น่าน - ชาวบ้านบ้านป่าหัด และบ้านร้องตอง ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน ออกมาเตือนภัยสังคมด้วยการนำข้าวสารที่สงสัยว่าจะเป็นข้าวปลอมมาเผาทดสอบ หลังซื้อจากรถเร่ที่มาตระเวนขายในหมู่บ้าน ปรากฏไหม้ มีกลิ่นเหม็น เชื่อเป็นข้าวปลอม วอนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและเร่งเตือนภัยสังคม
นายสมบูรณ์ วุฒิ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 1 บ้านป่าหัด ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน เป็นเจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้าน และนายกฤษฎิ์ ชำนาญช่าง อายุ 69 ปี ชาวบ้านป่าหัด ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน ได้นำข้าวสารที่ซื้อจากกลุ่มบุคคลที่นำมาขายในหมู่บ้าน กับข้าวสารที่รับประทานเป็นประจำซึ่งซื้อมาจากตัวเมืองมาเผาไฟเปรียบเทียบเพื่อตรวจสอบคุณภาพของข้าว
หลังมีกลุ่มบุคคลนำข้าวสารปลอมมาตระเวนหลอกขายให้ชาวบ้านป่าหัด และบ้านร้องตอง ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน จนได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 ราย สูญเงินหลายพันบาท
พฤติกรรมจะขับรถยนต์กระบะสีดำ ป้ายทะเบียนจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งอ้างว่านำข้าวมาลงขายให้ร้านค้าสหกรณ์ในหมู่บ้าน และข้าวเหลือ จึงได้นำมาขายให้ร้านค้าในหมู่บ้านในราคาทุน เพราะต้องการรีบเดินทางกลับจังหวัดเชียงราย
โดยจะนำข้าวที่ดีมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งชาวบ้านหลายรายได้ซื้อไว้ในราคาข้าวหอมมะลิ 1 กระสอบ ราคา 1,200 บาท และข้าวเหนียว ราคากระสอบละ 1,000 บาท ซึ่งราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปกระสอบละ 300-400 บาท แต่ปรากฏว่าเมื่อนำข้าวมาหุงพบว่าข้าวเป็นเม็ดร่วนไม่เกาะติดกันและไม่มีกลิ่นหอมของข้าว ไม่สามารถรับประทานได้ จึงทำให้ทราบว่าถูกหลอกขายข้าวปลอมและต้องสูญเสียเงินหลายพันบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบโดยการนำข้าวสารที่ซื้อมาจากพ่อค้าเร่ และข้าวสารที่รับประทานทุกวัน นำมาเผาไฟเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพ พบว่ามีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน
ข้าวสารปลอมเมื่อเผาไฟแล้วจะไหม้ดำและมีกลิ่นเหม็น แต่หากเป็นข้าวสารจริงเมื่อเผาไฟแล้วจะมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอมของข้าวชัดเจน และได้ลองนำมาเคี้ยวดูก็พบว่าข้าวสารปลอมเมื่อเคี้ยวแล้วจะแข็ง แตกยาก แต่หากเป็นข้าวสารจริงจะเคี้ยวง่าย และเมื่อแตกหักจะรู้สึกเหมือนมีแป้งละลายอยู่ในปาก จึงเตือนภัยสังคมให้ระวัง โดยให้สังเกตกระสอบข้าวจะมีสัญลักษณ์รูปไก่ และเป็นภาษาจีน และเมล็ดข้าวสารจะขาวใส ขนาดเท่ากัน
อย่างไรก็ตาม ขอให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบเพื่อนำไปแจ้งเตือนภัยประชาชนด้วย โดยเฉพาะร้านค้า ร้านอาหาร ที่ตกเป็นเหยื่อเป้าหมาย