พังงา - ชาวมอแกนบ้านทุ่งหว้า จ.พังงา หวั่นไม่มีที่ให้ฝังศพชาวมอแกนที่เสียชีวิต ทั้งที่เป็นสุสาน และป่าช้าของชาวมอแกนมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ร้องสื่อช่วยตรวจสอบ พร้อมร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา หวั่นเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างมอแกน กับชาวบ้านในพื้นที่
วันนี้ (28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวมอแกน บ้านทุ่งหว้า หมู่ที่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากพบว่า มีชาวมอแกนกำลังประสบปัญหาความเดือนร้อน เนื่องจากไม่สามารถใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ฝังศพผู้เสียชีวิตมาฝังตามพิธีกรรมของชาวมอแกนได้ เพราะขณะนี้ถูกชาวบ้านในพื้นที่ตำบลคึกคัก คัดค้านไม่ให้มีการฝังศพในที่ดิน นสล.ทุ่งวัวกระทิง(ป่าช้า) เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ 1 งาน โดยชาวมอแกนอ้างว่า ที่ดินดังกล่าวเคยเป็นที่ฝังศพชาวมอแกนตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จนถึงปัจจุบัน
แต่เมื่อความเจริญด้านการท่องเที่ยวเริ่มเติบโต จนส่งผลกระทบให้ชาวมอแกนที่เคยใช้ชีวิตตามขนบธรรมเนียมแบบโบราณต้องถูกรุกไปในที่สุด ซึ่งขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นทางนายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า ก็ได้รับทราบปัญหา และจะมีการเรียกผู้นำชาวมอแกน ชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่าย ประชุมเพื่อหาทางออกของเรื่องนี้โดยเร็ว
นายห้อง กล้าทะเล ชาวมอแกนบ้านทุ่งหว้า กล่าวว่า ขณะที่ตน และชาวมอแกนได้นำศพนางกิ้มตั้น กล้าทะเล อายุ 58 ปี ซึ่งเสียชีวิตขณะนั่งรถกระบะกลับจากงานศพแล้วเกิดมีกิ่งไม้ขนาดใหญ่หักใส่ขณะรถแล่นผ่าน ทำให้มีชาวมอแกนเสียชีวิต 2 คน และได้มีการนำศพของนางกิ้มตั้นมาประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของชาวมอแกน ก่อนที่จะนำร่างลงสู่หลุมที่ขุดเตรียมไว้เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านในพื้นที่ของตำบลคึกคักกลับไม่ยอมให้ฝัง โดยให้เหตุผลว่า ไม่เหมาะสมที่จะฝังเนื่องจากว่าอยู่บริเวณหน้าวัดผดุงธรรมโพธิวาส เพราะพื้นที่บริเวณนี้จะใช้เป็นที่จอดรถของญาติโยมที่มาทำบุญ และจะมีแผนการสร้างเมรุเผาศพบริเวณนี้ด้วย
แต่ทางชาวมอแกนบ้านทุ่งหว้าทุกคนไม่ยอม เนื่องจากว่าบริเวณที่ฝังศพนี้เป็นที่ดินที่ชาวมอแกน และชาวมอแกนก็ได้ทำการฝังศพมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ สมัยปู่ย่าตายายที่เสียชีวิตก็จะนำศพมาฝังที่นี่ จึงอยากขอความเป็นธรรมต่อชาวมอแกนบ้านทุ่งหว้า และฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดการทะเลาะระหว่างชาวมอแกน กับชาวบ้านไทยพุทธ ถ้าเกิดมีการนำศพที่เสียชีวิตไปฝังอีก
ทางด้าน นายอำพล จุลเทพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 กล่าวว่า เป็นการเข้าใจผิดของชาวมอแกน เพราะว่าที่ดินที่ชาวมอแกนที่ใช้เป็นที่ฝังศพนั้นเป็นที่ดิน นสล.ทุ่งวัวกระทิง (ป่าช้า) พลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งทุกคนสามารถใช้ที่ดินผืนนี้ร่วมกันได้ ไม่ใช่แค่ชาวมอแกนเท่านั้น แต่ชาวมอแกนเกิดความกลัวว่า ชาวไทยพุทธจะไปแย่งที่ดินผืนนี้ และชาวมอแกนก็จะไม่มีที่สำหรับฝังศพ ส่วนทางชาวบ้านเองมองว่า ไม่เหมาะสมหากจะฝังศพที่บริเวณหน้าวัดซึ่งอยู่ห่างจากถนนที่มีรถสัญจรไปมาจำนวนมากไม่ถึง 10 เมตร
