ฉะเชิงเทรา - อ่างเก็บน้ำสียัด ยักษ์ใหญ่ภาคตะวันออก กลับมาแห้งขอดอีกครั้งหลังฝนหยุดตก เหลือน้ำหล่อเลี้ยงระบบนิเวศได้อีกแค่ 16 วัน ขณะน้ำเค็มหนุนในแม่น้ำบางปะกงเริ่มดีขึ้น หลังน้ำจากเขตป่าเขาใหญ่ไหลลงมาช่วยผลักดันจนกร่อย ถอยลงมาจนเกือบถึงเขต จ.ฉะเชิงเทรา
วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำเค็มหนุนในลำน้ำบางปะกงที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานกว่าทุกปีที่ผ่านมา รวมกว่า 7 เดือนเต็มแล้ว จนถึงขณะนี้พบว่า จากข้อมูลผลการตรวจวัด โดยสำนักงานชลประทานฉะเชิงเทรา พบว่า ภาวะน้ำเค็มได้เริ่มถอยร่นลงมาจากในเขต จ.ปราจีนบุรี ลงมาจนเกือบถึงเขต จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากได้รับน้ำจืดจากป่าเขาใหญ่ที่ไหลลงมาเป็นน้ำต้นทุนช่วยผลักดันน้ำเค็มให้เลื่อนระดับการรุกล้ำลงมา
โดยผลการตรวจวัดค่าความเค็มของน้ำในแม่น้ำบางปะกง ที่บริเวณเขตรอยต่อระหว่าง ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา และ ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี พบค่าความเค็มลดลงเหลือเพียงแค่ 0.5 กรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นน้ำกร่อยที่ใกล้จะจืดสนิทแล้ว และคาดว่าในวันที่ 7 ส.ค. น้ำเค็มจะร่นถอยลงมาจนถึงยังในเขตพื้นที่ อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณสถานีสูบน้ำดิบของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้บริษัทแห่งนี้สามารถสูบน้ำจืดส่งไปเก็บกักไว้ได้ยังในอ่างเก็บน้ำบางพระที่ จ.ชลบุรี
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก นายทินกร รัตนพัวพันธ์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำเขื่อนคลองสียัด อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด ไม่มีน้ำไหลลงอ่างอีกแล้ว หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาในบริเวณป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จึงทำให้มีน้ำไหลลงสู่ด้านท้ายอ่างได้ประมาณ 4 วัน รวมปริมาณน้ำที่ได้เพิ่มเข้ามาในอ่างสียัดประมาณ 4 ล้าน ลบ.ม. จากความจุของตัวอ่าง 420 ล้าน ลบ.ม.
และขณะนี้ภายในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด ยังคงมีปริมาณน้ำเหลืออยู่น้อยมากเพียง 33.36 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 7.94% เป็นน้ำที่สามารถระบายลงไปหล่อเลี้ยงระบบนิเวศได้เพียง 3.36 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 16.8 วันเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้รระบายน้ำหล่อเลี้ยงระบบนิเวศ 2 แสนลบ.ม.ต่อวัน