ฉะเชิงเทรา - ฝนถล่มแปดริ้วอย่างหนักนานกว่า 2 ชม. ทำพื้นที่ชุ่มฉ่ำไปทั่วทั้งเมือง ส่งผลถนนลื่นทำเกิดอุบัติตามเส้นทางการสัญจรในหลายจุดพร้อมกัน ขณะอ่างสียัด ต้นน้ำยักษ์ใหญ่ภาคตะวันออกยังไม่ฟื้น แม้จะเริ่มมีฝนตกลงมาในอ่างบ้างแล้วก็ตาม แต่ปริมาณน้ำไหลลงท้ายอ่างยังไม่กระเตื้อง
วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อเวลา 06.30 น.จนถึงช่วงเวลา 08.30 น.ที่ผ่านมา ในเขตที่ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เกิดมีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องแบบยาวนานถึงกว่า 2 ชม. จนทำให้พื้นดินที่แห้งแล้งขาดน้ำหล่อเลี้ยงมานานชุ่มฉ่ำ จนบางจุดมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะบนถนนหลายสาย ระบบการระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำฝนที่ตกลงมาออกสู่แม่น้ำบางปะกงได้ทัน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุดภายในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทรา
โดยที่บริเวณทางสามแยกโรงเรียนเทศบาล 2 ต่อเนื่องไปจนถึงถนนเทพคุณากรนั้น มีน้ำท่วมขังบริเวณไหล่ทาง โดยในช่วงที่ฝนตกลงมาอย่างหนักสูงสุดนั้นทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นผิวการจราจรในปริมาณสูงมากจนเกือบถึงกึ่งกลางถนน ขณะที่บริเวณถนนศรีโสธรตัดใหม่นั้น มีน้ำท่วมขังที่บริเวณไหล่ทางด้วยเช่นเดียวกัน
จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักดังกล่าวได้ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นพร้อมกันบนท้องถนนหลายจุดในชั่วโมงเร่งด่วน เช่น ที่บนถนนเรืองวุฒิ เส้นทางผ่านด้านหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งส่วนบุคคลพุ่งชนกันกับรถสามล้อตุ๊กตุ๊ก บริเวณด้านหน้าสำนักงานที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา และบนสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ ทางข้ามแม่น้ำบางปะกง มีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนท้ายกัน เนื่องจากถนนลื่น จึงทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักในชั่วโมงเร่งด่วนตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยข้อมูลถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จาก นายทินกร รัตนพัวพันธ์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำเขื่อนคลองสียัด ว่า สถานการณ์น้ำในอ่างสียัด วันนี้มีปริมาณน้ำคงเหลืออยู่ที่ระดับ 32.59 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 7.76 ของความจุอ่าง ที่ 420 ล้าน ลบ.ม. โดยมีปริมาณน้ำฝนตกลงมาในอ่างในปริมาณ 11 มิลลิเมตร แต่ยังไม่มีน้ำไหลลงอ่าง หรือปริมาณน้ำไหลลงอ่างยังคงเป็น 0 แม้จะมีฝนตกลงมาโดยรอบพื้นที่แล้วก็ตาม
ส่วนการระบายน้ำลงสู่คลองสียัด เพื่อรักษาระบบนิเวศนั้นยังคงมีการระบายอยู่ในปริมาณ 200,000 ลบ.ม.ต่อวัน และปริมาณน้ำที่ยังคงเหลืออยู่ในอ่างนี้สามารถที่จะระบายลงสู่คลองสียัดเพื่อรักษาระบบนิเวศได้อีกเพียงแค่ 2.59 ล้าน ลบ.ม. หรือจะหล่อเลี้ยงระบบนิเวศได้อีกเพียง 12 วันเท่านั้น