เคราะห์ซ้ำกรรมซัด! งดทำนาหันปลูกถั่วยังสู้แล้งไม่ได้ กำลังแห้งเฉาตาย

กาฬสินธุ์ - ภัยแล้งคุกคามหนัก ขยายวงกว้างและทวีความรุนแรง ชาวนาชาวไร่หันมาปลูกถั่วลิสงแทนเพราะทนแล้ง แต่ผิดหวังซ้ำเมื่อต้นถั่วกำลังแห้งเฉาเหี่ยวตาย

จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ นอกเขตชลประทาน พบยังได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนและฝนไม่ตก ทำให้พืชไร่และนาข้าวแห้งเหี่ยวและเฉาตาย โดยเฉพาะที่ อ.ห้วยเม็ก ล่าสุด นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอ พร้อมผู้นำชุมชนต้องเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพราะแม้แต่พืชฤดูแล้งอย่างถั่วลิสงยังแห้งตาย

นางหนูเตียง สัสดี อายุ 59 ปี บ้านกุดโดน หมู่ 1 ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก กล่าวว่า เนื่องจากอยู่ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน การทำนาต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก แต่ปีนี้ภัยแล้งยาวนาน ฝนทิ้งช่วงกว่า 8 เดือน จึงไม่เสี่ยงทำนาข้าว หันมาใช้พื้นนาข้าวเดิม 2 ไร่ปลูกถั่วลิสง ซึ่งเป็นพืชทนแล้ง ต้องการน้ำน้อย อายุสั้น มีตลาดรับซื้อแน่นนอน ขายได้ทั้งเมล็ดสดและแห้ง แต่ต้องรู้สึกสิ้นหวังเพราะถั่วลิสงอายุ 2 เดือนกำลังแห้งเฉาตายสิ้นเชิงเนื่องจากภัยแล้ง และแดดร้อนจัด

จากที่เคยตั้งความหวังว่าปีนี้น่าจะได้กำไรจากการปลูกถั่วลิสง 2-3 หมื่นบาท กลับต้องมาขาดทุนยับเยินเนื่องจากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้เพราะแล้งเหลือเกิน ปลูกถั่วก็ตาย ปลูกข้าวก็ไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ ส่วนน้ำดื่มน้ำใช้ตอนนี้ก็รอรับจากที่เอามาแจกจ่ายในหมู่บ้าน

ด้านนายวัลลภกล่าวว่า พิบัติภัยแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปีนี้รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เบื้องต้นได้ให้ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้นำชุมชน รายงานปัญหาความเดือดร้อนทั้งน้ำอุปโภคบริโภค และพื้นที่การเกษตรก่อนลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย โดยเฉพาะในส่วนของพืชผลทางการเกษตร ทั้งพื้นที่นาข้าว ถั่วลิสง อ้อย มันสำปะหลัง และยางพารา ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งจะได้นำข้อมูลรายงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

สำหรับเขื่อนลำปาว ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวระบุขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 450 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 23 ส่วนน้ำใช้การอยู่ที่ร้อยละ 18 หรือ 360 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำวันละ 4.45 ล้าน ลบ.ม. ลดลงจากเดิมจากต้นสัปดาห์มีการระบายน้ำเฉลี่ย 5-6 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งเป็นการระบายน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ชลประทาน 5 อำเภอ พื้นที่กว่า 300,000 ไร่