่า 20 กิโลเมตร หากครอบครัวย้ายตามไปด้วยจะมีความลำบาก และยุ่งยาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่สร้างความหวาดกลัวให้แก่ครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นเรื่องสถานที่ตั้งแห่งใหม่นั้น เดิมเป็นป่าช้าเก่าที่ใช้เป็นที่ฝังศพผีไม่มีญาติ และค่อนข้างจะเฮี้ยนล่าสุด เจ้าหน้าที่ นปพ. ที่เข้าเวรเจอสิ่งไม่คาดฝันเข้าเต็มๆ ยังอยู่ในอาการขวัญผวา จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งหญิง และชายต่างหวาดวิตกเรื่องดังกล่าว
ถ้าพูดถึงสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 หลายๆ คนก็ต้องมุ่งไปที่ เลขที่ 26 ถนนจุลจอมเกล้า ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีอายุมากว่า 22 ปีแล้ว โดยสำนักงานภูธรภาค 8 จ.สุราษฎร์ธานี เป็นที่ตั้งเดิมของกองบังคับการตำรวจภูธร 10 (บก.ภ.10) เดิมกองบังคับการตำรวจภูธร 10 เป็นกองบังคับการตำรวจภูธรหนึ่งของกองบัญชาการตำรวจภูธร 4 (บช.ภ.4) เดิม โดยกองบังคับการตำรวจภูธร 10 รับผิดชอบพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, ชุมพร, ระนอง, พังงา และ ภูเก็ต ต่อมา เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2537 ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2536 มีการปรับโครงสร้างกรมตำรวจ ตำรวจภูธรได้ถูกแบ่งเป็น 9 ภาค (เดิมมี 4 กองบัญชาการภาค)
โดยสำนักงานตำรวจภาค 8 ให้รับผิดชอบพื้นที่ของ บก.ภ.10 เดิม ทั้งหมด และให้ จ.นครศรีธรรมราช และกระบี่ ซึ่งเดิมขึ้นการบังคับบัญชาต่อ บก.ภ.11 มาขึ้นกับสำนักงานตำรวจภาค 8 และมีที่ตั้งของสำนักงานตำรวจภาค 8 อยู่ในที่ตั้งที่เดิมของ บก.ภ.10 โดยกรมตำรวจได้มอบหมายให้ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ทำหน้าที่หัวหน้าตำรวจภาค 8 เป็นผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วย มีผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการเป็นรองหัวหน้าภาค 8 และผู้ช่วยผู้บัญชาการเป็นผู้ช่วยหัวหน้าภาค 8
หลังจากนั้น ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2539 จัดตั้งตำรวจภูธรภาค 1-9 ขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2539 มีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วย โดยให้ตำรวจภูธรภาค 8 รับผิดชอบพื้นที่ของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ทั้งหมด จึงทำให้ตำรวจภูธรภาค 8 ทั้งหมดในปัจจุบัน มีพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัด ซึ่งสามารถจำแนกพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่งทะเล คือ ฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย ได้แก่ จังหวัดชุมพร, สุราษฎร์ธานี,นครศรีธรรมราช และฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ จังหวัดระนอง, พังงา, กระบี่, ภูเก็ต ถือได้ว่าตำรวจภาค 8 รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 8 จังหวัด ของประเทศไทย ทิศเหนือจดเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทิศตะวันออกจดทะเลด้านอ่าวไทย ทิศตะวันตกจดทะเลอันดามัน และทิศใต้จดเขต จังหวัดสงขลา, พัทลุง และตรัง
จึงนับได้ว่า สำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 หลังจากปรับโครงสร้างแล้วได้ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาเป็นเวลา 22 ปี และจะปิดทำการอย่างถาวรลงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 นี้ ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีมติอนุมัติโครงการย้ายสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ไปยังจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 ซึ่งเกิดขึ้นในสมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเป็นผู้วางศิลาฤกษ์ โดยใช้พื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ แปลงหมายเลขที่ ภก.153 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 185 ไร่ 2 งาน 13 ตารางวา ก่อสร้างเป็นศูนย์ราชการตำรวจภูธรภาค 8 มีบ้านพัก ศูนย์ฝึกยุทธวิธี สโมสร สนามกีฬา มูลค่า 169 ล้านบาท
โดยอ้างเหตุผลว่า ที่เดิมคับแคบไม่เหมาะที่จะเป็นกองบัญชาการ ส่วนที่ใหม่มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์ของประชาชน พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนตัวสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ที่เดิม ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า จะใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไป
สำหรับบรรยากาศที่สำนักงานกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 เป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่เวรยามดูแลความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีการขนย้ายอุปกรณ์ไปแล้วกว่า 90% ยังคงเหลือระบบการสื่อสารเพียงเท่านั้น และจะปิดทำการถาวรในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ในส่วนแฟลตตำรวจด้านหลังสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ยังคงมีครอบครัวของเจ้าหน้าที่อาศัยยังอยู่ครบ คงมีเพียงตัวเจ้าหน้าที่ในสังกัดจะต้องเดินทางไปประจำทำงานที่สำนักงานแห่งใหม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากที่พักสำนักงานแห่งใหม่ยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ประกอบพื้นที่ยังอยู่ห่างไกลตัวเมืองกว่า 20 กิโลเมตร หากครอบครัวย้ายตามไปด้วยจะมีความลำบาก และยุ่งยาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่สร้างความหวาดกลัวให้แก่ครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นเรื่องสถานที่ตั้งแห่งใหม่นั้น เดิมเป็นป่าช้าเก่าที่ใช้เป็นที่ฝังศพผีไม่มีญาติ และค่อนข้างจะเฮี้ยนล่าสุด เจ้าหน้าที่ นปพ. ที่เข้าเวรเจอสิ่งไม่คาดฝันเข้าเต็มๆ ยังอยู่ในอาการขวัญผวา จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งหญิง และชายต่างหวาดวิตกเรื่องดังกล่าว