“ประยุทธ์” เผย สมช.แจงแล้วไม่มีข่าวตามที่ “ธวัชชัย” กุ ย้อนคนของใคร ปัดเรียกคุย ลั่นงานไม่มีคำว่าเพื่อน ใครขวางทำงานต้องรับผิดชอบ พร้อมร่วมทำบุญวันสุดท้ายศีลอด ขออย่าขยายความขัดแย้ง ต้องจัดสรรปันส่วนดูแลไทยพุทธ-มุสลิม แจงชะลอเรือดำน้ำให้ทร.ศึกษาให้หลายฝ่ายเข้าใจ ยก “สุรินทร์” หนุน รับดีใจฝนตก เผยชั่งน้ำหนักช่วย ย้ำเกษตรรอฝนรีบทำก็เสียหาย สร้างการรับรู้ต้องจัดโซนนิ่ง ให้เบ็ดแล้วให้วิธีตกปลา
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงว่า มีพรรคการเมือง 2 พรรคลงขันให้ก่อสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเตรียมจัดตั้งแกนนำรวบรวมคนจากภาคใต้และภาคกลางมาโค่นล้มรัฐบาลว่า ตนได้ตรวจสอบเรื่องนี้กับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้ว พล.อ.ธวัชชัย เป็นใคร เขาขึ้นอยู่กับใครซึ่งเป็นเรื่องของเขา แต่ทาง สมช.ได้ตอบตนมาแล้วว่ายังไม่รับข่าว ก็จบ ตนฟังแบบนี้ เพราะต้องฟังข้าราชการเนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ขบวนการในการล้มรัฐบาลยังคงมีการเคลื่อนไหวอยู่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อก็รู้ไม่ใช่หรือ ท่านก็รู้ดีแล้วมาถามตนทำไม ก็สื่ออยู่ตรงกลางก็ไปหาทุกพวกมาอยู่แล้ว
“ผมได้รับรายงานว่าทั้งประเทศไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเกิดขึ้น เรื่องเดิมก็เยอะอยู่แล้ว และไปขุดอีกเรื่องขึ้นมาอีก เอากันเข้าไป แล้วเศรษฐกิจมันคงดีขึ้นหรอก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการเรียก พล.อ.ธวัชชัยมาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรียกทำไม เป็นเรื่องของสปช.ที่จะไปเรียก เมื่อถามย้ำว่าในฐานะเพื่อนจะมีการพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่มีเพื่อนในเรื่องทำงาน เมื่อถามว่าการให้เปิดเผยในลักษณะนี้จะเป็นการสร้างความตกใจให้สังคมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไปถาม พล.อ.ธวัชชัย และเวลาที่สื่อเขียนนั้นตกใจยิ่งกว่านี้อีก แต่ตนไม่ได้ว่าทุกคน ทำไมไม่ไปถามคนเขียน
เมื่อถามว่านายกฯ มั่นใจว่าไม่มีใครสามารถมาล้มล้างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ใช่ไม่มีใคร ผมไม่ได้ท้าทายใคร ผมกำลังทำงานของผม ฉะนั้นถ้าใครมาทำให้ผมทำงานไม่ได้ก็เป็นเรื่องเขาต้องรับผิดชอบไป ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น ทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าประเทศชาติเสียหาย วันหน้าก็รับผิดชอบกันเอาเอง ถ้าค้านเรื่องนี้เรื่องโน้น แล้วมันเกิดปัญหาในวันหน้า ก็จำตัวเองไว้แล้วกัน แล้วให้ประชาชนไปไล่ดูเอาเอง ผมไม่อยู่ด้วยแล้ว”
