ศรีสะเกษ - ชาวอำเภอขุนหาญร่วม 50 คนโร่แจ้งศูนย์ดำรงธรรมศรีสะเกษ หลังถูกชักชวนลงขันให้สหกรณ์ออมทรัพย์แห่งหนึ่งในยโสธรนำไปปล่อยกู้ต่อให้ดอกเบี้ยสูงล่อใจ แต่ท้ายสุดไม่ได้ทั้งดอกทั้งต้นคืน เผยรวมเงินที่เสียรู้กันไปร่วม 100 ล้านบาท หวั่นเกี่ยวโยงเครือข่ายสหกรณ์ใหญ่ที่ฉาวโฉ่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมืองศรีสะเกษ นายเพื่อนชาย เตชะสุข ตัวแทนชาว อ.ขุนหาญ พร้อมด้วยชาวบ้าน อ.ขุนหาญ ประมาณ 50 คนได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ นายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กรณีถูกนางรัศมี บริบูรณ์ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งหนึ่งใน จ.ยโสธร ชักชวนให้เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ และร่วมลงทุนก่อนจะฉ้อโกงเงินไปประมาณ 100,000,000 บาท
นายเพื่อนชาย เตชะสุข ตัวแทนผู้ร้องเรียน กล่าวว่า เมื่อประมาณปี 2557 ได้มีนางรัศมี บริบูรณ์ อ้างว่าเป็นตัวแทนของสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งหนึ่งใน จ.ยโสธร มาชักชวนตนและชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมลงทุน โดยอ้างว่าเงินที่นำไปลงทุนเป็นเงินที่นำไปให้สมาชิกในสหกรณ์กู้ยืมเพื่อเป็นทุนในการดำเนินการภายในและเป็นการดำเนินการตามระเบียบของสหกรณ์ โดยทางสหกรณ์จะให้ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทเพื่อเป็นผลตอบแทน
หลังจากนั้นตนและชาวบ้านในพื้นที่ อ.ขุนหาญประมาณ 50 คนก็ได้ร่วมระดมทุนกันคนละประมาณ 200,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 100,000,000 บาทนำไปมอบแก่นางรัศมีเพื่อนำไปให้สหกรณ์ฯ ตามลำดับ ซึ่งในช่วงแรกได้มีการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างดี
นายเพื่อนชายกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นประมาณช่วงเดือนมีนาคม 2558 ปรากฏว่าตนและชาวบ้านเริ่มไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ควรจะเป็น จึงได้ตัดสินใจว่าจะถอนเงินทุนคืน แต่เมื่อไปถามกับผู้ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นตัวแทนของสหกรณ์กลับบ่ายเบี่ยงที่จะให้เงินคืน ตนและชาวบ้านจึงได้สอบถามไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ของ จ.ยโสธร เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง จนทำให้ทราบข้อมูลว่าก่อนหน้านี้นางรัศมี ซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สหกรณ์ได้นำเงินจำนวน 500,000 บาทมาฝากจริง แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ก็ได้ถอนเงินออกไปจนหมด
จากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้ตนและชาวบ้านเกิดความสงสัยผู้ที่แอบอ้างเป็นสมาชิกของสหกรณ์อาจจะมีเครือข่ายร่วมขบวนการในการหลอกลวงผู้อื่นและจะเลือกเป้าหมายเฉพาะกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีฐานะ หรืออาจเป็นเครือข่ายของกลุ่มสหกรณ์ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่อยู่ในขณะนี้
ในเบื้องต้นตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ขุนหาญแล้ว จึงได้เดินทางมาแจ้งเรื่องไว้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือ
ด้านนายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในเบื้องต้นตนจะได้นำเรื่องนี้เสนอต่อนายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพื่อนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายตามลำดับต่อไป