ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชาวชุมชนบ้านเป็ดเดินหน้าค้านต่อเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ หวั่นไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังพบบริษัทเอกชน ทรู คอปเปอเรชั่นฯแอบปล่อยสัญญาณทั้งที่เรื่องฟ้องร้องยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ขณะที่นายกเทศบาลตำบลบ้านเป็ดเจ้าของพื้นที่กลับเพิกเฉยทั้งที่ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือไปแล้วเกือบปี
จากกรณีชาวชุมชนบ้านเอื้ออาทรบ้านเป็ด ตำบลบ้านเป็ด จังหวัดขอนแก่น รวมลงนามกว่า 300 คน เมื่อวันที่ 22 ก.ย.57 ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อเทศบาลตำบลบ้านเป็ด เพื่อคัดค้านการก่อสร้างติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือใกล้ชุมชนของค่ายทรู ซึ่งเป็นเสาสัญญาณคู่ขนานกันจำนวน 2 เสา หวั่นกระทบต่อความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ล่าสุดวันนี้ (5 มิ.ย.58) เวลา 10.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชุมชนบ้านเอื้ออาทรบ้านเป็ด นายอลงกต โรจนลิ้มสกุล อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 345 หมู่ที่ 8 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง ซึ่งมีบ้านตั้งอยู่ใกล้ๆกับเสาส่งสัญญานพร้อมชาวบ้านในชุมชน ได้ร้องต่อสื่อมวลชนอีกครั้งเพื่อคัดค้านการตั้งเสาสัญญาณในพื้นที่ หลังผ่านไปกว่า 10 เดือนแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้าในกระบวนการแก้ปัญหา
นายอลงกต บอกว่า ที่ผ่านมาได้ทำเรื่องไปที่ กสทช.และเทศบาลตำบลบ้านเป็ด แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงร้องทุกข์ไปยังศาลปกครองขอนแก่นเพื่อยื่นฟ้องบริษัททรู (เจ้าของเสาสัญญาณ) กสทช. และเทศบาลบ้านเป็ด ซึ่งขณะนี้เรื่องยังอยู่ในการพิจารณาของศาลสู่กระบวนการตัดสินตามกฎหมาย แต่ทางบริษัททรูยังดำเนินการตั้งเสาไว้ในชุมชนและแอบปล่อยสัญญาณ จึงห่วงถึงความไม่ปลอดภัย
"เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2558 เวลาประมาณ 22.00 น.มีเจ้าหน้าที่ช่างเทคนิค 2 คนลงพื้นที่มายังเสาสัญญานเพื่อนำอุปกรณ์มาติดตั้ง ตนกับชาวบ้านบางส่วนพยายามเข้าไปห้ามแต่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าแค่เข้ามาสำรวจเสาสัญญานเท่านั้น ก่อนที่จะรีบออกจากชุมชน ตนสังเกตเห็นว่าเสาส่งสัญญาณมีไฟกระพริบที่เสาและได้ยินเสียงเครื่องจักรกำลังทำงานคล้ายเสียงเครื่องซีพูยูจากเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย "
นายอลงกตกล่าวถึงเหตุผลที่ต้องออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านอีกครั้งว่า เกิดจากความไม่สบายใจ แม้แต่ ผอ.กองช่างของเทศบาลตำบลบ้านเป็ดและรองปลัดก็เห็นด้วยว่าควรให้มีการระงับการตั้งเสาส่งสัญญาณในพื้นที่ชุมชนออกไปก่อน ซึ่งจะเห็นได้จากชาวบ้านชุมชนบ้านกอก ต.บ้านเป็ด หมู่ที่ 12 ออกมาคัดค้านการตั้งเสาส่งสัญญาณก็ยังทำได้ แต่ทางเทศบาลตำบลบ้านเป็ดไม่ดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวนี้หมายความว่าอย่างไร อ้างแต่ว่ามีการทำสัญญาอนุมัติให้มีการจัดตั้งไปแล้ว ถ้าจะให้ยกเลิกแล้วถูกฟ้องค่าเสียหายทางเทศบาลจะรับผิดชอบอย่างไรไหว หรือชาวบ้านมีรับภาระเป็นผู้ผิดชอบแทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 พ.ค.58 ชาวบ้านได้ร้องไปยังสำนักงาน กสทช.ภาค 2 และสำนักงาน กสทช.เขต 6 เพื่อให้ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดคลื่นสัญญาณว่ามีการปล่อยสัญญาณจากเสาส่งสัญญาณจริงหรือไม่ ทำให้เมื่อวันที่ 16 พ.ค.58 เจ้าหน้าที่จาก กสทช.ลงพื้นที่แต่ไม่พบการปล่อยสัญญาณ ต่อมาจึงลงตรวจสอบในวันนี้ (5 มิ.ย.58) พบว่ามีการตรวจพบการเคลื่อนสัญญาณ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของชาวบ้านเองเมื่อวันที่ 19 พ.ค.58 ก็พบว่ามีการปล่อยสัญญาณจริง ถือเป็นการปล่อยสัญญาณระหว่างการพิพาทในชั้นศาล ซึ่งไม่ถูกต้องตามกระบวนการ โดยจะเห็นได้ว่าเสาส่งสัญญาณมีไฟกระพริบที่เสาและได้ยินเสียงเครื่องจักรกำลังทำงานคล้ายเสียงซีพูยู จากเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย
ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน บอกว่า ตนรู้สึกวิตกกังวลและหวาดกลัวอย่างมาก เนื่องจากเสาสัญญาณดังกล่าวตั้งห่างจากตัวบ้านของตนไม่ถึง 10 เมตร ทั้งนี้ หวั่นกระทบต่อผู้อยู่อาศัยในชุมชนหลังพบรายงานวิจัยว่าคลื่นจากเสาส่งสัญญาณมีความเสี่ยงก่อมะเร็งและผลกระทบต่อมนุษย์ในด้านชีวภาพ จึงไม่อยากให้มีเสาโทรศัพท์มาตั้งในชุมชน
