นครปฐม - เกษตรกว่า 200 คน นำรถยนต์ และตั้งเต็นท์ปิดทางเข้าโรงงานน้ำผลไม้ดีโด้ ในพื้นที่ตำบลคลองจินดา อำเภอเมืองนครปฐม หลังยื่นหนังสือ และเจรจาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียจากโรงงานมายาวนาน 4 เดือนไม่เป็นผล ส่งผลทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง นายอำเภอสามพราน รีบนำทีมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าเจรจาหาทางแก้ปัญหา ขณะที่ผู้ชุมนุมยันค้างคืนขู่หากการเจรจาไม่เป็นผล เตรียมเดินหน้าปักต้นกล้าข้างทำเนียบรัฐบาล จวกยับนักการเมืองไม่แก้ปัญหา โผล่หน้ามาให้เห็นแต่ตอนเลือกตั้ง
วันนี้ (16 ก.ค.) ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่บริเวณด้านหน้าบริษัท ฟู๊ดสตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำผลไม้ดีโด้ ม.6 ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้มีกลุ่มเกษตรกรกว่า 200 คน ขับรถยนต์ และตั้งเต็นท์ปิดทางเข้าออกที่หน้าโรงงานพร้อมเปิดเครื่องขยายเสียง และชูแผ่นป้ายคัดค้าน เรียกร้องให้มีการปรับปรุงการปล่อยน้ำเสียของโรงงานที่ทำให้เกิดกลิ่นเน่าเหม็น และทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้บริหารของโรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวระหว่างทางโรงงานกับชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรได้เกิดขึ้นมาตลอดระยะเวลา 4 เดือนแล้วหลังจากที่มีการร้องเรียนเข้าไป แต่กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ และหากวันนี้ไม่มีหน่วยงานใดมาแก้ไขให้ชาวบ้านจะนัดรวมตัวเดินทางเอากล้าชำต้นไม้ไปปลูกที่ข้างทำเนียบรัฐบาลเพื่อร้องเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นต่อนายกรัฐมนตรี
โดยระหว่างชุมนุมของเกษตรกร พ.ต.อ.ชัชชาย คล้ายคลึง ผกก.สภ.สามพราน พร้อมด้วย ร.อ.ภิญโญ ธวัชสุนทร หัวหน้าชุดประสานงาน ช.พัน 9 จ.กาญจนบุรี คสช.ดูแลพื้นที่ อ.สามพราน อ.พุทธมณฑล นายพิทักษ์สิทธิ์ ชุมทรงประทีป ปลัด อ.สามพราน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ อส.กว่า 50 นาย คอยควบคุมสถานการณ์ และอำนวยความสะดวกการจราจรบนถนนสายพระประโทน-บ้านแพ้ว เนื่องจากมีรถบรรทุก และยวดยานสัญจรผ่านมาเป็นจำนวนมาก
เวลา 11.00 น.นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นายอำเภอสามพราน ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มเกษตรกร และขอให้ทางกลุ่มเกษตรกรส่งตัวแทน 9 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย พ.ต.อ.อานุภาพ ศรีนวล รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ชัชชาย คล้ายคลึง ผกก.สภ.สามพราน นายพิทักษ์สิทธิ์ ชุมทรงประทีป ปลัด อ.สามพราน นายปิยะ พวงสำลี เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดนครปฐม นายดิลก ธัญญาเวชกิจ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงิน บริษัทฟู๊ดสตาร์ จำกัด และผู้บริหารผู้มีอำนาจเต็ม 4 คน นายเจนวิทย์ ราชธาวิศวะกร สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม และ ร.อ.ภิญโญ ธวัชสุนทร หัวหน้าชุดประสานงาน ช.พัน 9 จ.กาญจนบุรี คสช.ดูแลพื้นที่ อ.สามพราน อ.พุทธมณฑล โดยใช้เวลาในการสอบถามถึงสาเหตุ และรับฟังข้อเสนอจากเกษตรกร 4 ข้อ ประกอบด้วย
1.เร่งแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองสาธารณะ
2.ชดเชยค้าเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่ประชาชน
3.สร้างระบบป้องกันที่ได้มาตรฐาน และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการตรวจสอบน้ำ ตรวจสอบบ่อบำบัดเป็นระยะ โดยมีชุดติดตามประเมินผลภาคประชาชน นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ โดยโรงงานต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ตลอดจนทั้งเปิดโอกาสให้ทีมงานคุณภาพจากภายนอกเข้ามาตรวจสอบได้โดยมีชุดการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผล
