xs
xsm
sm
md
lg

พิจิตรแล้งหนัก ชป.วอนเลื่อนทำนาออกไปก่อนอย่าหวังน้ำบ่อหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พิจิตร - แล้งหนัก นา 1.4 ล้านไร่ไม่มีน้ำ วอนชาวนาต้องเลื่อนฤดูการทำนาออกไปก่อน ชลประทานเผยถ้าฝนไม่ตกอีก 30 วันน้ำหมดเขื่อนสิริกิติ์เดือดร้อนถึงน้ำประปาแน่ เตรียมประกาศให้ทั้งจังหวัดเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง

นายธรรมนูญ แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร นายสุรพล ทองเที่ยง เกษตรจังหวัดพิจิตร นายสมยศ แสงมณี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิจิตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กว่า 20 คนได้ประชุมร่วมกัน ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพิจิตร

เพื่อสรุปสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดพิจิตรที่ตลอดฤดูกาลนี้ไม่มีฝนตกลงมา ทำให้ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ประกาศให้ 7 อำเภอ 26 ตำบล 199 หมู่บ้านของ อ.เมือง อ.บางมูลนาก อ.ตะพานหิน อ.ดงเจริญ อ.ทับคล้อ อ.วังทรายพูน และ อ.สากเหล็ก เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้ง และสั่งให้หน่วยงานของกรมการปกครองและหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ให้สำรวจข้อมูลเพื่อเตรียมจะประกาศให้ทั้งจังหวัดพิจิตรอาจต้องเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้ง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนในปีนี้มีน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา อีกทั้งปริมาณน้ำเหนือเขื่อนก็มีน้อยด้วยเช่นกัน

นายนุกูล แสนหมื่นแก้ว หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ได้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมว่า จังหวัดพิจิตรถือว่าแล้งที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดรอบข้าง ซึ่งการช่วยเหลือด้วยการทำฝนหลวงก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากในพื้นที่มีอากาศร้อนจัด รวมถึงไม่ค่อยมีกลุ่มเมฆและไม่มีความชื้นสัมพัทธ์เพียงพอที่จะทำฝนหลวง

โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2558 ได้ขึ้นบินโปรยสารเพื่อทำฝนหลวงในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง คือ เขตเพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร ทำงานไปแล้ว 14 วัน 41 เที่ยวบิน และใช้สารจำนวน 41 ตันเพื่อทำฝนหลวงไปแล้วดังกล่าว แต่ปริมาณฝนที่ได้ก็ยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จึงทำให้เกษตรกรขาดน้ำในการทำนา

ในส่วนของนายสุรพล ทองเที่ยง เกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ในจังหวัดพิจิตรมีพื้นที่ในการปลูกข้าวทั้งหมด 1,864,983 ไร่ แบ่งเป็นในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน ซึ่งสรุปได้ว่าพื้นที่ในเขตชลประทาน 371,932 ไร่ มีปลูกข้าวไปแล้ว 1.4 แสนไร่ และมีที่ยังไม่ได้ปลูกข้าวอีก 148,709 ไร่

ส่วนพื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทาน 1 ล้าน 4 แสนไร่ ก็มีปลูกข้าวไปแล้วประมาณ 2 แสนไร่ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งที่นับจากวันนี้ไปถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2558 ที่มีข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าฝนจะทิ้งช่วง ดังนั้นนาข้าวที่ปลูกไว้แล้วถ้าไม่มีน้ำสำรองหรือน้ำใต้ดินก็มีโอกาสที่ข้าวจะยืนต้นแห้งตายน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้ลงมือทำนาขอให้เลื่อนฤดูการทำนาออกไปอีกระยะหนึ่งและให้รอฟังข่าวสารจากทางราชการ อย่าเสี่ยงหรือหวังน้ำบ่อหน้าอย่างเด็ดขาด

ด้านนายสมยศ แสงมณี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า นาข้าวที่ปลูกแล้วได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย คือ นาข้าวที่อยู่ริมแม่น้ำน่านในพื้นที่สูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้า 35 สถานี นาข้าวจำนวน 70,000 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวต้นเดือนกรกฎาคม 2558 จะได้เก็บเกี่ยว

ส่วนในเขตชลประทานยอมรับว่าพวกที่อยู่ปลายคลองแถวตำบลท่าบัว อ.โพทะเล จ.พิจิตร มีนาหลายหมื่นไร่ยังไม่ได้รับน้ำเลยเพราะน้ำไปไม่ถึง ส่วนสถานการณ์น้ำ คาดว่าชาวนาพิจิตรส่วนใหญ่รับน้ำมาจากเขื่อนสิริกิติ์ที่ทุกวันนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนเพียงแค่ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร และระบายน้ำมาให้ชาวลุ่มน้ำน่านวันละ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร

ดังนั้น ถ้าไม่มีฝนตกเหนือเขื่อนคงระบายน้ำได้แค่เพียง 30 วันน้ำก็จะหมดเขื่อนสิริกิติ์ ก็จะทำให้แม่น้ำน่านซึ่งเป็นสายเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชาวพิจิตรอาจต้องแห้งลง ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่เขื่อนสิริกิติ์จะยอมให้น้ำมาทำนา เพราะถ้าเอาน้ำไปทำนาก็จะไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงการทำน้ำประปา ไปถึงการทำโรงงานน้ำแข็ง โรงงานน้ำดื่มบรรจุถัง บรรจุขวด จึงจำเป็นต้องเล่าเรื่องจริงให้ชาวนาฟังว่าต้องเลื่อนฤดูการทำนาหรือรอความหวังให้ฝนตกลงมาจึงจะมีน้ำทำนาได้ อย่าหวังว่าจะรวมตัวประท้วงหรือเรียกร้องแล้วจะได้ผล เพราะคราวนี้ชลประทานไม่มีน้ำให้ชาวนาจริงๆ

ในที่ประชุม นายธรรมนูญ แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร ได้สรุปว่า ภัยแล้งเกิดจากสถานการณ์โลกร้อน และปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกอีกครั้งตามที่กรมอุตุฯ บอก คือฝนจะตกในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม และจะตกมากในช่วงกันยายน 2558 ส่วนการช่วยเหลือชาวนาในช่วงนี้คือเร่งสำรวจความต้องการ ซึ่งภาครัฐจะช่วยในการทำอาชีพเสริมหรือปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ส่วนจะเป็นสิ่งใดบ้างนั้นคงต้องรอหลังวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ที่จะมีการประชุม ครม.แล้วสั่งการมาอีกครั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น