รบ.ขู่พวกป่วนอาจทำรัฐให้อยู่ยาว สั่งบี้ใครปล่อยน้ำเสียป่าสัก ลั่นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

รองโฆษกรัฐบาล เผย “ประยุทธ์” คงสบายใจ “โหรวารินทร์” ยออยู่ยาว ชี้ต้องดูโรดแมปลุล่วงเป้าหมายเพียงใด ระบุถ้างานเดินหน้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ แต่ถ้ามีพวกขวางงานรัฐ เคลื่อนไหวสร้างความอันตราย ก็อาจทำไม่ตรงตามเป้า และไม่มีทางเลือกละทิ้งประชาชน บอกนายกฯ สั่งทหารเร่งนำปลาตายขึ้นจากน้ำป่าสัก ไล่บี้ใครปล่อยน้ำเสีย พร้อมจัดการเด็ดขาด ลั่นเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (6 เม.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา และเป็นเจ้าของสมญานามโหร คมช. ทำนายอายุรัฐบาลจะอยู่ 2 - 3 ปี ว่า ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คงสบายใจในส่วนที่นายวารินทร์ ให้กำลังใจในการทำงาน และระบุว่า บ้านเมืองจะสงบเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย แต่ในส่วนที่ว่ารัฐบาลจะอยู่กี่ปีนั้น ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ภาระงานตามโรดแมปที่วางไว้ว่า ได้ดำเนินการลุล่วงไปตามเป้าหมายเพียงใด และสมกับเจตนารมณ์ที่เรามุ่งมั่นไว้หรือไม่

“อยากเรียนว่า ท่านนายกฯ เอาเป้าหมายของการงานเป็นที่ตั้ง หากทุกอย่างเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่รัฐบาลจะต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพราะท่านนายกฯ กล่าวเสมอว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ต้องการอำนาจ แต่ต้องการทำงานเพื่อประเทศ” พล.อ.สรรเสริญ กล่าว

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ หากยังมีความพยายามในการปลุกปั่น ยั่วยุ หรือขัดขวางการทำงานของรัฐบาล รวมไปถึงความเคลื่อนไหวอันนำไปสู่ความไม่สงบ สร้างความเดือดร้อนอันตรายให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชน ก็อาจจะส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดิน ไม่เป็นไปตามแผนและระยะเวลาที่วางไว้ และรัฐบาลก็คงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกเหนือจากยืนเคียงข้างและไม่สามารถละทิ้งประชาชนและหน้าที่ได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ทหารทุกนายถูกปลูกฝังมา

พล.ต.สรรเสริญ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบผู้ที่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำป่าสัก จนส่งผลให้ปลาตายยกกระชังด้วยว่า เบื้องต้นนายกฯได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่เร่งนำปลาที่ตายแล้วขึ้นจากน้ำ เพื่อมิให้เกิดความเน่าเสียเพิ่มเติมในแหล่งน้ำ รวมทั้งยังได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการหาหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และให้ทุกหน่วยงานร่วมรับผิดชอบ ทั้งกรมโรงงาน กรมเจ้าท่า กรมประมง รวมไปถึงหน่วยงานที่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จัดการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน ซึ่งหากพบว่า เป็นความมักง่ายของโรงงานที่ปล่อยน้ำเสีย ก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยปละละเลย ไม่กวดขันการตรวจสอบสภาพระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานให้ได้มาตรฐานก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะด้วย

“หน่วยงานในพื้นที่ต้องลงไปตรวจสอบโรงงานทุกแห่ง ว่า มีระบบการบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐาน และทำการใช้งานจริงหรือไม่ เพราะการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติถือว่าเป็นอาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อม ที่สร้างผลกระทบอีกหลายประการตามมา จึงอยากให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการทุกรายให้ความร่วมมือ อย่าเอาเปรียบสังคม” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว