นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกข้าวนาปรังมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 จนถึงช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปี ปีเพาะปลูก 2558/2559 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ขอความร่วมมือเกษตรกรให้งดการปลูกข้าวนาปรัง ปีเพาะปลูก 2557/2558 ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาจำนวน 22 จังหวัด จากนโยบายดังกล่าว พบว่า สามารถลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังลงได้ 3 ล้านไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 14,366 ล้านบาท และสถานการณ์ภัยแล้งยังคงส่งผลต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงออกประกาศขอความร่วมมือจากเกษตรกรในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา จำนวน 22 จังหวัด เลื่อนการเพาะปลูกข้าวนาปี ปีเพาะปลูก 2558/2559 ออกไปจนถึงเดือนปลายเดือนกรกฎาคม 2558 จากฤดูกาลเพาะปลูกปกติ เพื่อลดความเสี่ยงจากผลผลิตที่อาจเสียหาย ในเรื่องดังกล่าว สศก. ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งคาดว่าหากได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรอย่างเต็มที่ อาจไม่กระทบต่อปริมาณผลผลิตข้าวนาปี โดยสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ซึ่งคาดว่าอาจจะกระทบต่อจีดีพีภาคเกษตรปี 2558 ลดลงไปจากที่คาดการณ์ไว้อีกไม่เกินร้อยละ 0.04
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ในแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาและฝ่ายทหาร ได้ลงพื้นที่ชี้แจง ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือเกษตรกรแล้ว พร้อมเตรียมแนวทางช่วยเหลือและมาตรการรองรับอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ในแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาและฝ่ายทหาร ได้ลงพื้นที่ชี้แจง ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือเกษตรกรแล้ว พร้อมเตรียมแนวทางช่วยเหลือและมาตรการรองรับอย่างต่อเนื่อง