ร้อยเอ็ด - อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินมอบปัจจัยการผลิตให้ชาวร้อยเอ็ด คืนความสุขให้ประชาชน ยึดเศรษฐกิจพอเพียงปรับใช้ พร้อมแนะเกษตรกรทุ่งกุลาปลูกข้าวหอมมะลิเพียงปีละครั้ง ปลูกพืชผักระยะสั้นใช้น้ำน้อยเสริมรายได้ช่วงหน้าแล้ง
วันนี้ (18 มี.ค. 58) ที่สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายอภิชาต จงสกุล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เดินทางมามอบปัจจัยการผลิตของกรมพัฒนาที่ดิน เพื่อคืนความสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายชาติชาย ประสาระวัน ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด ข้าราชการ และเกษตรกร ร่วมในกิจกรรมจำนวนมาก
นายอภิชาต จงสกุล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดินได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้สารอินทรีย์เพื่อลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร จัดตั้งกลุ่มเกษตรกรใช้สารอินทรีย์เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตและใช้สารอินทรีย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้สารเคมีการเกษตร และลดต้นทุนผลิต โดยสนับสนุนอุปกรณ์และปัจจัยการผลิตทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ตลอดจนมีการอบรมให้ความรู้และติดตามผลการดำเนินงานจากกรมพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่อง
ตามมติคณะรัฐมนตรี มิถุนายน 2557 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินดำเนินการสนับสนุนต่อยอดกลุ่มเกษตรกรใช้สารอินทรีย์ ลดใช้สารเคมีทางการเกษตร และเร่งแก้ไขปัญหาการผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะเรื่องการจัดการดิน การปรับปรุงบำรุงดิน และเร่งดำเนินงานโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ขนาดความจุ 1,260 ลบ.ม. เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
ดังนั้น สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ดจึงจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์และมอบปัจจัยการผลิตทางการเกษตรของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อคืนความสุขให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากจังหวัดร้อยเอ็ด หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งพี่น้องเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ดที่ร่วมบูรณาการจัดงาน แสดงนิทรรศการ ให้บริการประชาชน อย่างเป็นประโยชน์สูงสุด
เกษตรกรที่ทำนาข้าวหอมมะลิไม่ควรทำนาปีละ 2 ครั้ง เพราะการทำนาปรังด้วยข้าวต่างพันธุ์ เมล็ดข้าวที่หล่นในนาจะสร้างปัญหาข้าวปลอมปนขายไม่ได้ราคา จึงแนะนำให้ทำนาเพียงครั้งเดียว แล้วปลูกพืชผักระยะสั้นที่ใช้น้ำน้อยในหน้าแล้ง ที่สำคัญให้ใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ภายใต้พื้นฐานมีเหตุมีผล มีความพอประมาณ สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันความเสี่ยง บนพื้นฐานของความดี มีคุณธรรม นำความรู้มาใช้แก้ปัญหาการดำรงชีวิต สามารถจะอยู่ได้แบบมีความสุขโดยไม่เดือดร้อน