นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง หรือ กปน. แจ้งว่า ช่วงนี้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้นมาถึงจุดรับน้ำดิบของ กปน.ที่สถานีสูบน้ำดิบสำแล ปทุมธานี ค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ขยับขึ้นตั้งแต่คืนวันเสาร์ มาสูงสุดเมื่อวาน 1.04 กรัมต่อลิตร และวันนี้ 0.9 กรัม ต่อลิตร เค็มกว่าค่ามาตรฐานต้อง 0.25 ถึงไม่เกิน 0.5 กรัม
ทั้งนี้ กปน. แจ้ง 11 พื้นที่เสี่ยงน้ำประปาเค็ม ฝั่งพระนคร ได้แก่ สำนักงานประปาสาขาสุขุมวิท พระโขนง สมุทรปราการ แม้นศรี ทุ่งมหาเมฆ ลาดพร้าว พญาไท มีนบุรี สุวรรณภูมิ ประชาชื่น และบางเขน
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์น้ำไหลเติมเขื่อนจะดีขึ้น แต่รายงานล่าสุดพบว่า นับจากวันนี้จนถึงวันจันทร์ (18-20 ก.ค.) จะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงมาก ซึ่งหากไม่มีการปล่อยน้ำไปผลักดันจะส่งผลต่อระบบการผลิตน้ำประปาทั้งระบบ ทำให้น้ำบริโภคกลายเป็นน้ำกร่อย ซึ่งไม่เหมาะแก่การบริโภคของเด็กและผู้ป่วย ตลอดจนประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ในช่วงระหว่างวันเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ ที่จะถึงนี้ คือ วันที่ 18-20 กรกฎาคม ขอเกษตรกรงดการสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรโดยเด็ดขาด เพราะต้องใช้น้ำปริมาณมากพอในการผลักดันน้ำทะเลไม่ให้ทะลักเข้าสู่ระบบประปาได้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องการวินัยและการปฏิบัติตามคำประกาศอย่างเคร่งครัด
ขณะที่กรมอุทกศาสตร์ คาดว่าน้ำทะเลหนุนสูงสุดเมื่อวานนี้ เวลา 19.30 น. ที่ปากอ่าวไทย สมุทรปราการ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จะขึ้นไปอยู่ที่ 1.12 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง น้ำเค็มที่หนุนขึ้นมาจากปากอ่าวอาจหนุนเข้าไปได้ถึงอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ เพราะน้ำในเขื่อนระบายลงมาไม่พอไล่น้ำเค็ม ภาวะน้ำทะเลหนุนสูงจะเป็นไปอีก 2-3 วัน
อย่างไรก็ตามการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ได้หารือกับกรมชลประทาน สั่งเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมาจาก 70 เป็น 85 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผลักดันน้ำเค็ม ให้ผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ
ทั้งนี้ กปน. แจ้ง 11 พื้นที่เสี่ยงน้ำประปาเค็ม ฝั่งพระนคร ได้แก่ สำนักงานประปาสาขาสุขุมวิท พระโขนง สมุทรปราการ แม้นศรี ทุ่งมหาเมฆ ลาดพร้าว พญาไท มีนบุรี สุวรรณภูมิ ประชาชื่น และบางเขน
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์น้ำไหลเติมเขื่อนจะดีขึ้น แต่รายงานล่าสุดพบว่า นับจากวันนี้จนถึงวันจันทร์ (18-20 ก.ค.) จะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงมาก ซึ่งหากไม่มีการปล่อยน้ำไปผลักดันจะส่งผลต่อระบบการผลิตน้ำประปาทั้งระบบ ทำให้น้ำบริโภคกลายเป็นน้ำกร่อย ซึ่งไม่เหมาะแก่การบริโภคของเด็กและผู้ป่วย ตลอดจนประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ในช่วงระหว่างวันเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ ที่จะถึงนี้ คือ วันที่ 18-20 กรกฎาคม ขอเกษตรกรงดการสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรโดยเด็ดขาด เพราะต้องใช้น้ำปริมาณมากพอในการผลักดันน้ำทะเลไม่ให้ทะลักเข้าสู่ระบบประปาได้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องการวินัยและการปฏิบัติตามคำประกาศอย่างเคร่งครัด
ขณะที่กรมอุทกศาสตร์ คาดว่าน้ำทะเลหนุนสูงสุดเมื่อวานนี้ เวลา 19.30 น. ที่ปากอ่าวไทย สมุทรปราการ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จะขึ้นไปอยู่ที่ 1.12 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง น้ำเค็มที่หนุนขึ้นมาจากปากอ่าวอาจหนุนเข้าไปได้ถึงอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ เพราะน้ำในเขื่อนระบายลงมาไม่พอไล่น้ำเค็ม ภาวะน้ำทะเลหนุนสูงจะเป็นไปอีก 2-3 วัน
อย่างไรก็ตามการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ได้หารือกับกรมชลประทาน สั่งเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมาจาก 70 เป็น 85 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผลักดันน้ำเค็ม ให้ผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ
