นายอัตพร ปัญญาโฉม ผู้อำนวยการจัดสรรน้ำสำนักงานชลประทานที่ 10 จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในหลายเขื่อนหลักมีปริมาณน้ำน้อยกว่าทุกปี เนื่องจากปีนี้ฝนตกลงมาน้อยและทิ้งช่วงนาน จึงทำให้มีน้ำไม่เพียงพอ ต่อการเพาะปลูกข้าวนาปี จึงขอความร่วมมือชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และชาวบ้านที่อยู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 22 จังหวัด ชะลอการทำนาปีออกไปก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำมีน้อยมาก หากทางชาวนาทำการเพาะปลูกแล้ว อาจจะไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวหากยังคงไม่มีฝนตกลงมา
ขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ในช่วงนี้มีปริมาณน้ำเหลือแค่เพียง 98 ล้านลูกบาตรเมตร หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มีอยู่แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ของความจุเขื่อนเท่านั้น และการระบายอยู่ในช่วงนี้อยู่ที่ 40 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที หรือวันละ 35 ล้านลูกบาตรเมตร ซึ่งในวันนี้จะมีแผนในการปรับลดการระบายน้ำลง เพื่อรักษาระดับน้ำเก็บไว้ในอ่างของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จึงทำให้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เกษตรท้ายเขื่อนอย่างจังหวัดสระบุรี อยุธยา ปทุมธานี จึงขอเตือนชาวนาในลุ่มเจ้าพระยา ป่าสัก ขอให้ชะลอการทำนาในช่วงนี้ก่อน รอจนกว่าจะมีฝนตกลงมาค่อยเริ่มทำนาปี เพื่อป้องกันความเสียหายของการเพาะปลูกข้าวนาปี
ขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ในช่วงนี้มีปริมาณน้ำเหลือแค่เพียง 98 ล้านลูกบาตรเมตร หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มีอยู่แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ของความจุเขื่อนเท่านั้น และการระบายอยู่ในช่วงนี้อยู่ที่ 40 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที หรือวันละ 35 ล้านลูกบาตรเมตร ซึ่งในวันนี้จะมีแผนในการปรับลดการระบายน้ำลง เพื่อรักษาระดับน้ำเก็บไว้ในอ่างของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จึงทำให้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เกษตรท้ายเขื่อนอย่างจังหวัดสระบุรี อยุธยา ปทุมธานี จึงขอเตือนชาวนาในลุ่มเจ้าพระยา ป่าสัก ขอให้ชะลอการทำนาในช่วงนี้ก่อน รอจนกว่าจะมีฝนตกลงมาค่อยเริ่มทำนาปี เพื่อป้องกันความเสียหายของการเพาะปลูกข้าวนาปี