ส่วนที่มีการระบุว่าถึงพรรคการเมืองสองพรรคจะมีการสืบสวนหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า งานบางงานไม่ต้องสั่ง เขาทำหน้าที่อยู่แล้ว หน่วยงานเขามีเยอะแยะ คนเป็นแสนๆ เขาทำอยู่แล้ว ทั้งหน่วยข่าวกรอง สมช. ฝ่ายความมั่นคง กี่กระทรวงเขาทำหมดแล้ว ถ้ามีก็สรุปมาว่ามี ซึ่งจะมีมาตรการว่าจะทำอะไรต่อไป คือการบังคับใช้กฎหมาย ถ้ามันผิดกฎหมายก็ทำไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้มันไม่มีหลักฐาน เป็นการกล่าวเหมือนบอกเล่ากันมาหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้ ไปสอบกันเอาเอง นายกฯต้องสั่งทุกเรื่องเลยหรือไง ต้องเข้าใจระบบสายงานปกติบ้าง ที่มีหน่วยงานเยอะแยะ ไม่อย่างนั้นก็ยุบไปหมดเลย ไม่ต้องมี
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีวันที่ 16 ก.ค.จะเป็นวันสุดท้ายของการถือศีลอดของชาวมุสลิมว่า ตนก็ร่วมทำบุญไปด้วยอยู่แล้ว ด้วยความรักความห่วงใย อย่าไปขยายความขัดแย้งกันอีกเลย คนละเรื่องอย่ามาเกี่ยวกันมากนัก ประเทศเราก็มีปัญหาอยู่แล้ว เราก็ดูแลคนมากอยู่แล้ว อะไรที่เราสามารถจะทำได้ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยมันก็ต้องทำ เราไม่สามารถประคับประคองอะไรต่างๆ ได้มากมายนักในสภาพการปัจจุบัน ที่มีสถานภาพอย่างนี้ วันนี้รู้ไหมว่าเราดูแลอะไรไปบ้าง ทำไมไม่พูดอย่างนี้ แต่ตนไม่ต้องการให้ท่านไปขัดแย้งในเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องอะไรต่างๆ ตนไม่เคยขัดแย้งกับใคร ทำให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นสิ่งใดก็ตามที่เป็นเรื่องของประเทศชาติ ความรับผิดชอบ เราก็ทำที่เราสามารถทำได้ และไม่เกิดภาระ ในเมื่อเราจะต้องดูแลคนไทยจำนวนมาก และดูแลคนไทยมุสลิมอีกจำนวนมากในประเทศไทย เราก็ต้องจัดสรรปันส่วนให้ได้ อย่าเอาทุกอย่างมาพันกันไปหมด และนำมาโจมตีประเทศตัวเอง ตนไม่เห็นว่ามันจะได้อะไรขึ้นมา มันก็มีสองพวกอยู่ดี พวกหนึ่งเห็นด้วย อีกพวกไม่เห็นด้วย ตนถามหน่อยที่โจมตีมา ทำเพื่อใคร ไม่รู้เพื่อใคร ถ้าทำดีเขาคงชม แต่ถ้าไม่ดีมันล่มสลาย ไอ้คนชมมันจะมาช่วยเราไหม คิดให้มันถูกหน่อย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชะลอการเสนอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า เป็นความต้องการให้กองทัพเรือนำข้อมูลที่ศึกษาถึงความจำเป็นมาระยะหนึ่งไปชี้แจงให้ประชาชนและหลายฝ่ายเข้าใจก่อน อย่างไรก็ตาม จากที่นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน พูดเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ ที่นายสุรินทร์พูดตนสรุปให้ฟังเลย แม้ว่านายสุรินทร์ไม่ได้เอ่ยถึงเรือดำน้ำ แต่สิ่งที่พูดก็สนับสนุนให้เห็นว่าเรามีความจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพเพื่อดูแลเส้นทางทางทะเล และผลประโยชน์ทางทะเลของเรา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงสถานการณ์ความคืบหน้าของภัยแล้ง หลังจากเมื่อคืนวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมามีฝนตกในหลายพื้นที่ โดยยอมรับว่า “ดีใจ เมื่อคืนก็สวดมนต์ขอพระพิรุณ ขอให้ทุกคน ขอให้ประเทศชาติปลอดภัย ขอให้ประเทศชาติสงบสุข ขอให้สื่อน่ารัก ขอทุกวัน ไม่ได้พูดเล่น”
เมื่อถามว่าได้มีการส่งกำลังทหารไปช่วยในพื้นที่แล้งในการขุดลอกคูคลองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารไปนานแล้ว มีแผนงานอยู่แล้ว ที่ไปเจาะบ่อบาดาลก็มีเจ้าหน้าที่ทหารไปด้วย ส่วนที่บางพื้นที่ที่ไม่ได้ลงไปทำ เพราะว่าบางพื้นที่ขุดลอกคูคลองได้ บางพื้นที่เก็บกักน้ำไม่ได้ ไม่ใช่ตรงไหนก็ทำได้ และงบประมาณมีหรือไม่ และเครื่องไม้เครื่องมือเรามีเพียงพอหรือไม่ มีเครื่องมือขุดเจาะกี่ตัว อยู่ที่ไหนบ้าง ก็รวบรวมมากำหนดเป้าหมาย 500 บ่อ ใครจะรับผิดชอบตรงไหนบ้าง เขาทำกันแบบนี้
“ถามอะไรให้มันสร้างสรรค์สิ ดีกว่านะ ขุดแล้วเป็นอย่างไร ดีขึ้นไหม แบบนี้ตอบง่าย ถ้าถามว่า มันแล้งจะทำอย่างไร ก็มันแล้งไง เข้าใจคำว่าแล้งไหม เราต้องทำให้คนอยู่ได้ก่อน ประทังชีวิตและการเกษตรไปก่อน เมื่อเราประทังการเกษตรไม่ไหว ก็ต้องยอมรับ เพราะคนเดือดร้อนสำคัญกว่า มันก็ต้องเลือกหรือแบ่งขั้นตอนช่วงที่แล้วทำมาได้ก็ทำมา รักษาทั้งสองส่วน พอวันนี้เริ่มเดือดร้อนการประปาก็ต้องดูการเกษตร ว่าจะเอาอย่างไร ต้องชั่งน้ำหนัก เพราะฉะนั้นการเกษตรเนี่ย ผมก็อยากบอกว่าผมไม่ได้ไปรังเกียจรังงอน ผมสงสารท่านมากกว่า แต่มันจนใจจริงๆ ถ้าท่านจะทำก็ต้องรอน้ำฝน ไม่เช่นนั้นท่านลงทุนไปแล้วมันก็เสียหาย มันไม่ได้ประโยชน์ เดี๋ยวก็ไปหากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีใครเดือดร้อนก็บอกมา ท่านต้องเป็นกลุ่มให้ได้ว่าตรงนี้เดือดร้อน ไม่ใช่คนหนึ่งมาร้อง แล้วมาอีกคนหนึ่ง ไม่รู้จะช่วยตรงไหน เอาคนละบ่อหรือ รวมแปลงนา รวมพื้นที่ สิ่งที่เราจัดนี่คือการโซนนิ่งไง เราก็จะรู้แล้วว่าตรงไหนควรปลูกพืชน้ำมาก น้ำน้อย นี่คือเวลาพลิกวิกฤติเป็นโอกาส สร้างการรับรู้ ให้เขารู้ว่าต่อไปทำนาไม่ได้แล้วนะ มันนอกเขตชลประทาน ถ้าในเขตก็ทำไร่ แต่ถ้าน้ำไม่มาก็ไม่มีเหมือนกัน คนทุกจะได้ปรับเปลี่ยน ไม่เช่นนั้นทุกคนก็บอกว่าไปห้ามเขาทำนาแล้วเขาจะทำอะไร พูดอย่างนี้มันไม่จบ มันเสียหายหมด สรุปคือชาวนายังทำงานต่อไป ถึงมันจะทำปีละสามครั้ง ได้ผลประโยชน์ครั้งเดียว ท่านก็เชียร์เขาทำต่อไปก็แล้วกัน ผมรับผิดชอบให้ไม่ได้”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลก็เตรียมแผนงานในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิต เตรียมพื้นที่ให้ปลูก เตรียมข้อมูลว่าพื้นที่ไหนควรปลูกพืชอะไร ถ้าเป็นพืชป้อนโรงงานจะเป็นตรงไหน ให้เกิดธุรกิจในชุมชน ชาวไร่ชาวนามีเงิน สหกรณ์มีเงินไปซื้อของมาเก็บ มาแปรรูป ประชาชนจะได้เข้มแข็ง เขาเรียกว่าให้เบ็ดแล้วให้วิธีการตกปลาด้วย แต่วันนี้ปลาไม่มีตกเพราะฝนแล้ง ก็ต้องหาปลามาแจก คือต้องช่วยเหลือคนเดือดร้อน คิดแบบนี้จะได้ไปด้วยกันได้ ถ้าตนทำอะไรไม่ดีก็บอกมา ถ้าบอกแล้วยังไม่แก้ ก็ค่อยด่าตน นี่พอแตะปั๊บก็ด่าหมด ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ทำไม่ได้ อย่าว่าตนเลย ถึงมีอำนาจเต็มก็ทำไม่ได้ เพราะความขัดแย้งมันสูง ใครจะอยากให้ขัดแย้งเพิ่มขึ้น ไม่ใช่มาบอกว่าไม่กล้าทำ ถ้าไม่กล้ามาไม่มายืนตรงนี้