กาญจนบุรี - ทึ่ง! นายกเล็กสระลงเรือ เมืองกาญจนบุรี นำชาวบ้านแห่นางแมวขอฝน ไม่ถึงชั่วโมงฟ้ามืดฝนเทกระหน่ำเกือบทั่วพื้นที่ครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ส่วนวิกฤตภัยแล้งยังหนัก คลองส่งน้ำเกือบแห้งสนิท ชาวไร่ยังต้องดิ้นรนต่อไป วอนนายกฯ สั่งพักหนี้เกษตรกร
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 ก.ค.) นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี และนายสมยง เป้าเพ็ชร ประธานสภาเทศบาลตำบลสระลงเรือ พร้อมด้วย นายพิจิตร ธีระเสถียร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนราษฎรที่ประสบกับวิกฤตปัญหาภัยแล้ง พร้อมทั้งตรวจสอบปริมาณน้ำที่มีอยู่ในโครงการชลประทานขนาดเล็ก ฝายทดน้ำห้วยหินชา ที่ใช้สำหรับการเกษตร การอุปโภคบริโภคของชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 13 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา กว่า 90 หลังคาเรือน
จากการตรวจสอบพบว่า ปริมาณน้ำที่มีอยู่สูงเพียงแค่ประมาณหัวเข่า สภาพน้ำมีสีเหลืองขุ่น เช่นเดียวกับสระน้ำหมู่บ้านที่อยู่ติดกันน้ำก็เริ่มแห้งขอด พื้นดินเริ่มแตกระแหงเป็นบริเวณกว้าง ส่วนพืชเกษตรที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ เช่น ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง ทั้งหมดที่มีอยู่ก็เริ่มยืนต้นตาย
นายประสงค์ อ๊อดยาดี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 13 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนเช่าที่ปลูกอ้อยประมาณ 20 กว่าไร่ ทุกปีที่ผ่านมาไม่เคยแล้งเช่นนี้มาก่อน ตนจำได้ว่าตั้งแต่ปลูกอ้อนมาตั้งแต่ต้นปี จนป่านนี้ยังไม่เจอฝนเลยแม้แต่ครั้งเดียว อ้อยสภาพที่เห็นอยู่ตนคิดว่าคงจะไม่สามารถตัดเข้าสู่โรงงานได้อย่างแน่นอน เพราะอีกไม่นานโรงงานก็จะเปิดหีบอ้อยแล้ว ซึ่งตนเชื่อว่าชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรในพื้นที่ ต.สระลงเรือ และ อ.ห้วยกระเจาทั้งอำเภอ น่าจะเป็นเหมือนกันทั้งหมด เพราะสภาพในพื้นที่เหมือนกันหมด อีกทั้งน้ำบาดาลก็เจาะไม่ออก เพราะน้ำไม่มี ส่วนไร่มันสำปะหลังที่ตนเช่า จำนวน 60 ไร่ ก็กำลังจะแห้งตายเกือบทั้งหมดเช่นกัน
ดังนั้น ตนจึงอยากขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ลงมาดูแล และให้การช่วยเหลือชาวไร่อย่างพวกเรา ด้วยการช่วยผ่อนผันดอกเบี้ยเงินกู หรือพักหนี้ที่ชาวไร่กูมาจาก ธ.ก.ส. เพื่อนำเงินมาลงทุน สำหรับต้นทุนที่ตนลงไปรวมทั้งค่าปุ๋ยค่ายา และอื่นๆ ประมาณ 1 แสนบาท แต่เมื่อพวกเราไม่สามารถตัดอ้อยป้อนให้แก่โรงงานได้เหมือนทุกปีที่ผ่านมา จึงทำให้ทุกคนต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และปีใหม่นี้ชาวไร่ที่กู้เงินมาจะต้องส่งดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารแล้ว ซึ่งยังไม่รู้จะไปเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้แก่ธนาคาร ส่วนน้ำที่มีอยู่ในคลองชลประทานเชื่อว่าหากฝนไม่ตกลงมา ประมาณไม่เกินกลางเดือนสิงหาคมนี้ น้ำก็คงจะแห้งขอดอย่างแน่นอน
