xs
xsm
sm
md
lg

เขื่อนป่าสักฯ วิกฤตน้ำเหลือไม่ถึง 10% นาข้าวในอ่างทองกว่า 7 พันไร่รอวันตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อ่างทอง - ชาวนาอ่างทองครวญขาดรายได้ หนี้สินเพียบ พื้นที่ทำนาที่มีทั้งหมดกว่า 370,000 ไร่ ตอนนี้ปลูกข้าวไปแล้วกว่า 120,000 ไร่ คาดจะได้รับความเสียหายจากภัยแล้งกว่า 7,000 ไร่ ด้าน “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” เตือนเกษตรกร 3 จังหวัดชะลอการเพาะปลูกข้าวนาปี หลังน้ำในเขื่อนวิกฤตปริมาณเหลือไม่ถึง 10%

วันนี้ (17 มิ.ย.) นายสมพิศ พูลสวัสดิ์ เกษตรจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันในจังหวัดอ่างทอง มีพื้นที่ในการทำนาอยู่กว่า 370,000 ไร่ ตอนนี้ชาวนาได้ทำการปลูกข้าวไปแล้วกว่า 120,000 ไร่ ในจำนวนพื้นที่ที่ชาวนาได้ทำการปลูกข้าวไปแล้วนี้ ในเบื้องต้น คาดว่าจะได้รับความเสียหายจากปัญหาภัยแล้งประมาณ 7,000 ไร่ แต่ตอนนี้ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดอ่างทอง ยังไม่ได้รับรายงานถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าว

ส่วนพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือ พื้นที่ที่ลุ่ม แต่ในช่วงนี้เกษตรชาวนายังไม่ได้ทำการปลูกข้าวทำนา และคาดว่าต่อไปนี้ชาวนาในพื้นที่ลุ่มคงไม่มีโอกาสที่จะได้ปลูกข้าวทำนาแล้ว เนื่องจากในช่วงประมาณเดือนกันยายน และตุลาคมที่จะถึงนี้ น้ำจะหลากลงมาก็จะไม่ได้ทำนาในรอบนี้ ต้องรอในรอบหน้า

“โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในการทำนาล่าช้าแล้วเสี่ยงต่อการถูกน้ำหลากเข้าท่วมผลผลิตนั้นก็คือ ทุ่งนาในอำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอโพธิ์ทอง และอำเภอไชโย ซึ่งตอนนี้ทางเกษตรจังหวัดอ่างทอง ไปทำการประชาสัมพันธ์ให้ชาวนา และเกษตรกรแล้วทราบว่าน้ำต้นทุนในเขื่อนเหลือน้อยมาก ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล จึงทำให้แผนการจ่ายน้ำของกรมชลประทานต้องเปลี่ยนไป”

นายสมชาติ ยิ้มละไม้ อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 5 ตำบลสายทอง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง สมาชิกสภาเกษตรจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ตนทำนา 80 ไร่ อยู่ในทุ่งนาตำบลสายทองติดต่อทุ่งนาตำบลหัวไผ่ และทุ่งนาตำบลโรงช้าง พื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ แต่ในช่วงนี้เกษตรยังไม่ได้ลงมือทำนา เนื่องจากไม่มีน้ำเพียงพอต่อการทำนา ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนมิถุนายน ทำให้ขณะนี้ชาวนาหลายรายเดือดร้อนกันมากเนื่องจากทำให้ขาดรายได้ ทำให้ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่าย ส่วนจะไปทำการกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็กู้ไม่ได้เนื่องจากวงเงินกู้เต็มแล้ว

นายชูศักดิ์ ชูวงษ์ อายุ 46 ปี ชาวนาบ้านเลขที่ 43/1หมู่ 5 ตำบลสายทอง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตนมีที่นาอยู่ 30 ไร่ในทุ่งสายทอง ตอนนี้ยังไม่ได้ลงมือทำนาเนื่องจากประสบภัยแล้งขาดแคลนน้ำ ส่วนที่จะให้ทำนาในช่วงเดือนกรกฎาคมนั้นคงไม่ทัน เนื่องจากต้องโดนน้ำท่วมนาแน่นอน ทำให้ปีนี้ต้องเสียโอกาสในการทำนาไปอีก 1 ปี และตอนนี้ตนก็ยังเป้นหนี้ ธ.ก.ส.อยู่ แต่ยังไม่มีเงินไปใช้หนี้ แม้แต่ค่าดอกเบี้ยก็ยังไม่มีไปจ่ายเลย

นายอัฐวุฒิ ทัศนุรักษ์ อายุ 40 ปี ชาวนาตำบลเทวราช อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตนทำนา 30 ไร่ ลงทุนไปกว่า 40,000-50,000 บาท และตอนนี้ได้ลงมือเพาะปลูกข้าวไปได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว เมื่อทราบว่า ทางชลประทานลดการปล่อยน้ำทำนาก็ทำให้ตนเป็นกังวลอย่างมาก เนื่องจากกลัวว่าจะไม่มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส.หากน้ำน้อยขาดการหล่อเลี้ยงต้นข้าวมีหวังยืนต้นตายอย่างแน่นนอน ส่วนที่ตนรีบทำนาในช่วงนี้เนื่องจากทุ่งนาเทวราชนั้นเป็นแก้มลิงทุ่งรับน้ำหากทำนาล่าช้ามีหวังข้าวจมน้ำตายผลผลิตเสียหายหมดแน่

**เผยเขื่อนป่าสักวิกฤตหนักน้ำมีเหลือไม่ถึง 10%

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ว่า ขณะนี้ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤตเนื่องจากระดับน้ำต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ล่าสุด ระดับน้ำในเขื่อนป่าสักฯ ได้ลดต่ำกว่าประตูระบายน้ำทั้ง 7 บาน จนขณะนี้น้ำไม่สามารถไหลผ่านสปริลเวย์ได้แล้ว

ขณะที่ นายปัญญา กัลปสุข ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สำนักชลประทานที่ 10 ได้ฝากขอความร่วมมือเกษตรกรผู้อยู่ท้ายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวม 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ให้ชะลอการเพาะปลูกข้าวนาปีออกไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนจะดีขึ้น

ทั้งนี้ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนเหลืออยู่เพียง 84.96 ล้านลูกบาทเมตร หรือเหลืออยู่เพียงร้อยละ 8.85 เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ทางเขื่อนต้องใช้วิธีการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำฉุกเฉินเพื่อรักษาระบบนิเวศของแม่น้ำป่าสัก และเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น ส่วนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังให้ขยับกระชังปลาลงไปอีก เพื่อป้องกันความเสี่ยงของระดับน้ำที่ลดลงต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น