ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สมเด็จพระสังฆราช 4 ประเทศ ร่วมพิธีเบิกเนตรรูปหล่อหลวงพ่อคูณ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ปิดทองคำแท้ทั้งองค์ ค่าก่อสร้างกว่า 100 ล้าน ที่วัดบ้านไร่ 2 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มรดกชิ้นสุดท้ายก่อนละสังขาร สานต่อเจตนารมณ์หลวงพ่อคุณ หวังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา และวัฒนธรรมแห่งใหม่ของเมืองโคราช
วันนี้ (13 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่วัดบ้านไร่ 2 (วัดบุไผ่) ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว รองแม่ทัพภาคที่ 2 นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในงานสมโภชรูปหล่อหลวงพ่อคูณปริสุทโธ พระเทพประทานพรองค์ปิดทองรูปหล่อใหญ่ที่สุดในโลก มีพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
ที่สำคัญภายในงานมีสมเด็จพระสังฆราชจาก 4 ประเทศ ประกอบด้วย ลาว กัมพูชา ศรีลังกา ภูฏาน มาร่วมพิธีทางศาสนา ซึ่งมีการประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีเบิกเนตรองค์รูปหล่อหลวงพ่อคูณใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาร่วมงานประมาณ 1,000 คน ขณะเดียวกัน ในช่วงบ่ายมีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่ระลึกสมโภชรุ่น “เทพประธานพร” โดยเกจิคณาจารย์ 19 รูป จากทั่วประเทศร่วมพิธี
พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ ประธานกรรมการวัดบุไผ่ หรือวัดบ้านไร่ 2 เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นวันสำคัญในการประกอบพิธีเบิกเนตร และเปิดตัวองค์รูปหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดใน โดยมีสมเด็จพระสังฆราชจาก 4 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา ศรีลังกา ภูฏาน เดินทางมาร่วมงาน รวมถึงพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ซึ่งความสำเร็จวันนี้ถือเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่
เมื่อครั้งท่านมีชีวิต ท่านเคยเดินทางมาดูการก่อสร้าง และได้เรียนนำให้ท่านทราบความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรูปหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ถือเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายก่อนท่านละสังขาร ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 100 ล้านบาท ใช้ทองคำแท้ปิดทองทั้งองค์ เฉพาะทองคำมีมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 18 เมตร ซึ่งเป็นองค์หล่อหลวงพ่อคูณที่สวยงามที่สุดในโลก จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ให้ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา และใกล้เคียงที่มีความเคารพศรัทธาได้กราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล
ส่วนวัดบ้านไร่ 2 แห่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะบารมีของหลวงพ่อคูณ ท่านได้บริจาคเงินกว่า 30 ล้านบาท ในการก่อสร้างวัดบุไผ่ (เดิม) และพัฒนาปรับปรุงให้เป็นวัดบ้านไร่ 2 จากนั้นได้แรงศรัทธาของลูกศิษย์ที่มีต่อหลวงพ่อคูณมาร่วมบริจาคสมทบจนทำให้การก่อสร้างองค์หล่อหลวงพ่อคูณ สำเร็จในวันนี้บนเนื้อกว่า 28 ไร่
ทั้งนี้ คณะกรรมการวัดต้องการให้วัดบ้านไร่ 2 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนมาเยือน และนมัสการ เป็นแหล่งให้นักท่องเที่ยวมากราบไหว้ ขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัยในการขับรถเดินทาง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนคือ มีจุดสักการะ 5 แห่งคือ รูปหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ และไหว้พระเทพพิทยาคมองค์จำลอง หน้ารูปหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ และบริเวณวงเวียนเทพวิทยาคมจุติ และบริเวณใกล้เคียงยังมีพระนาคปรก และเจ้าแม่กวนอิม
“หลังงานบุญใหญ่แล้ว วัดแห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา และวัฒนธรรม สร้างรายได้ชุมชน ดึงดูดนักท่องเที่ยวสู่ภาคอีสานเพิ่ม คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนวัดบุไผ่ หรือบ้านไร่ 2 เพิ่มขึ้น คาดการณ์จะมีรถจอดไหว้หลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัยเป็นสิริมงคลมากกว่า 30% ของจำนวนรถที่วิ่งผ่านถนนสาย 304 เพื่อขึ้นสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลงสู่ภาคกลาง ปัจจุบัน มีรถยนต์สัญจรผ่านเส้นนี้ในวันปกติกว่า 11,000 คัน และช่วงเทศกาลมากถึง 77,000 คัน” พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าว