ด้าน นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ กล่าวว่า สำหรับเทศบาลตำบลสระลงเรือ มีทั้งหมด 17 หมู่บ้าน เนื้อที่ 125 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 78,463 ไร่ ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ทำไร่ ทำนา แต่ปัจจุบันชาวนาไม่ได้ทำนาแล้วเนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง ส่วนชาวไร่ก็กำลังประสบปัญหาต่อภัยแล้งอยู่เช่นกัน เนื่องจากในพื้นที่ฝนไม่ตกลงมาประมาณ 10 เดือนแล้ว ผืนดินก็เริ่มแตกระแหง สระน้ำที่มีอยู่ก็เริ่มแห้งขอด
หน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยชาวบ้านได้ดีที่สุดคงเป็นรัฐบาลเท่านั้น แต่ตนและชาวบ้านก็เข้าใจว่ารัฐบาลนั้นไม่มีงบประมาณ หรือมีแต่ก็มีน้อยมาก สิ่งที่ชาวบ้านต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ และเชื่อว่ารัฐบาลทำได้คือ การพักหนี้ที่ชาวไร่ไปกู้เงินมาจากธนาคาร ธ.ก.ส. เพื่อนำเงินมาลุงทุนในการปลูกพืชไร่ แต่หลังจากปลูกพืชไร่ไปแล้วกลับไม่ได้ผลผลิตคืนมา เพราะพื้นที่ประสบต่อปัญหาภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล
“หากรัฐบาลช่วยพักหนี้ให้แก่ชาวไร่ก็คงจะทำให้ทุกคนหายใจทั่วท้องได้บ้าง สำหรับโครงการเจาะบาดาลช่วยเกษตรกรนั้น พบว่า ส่วนใหญ่จะดำเนินโครงการเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี พบว่าไม่มี ดังนั้น อยากจะเรียกร้องไปยังรัฐบาลอีกเรื่องหนึ่งคือ ขอให้นำโครงการเจาะน้ำบาดาลมาลงในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจาด้วย หากได้เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาทุกข์ให้แก่เกษตรกรได้อย่างแน่นอน” นายอนุชา กล่าว
ส่วนนายพิจิตร ธีระเสถียร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่และได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หากได้ข้อมูลที่ชัดเจนจากเทศบาลตำบลสระลงเรือ ตนจะรีบรายงานไปยังรัฐบาลอย่างเร่งด่วน คาดว่าคงใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน จะมีทีมงานที่เกี่ยวข้องลงมาให้ความช่วยเหลือเพื่อขุดเจาะหาแหล่งน้ำอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 13 ต.สระลงเรือ พร้อมทั้งเด็กนักเรียน ได้ไปรวมตัวกันที่วัดสระลงเรือเพื่อทำพิธีแห่นางแมวขอฝน ตามประเพณีความเชื่อของชาวบ้านที่ปฏิบัติกันมาหลายชั่วอายุคน โดยมีการนำแมวมาไว้ในกรง พร้อมทั้งให้ผู้ชายแห่ปลัดขิกขนาดใหญ่ การแห่งนางแมวขอฝนครั้งนี้มีชาวบ้านจำนวนมากพร้อมใจกันเข้าร่วมพิธี ทั้งหมดได้แห่ไปตามเส้นทางรอบหมู่บ้านไปสิ้นสุดที่วัดสระลงเรือตามเดิม
สิ่งที่เหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้นให้เห็น เนื่องจากก่อนทำพิธีแห่งนางแมว อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงแดด แต่ระหว่างขบวนแห่นางแมวกำลังจะถึงทางเข้าวัดสระลงเรือ ท้องฟ้ากลับเปลี่ยนมาเป็นเมฆฝนมืดครึ้ม ลมพัดกระโชกมาเป็นระยะๆ สร้างความประหลาดใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก บางรายถึงกับใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปวิดีโอ และภาพนิ่งเอาไว้ เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเมื่อฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง สร้างความดีใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างเชื่อการที่ฝนตกลงมาเป็นเพราะทำพิธีแห่นางแมวอย่างแน่นอน เพราะ 10 เดือนที่ผ่านมา ฝนไม่เคยตกลงมาเลย