ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจเดินหน้าล่าตัวเครือข่ายยูฟันสโตร์ ล่าสุด ได้นำหมายศาลบุกจับสาวนายหน้าขายคอนโดฯในเมืองพัทยา เชื่อเป็นแม่ข่ายในระดับ 2 เชื่อมโยงไปสู่บุคคลระดับบนได้
วันนี้ (15 พ.ค.) พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ. ตร.ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 12 พฤษภาคม เข้าคุมตัว น.ส.อลิสา โชติธนชัย อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าอยู่ในเครือข่ายยูฟันสโตร์ ภายในสำนักงาน “แอทแลนติสคอนโด รีสอร์ท พัทยา” ริมถนนจอมเทียนสาย 2 ย่านชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
โดย น.ส.อลิสา ให้การว่า มีอาชีพเป็นนายหน้าซื้อขายบ้าน และคอนโดมิเนียมอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา แต่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ได้รับการชักชวนจากนายต้อง ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์ ให้นำเงินมาลงทุนสมัครเป็นสมาชิกของยูฟันสโตร์ และตนได้ชักชวนเพื่อนและคนรู้จักให้นำเงินมาร่วมลงทุน จนมีสมาชิกในเครือข่ายประมาณ 30 ราย และได้รับค่าแนะนำสมาชิกจากบริษัทฯ จำนวน 8 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา ได้กำไรประมาณ 2 แสนบาท ส่วนการที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวในครั้งนี้ตนไม่รู้สึกตกใจเพราะเป็นแค่เพียงสมาชิกเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท.สุวิระ เผยว่า ผู้ต้องหารายนี้อยู่ในบัญชีดำลำดับที่ 17 ที่เป็นแม่ข่ายในระดับ 2 โดยเส้นทางทางการเงินของ น.ส.อลิสา พบว่า มีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร จำนวน 111 ครั้ง เป็นเงิน 2.6 ล้านบาท และมีการโอนออก จำนวน 260 ครั้ง เป็นเงิน 2.9 ล้านบาท โดยถือเป็นเครือข่ายที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่บุคคลในเครือข่ายระดับบนที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม ขณะที่ในส่วนของผู้เสียหายที่อยู่ในเมืองพัทยา ขณะนี้กำลังเช็กข้อมูลว่ามีจำนวนเท่าใด
ทั้งนี้ การจับกุม น.ส.อลิสา ถือเป็นความผิดในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง ซึ่งหากบริษัทยูฟันสโตร์ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าแบบขายตรงก็คงไม่มีความผิดใด แต่ในกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการหาสมาชิกเพื่อชักชวนให้นำเงินมาลงทุน จึงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีต่อ น.ส.อลิสา พร้อมจะทำการตรวจสอบทรัพย์สินว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ก่อนขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายที่อยู่ในระดับบนต่อไป