4.ป้องกันการเกิดปัญหาระยะยาวถ้าเกิดปัญหา เช่น กรณีนี้อีกต้องชดเชยค่าเสียหายพร้อมค่าปรับให้ประชาชนผู้เดือดร้อนใน 7 วัน
ด้าน นายสมพร มีแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขทที่ 86 ม.6 ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม บอกว่า ตนเองและครอบครัวต้องประสบปัญหาเรื่องน้าเสียมากว่า 4 เดือน ซึ่งที่บ้านได้ทำกิจการดอกกุหลาบปักชำ ซึ่งได้สูบน้ำในคลองหนองน้ำใส ที่ไหลผ่านหน้าโรงงานผลิตน้ำผลไม้ดีโด้ ซึ่งเป็นทางน้ำหนึ่งที่ถูกกระบายออกมาจากโรงงาน ซึ่งได้นำน้ำมารดไม่ปักชำ ตลอดระยะ 4 เดือน ต้องประสบปัญหาไม้ตายคาต้น และรอบล่าสุด มีออเดอร์ส่งไปยังจังหวัดหนองคายกว่า 2 แสนบาท ล้มตายทั้งหมดทำให้ไม่สามารถรับออเดอร์ส่งไปประเทศเพื่อนบ้านได้อีก
สอบถามไปยังโรงงานหลายครั้งก็ไม่เคยได้รับคำตอบ และมีการประชุมหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล และร้องเรียนไปหลายที่แต่ผลที่ได้รับคำตอบคือ น้ำมีคุณภาพดี แต่ทั้งกลิ่น และคุณภาพมีสภาพแย่มาก วันนี้จึงพยายามจะขอเข้ามาพูดคุยโดยให้สื่อมวลเป็นตัวกลางในการเจรจา และได้ทำตามที่ทหารแนะนำให้อยู่ในความสงบ
นายสมาน ทับประทุม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 ม.6 ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม บอกว่า ตนเองมีบ้านติดกับโรงงาน ซึ่งทนทุกข์ต่อเรื่องนี้มานาน 6 ปี ทุกวันนี้เจอปัญหาน้ำท่วมบ้านมาตลอด ต้นมะพร้าวที่ปลูกในสวนล้มตายหลายครั้ง สอบถามไปยังโรงงานได้รับคำตอบว่าให้ตนเองถมบ้านให้สูงขึ้นโดยไม่มีการชดเชยใดใด ทั้งนี้ ไปร้องเรียนมาแล้วทุกแห่ง ทั้ง คสช. จังหวัดนครปฐม อบต.คลองจินดา สรุปไม่คืบหน้าใดๆ
“ผมอยู่ที่นี่มา 30 ปี โรงงงานมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตั้งแต่มีการตั้งโรงงานเราเจอปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยได้รับการแก้ไข อบต.มาดูเราไม่เกินปีละ 2-3 ครั้ง จะเห็นหน้าก็ช่วงเลือกตั้ง แบบนี้ผมจะไปหาความช่วยเหลือจากใคร 6 ปีมานี้วิ่งไปทุกที่แต่ก็ไม่เคยมีการแก้ไขใดๆ คนที่โรงงานก็ทำเป็นเฉยแต่เราทรมานจนทนไม่ไหวแล้ว” นายสมาน บอก
น.ส.จารุวรรณ มีแก้ว เกษตรกรกลุ่มไม้ปักชำและกระถาง บอกว่า เมื่อวานนี้ได้ทำหนังสือไปยื่นที่ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนครปฐมแล้ว และปัญหาที่เกิดขึ้นมีชาวบ้านหลายคนที่เจอปัญหาไม่ว่าจะที่คลองหนองน้ำใส ซึ่งอยู่ด้านหน้าโรงงาน และที่คลองหนองนางแบน ที่อยู่หลังโรงงานก็ประสบปัญหามากกว่า และวันนี้เกษตรกรทุกคนที่มาชุมนุมตั้งใจจะรอฟังข้อสรุป โดยจะนอนพักค้างแรมหน้าโรงงานจนกว่าจะได้รับคำตอบ ถ้าการแก้ปัญหาไม่ได้รับคำตอบก็จะรวมตัวกันไปปลูกกล้าชำไม้ที่ข้างทำเนียบรัฐบาล และร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นายอำเภอสามพราน กล่าวว่า รับทราบในเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และได้มีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาไปแล้ว 2 ครั้ง และพบว่า ปัญหากลิ่นของน้ำมันมีความเหม็นจริง โดยในวันที่ 20 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ได้มีการกำหนดการไว้แล้วว่าจะมีการลงนามเพื่อร่วมมือกันสำหรับส่วนของโรงงานอุตสาหกรรม และชาวบ้านเพื่อจะวางแผนระยะยาวในการแก้ไข ซึ่งการหาข้อมูลในวันนี้จะนำไปซึ่งการแก้ไขที่ชัดเจนต่อไปในระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้าร่วมหารือทุกหน่วยงานใช้เวลากว่า 4 ชม. ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นไม่ไว้วางใจการทำงานของโรงงาน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม ซึ่งได้แจ้งมาตลอดการร้องเรียนว่าค่าการตรวจน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งได้มีการชี้แจงให้ทราบถึงกระบวนการทำงาน และพร้อมให้มีการพิสูจน์ร่วมกับสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุม เพื่อความโปร่งใส และขอให้มีการนำผลน้ำที่ตรวจได้ไปเข้าห้องทดสอบของเอกชนเพื่อให้ดูค่าว่ามาตรฐานว่าจะตรงกันหรือไม่อีกทางหนึ่งด้วย