สำหรับที่ดินที่กำลังมีปัญหานั้น มีเนื้อที่ 15ไร่ 1 งาน ซึ่งความจริงยังมีพื้นที่อีกมากที่เหมาะต่อการฝังศพ แต่ทำไมชาวมอแกนไม่นำศพไปฝัง แต่จงใจที่จะฝังบริเวณหน้าวัดตรงซุ้มประตูทางเข้าวัด ตอนนี้ได้มีการตกลงพูดคุยกันระหว่างชาวมอแกน กับชาวไทยพุทธเพื่อหาทางออก หาข้อยุติเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน
วันนี้ (28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวมอแกน บ้านทุ่งหว้า หมู่ที่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากพบว่า มีชาวมอแกนกำลังประสบปัญหาความเดือนร้อน เนื่องจากไม่สามารถใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ฝังศพผู้เสียชีวิตมาฝังตามพิธีกรรมของชาวมอแกนได้ เพราะขณะนี้ถูกชาวบ้านในพื้นที่ตำบลคึกคัก คัดค้านไม่ให้มีการฝังศพในที่ดิน นสล.ทุ่งวัวกระทิง(ป่าช้า) เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ 1 งาน โดยชาวมอแกนอ้างว่า ที่ดินดังกล่าวเคยเป็นที่ฝังศพชาวมอแกนตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จนถึงปัจจุบัน
แต่เมื่อความเจริญด้านการท่องเที่ยวเริ่มเติบโต จนส่งผลกระทบให้ชาวมอแกนที่เคยใช้ชีวิตตามขนบธรรมเนียมแบบโบราณต้องถูกรุกไปในที่สุด ซึ่งขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นทางนายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า ก็ได้รับทราบปัญหา และจะมีการเรียกผู้นำชาวมอแกน ชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่าย ประชุมเพื่อหาทางออกของเรื่องนี้โดยเร็ว
นายห้อง กล้าทะเล ชาวมอแกนบ้านทุ่งหว้า กล่าวว่า ขณะที่ตน และชาวมอแกนได้นำศพนางกิ้มตั้น กล้าทะเล อายุ 58 ปี ซึ่งเสียชีวิตขณะนั่งรถกระบะกลับจากงานศพแล้วเกิดมีกิ่งไม้ขนาดใหญ่หักใส่ขณะรถแล่นผ่าน ทำให้มีชาวมอแกนเสียชีวิต 2 คน และได้มีการนำศพของนางกิ้มตั้นมาประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของชาวมอแกน ก่อนที่จะนำร่างลงสู่หลุมที่ขุดเตรียมไว้เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านในพื้นที่ของตำบลคึกคักกลับไม่ยอมให้ฝัง โดยให้เหตุผลว่า ไม่เหมาะสมที่จะฝังเนื่องจากว่าอยู่บริเวณหน้าวัดผดุงธรรมโพธิวาส เพราะพื้นที่บริเวณนี้จะใช้เป็นที่จอดรถของญาติโยมที่มาทำบุญ และจะมีแผนการสร้างเมรุเผาศพบริเวณนี้ด้วย
แต่ทางชาวมอแกนบ้านทุ่งหว้าทุกคนไม่ยอม เนื่องจากว่าบริเวณที่ฝังศพนี้เป็นที่ดินที่ชาวมอแกน และชาวมอแกนก็ได้ทำการฝังศพมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ สมัยปู่ย่าตายายที่เสียชีวิตก็จะนำศพมาฝังที่นี่ จึงอยากขอความเป็นธรรมต่อชาวมอแกนบ้านทุ่งหว้า และฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดการทะเลาะระหว่างชาวมอแกน กับชาวบ้านไทยพุทธ ถ้าเกิดมีการนำศพที่เสียชีวิตไปฝังอีก
ทางด้าน นายอำพล จุลเทพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 กล่าวว่า เป็นการเข้าใจผิดของชาวมอแกน เพราะว่าที่ดินที่ชาวมอแกนที่ใช้เป็นที่ฝังศพนั้นเป็นที่ดิน นสล.ทุ่งวัวกระทิง (ป่าช้า) พลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งทุกคนสามารถใช้ที่ดินผืนนี้ร่วมกันได้ ไม่ใช่แค่ชาวมอแกนเท่านั้น แต่ชาวมอแกนเกิดความกลัวว่า ชาวไทยพุทธจะไปแย่งที่ดินผืนนี้ และชาวมอแกนก็จะไม่มีที่สำหรับฝังศพ ส่วนทางชาวบ้านเองมองว่า ไม่เหมาะสมหากจะฝังศพที่บริเวณหน้าวัดซึ่งอยู่ห่างจากถนนที่มีรถสัญจรไปมาจำนวนมากไม่ถึง 10 เมตร
สำหรับที่ดินที่กำลังมีปัญหานั้น มีเนื้อที่ 15ไร่ 1 งาน ซึ่งความจริงยังมีพื้นที่อีกมากที่เหมาะต่อการฝังศพ แต่ทำไมชาวมอแกนไม่นำศพไปฝัง แต่จงใจที่จะฝังบริเวณหน้าวัดตรงซุ้มประตูทางเข้าวัด ตอนนี้ได้มีการตกลงพูดคุยกันระหว่างชาวมอแกน กับชาวไทยพุทธเพื่อหาทางออก หาข้อยุติเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน
