ASTVผู้จัดการรายวัน - ปคบ.จับเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟัน ผู้ต้องหาที่ 14 คาทาวน์เฮาส์ภายในซอยคู้บอน ระบุเป็นแม่ข่ายทำหน้าที่บรรยายเกี่ยวกับธุรกิจยูฟัน และโพสต์ข้อความต่อต้านการดำเนินคดีบริษัทยูฟันอีกด้วย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ ( 5 พ.ค.) พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมนายโชติพัฒน์ วุฒิพันธุ์โภคิน อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ในคดีเครือแชร์ลูกโซ่ยูฟัน โดยสามารถจับกุมได้ขณะหลบหนีอยู่ภายในบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ของภรรยา คู้บอนซอย 6 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ จากนั้นได้เชิญตัวมาลงบันทึกประจำวันและสอบปากคำที่ สน.คันนายาว
พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า นายโชติพันธุ์ ถือเป็นผู้ต้องหาคนที่ 14 ที่ถูกออกหมายจับ โดยจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้เริ่มทำธุรกิจยูฟันตั้งแต่บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ก่อตั้งเพียงไม่นาน และเป็นแม่ข่ายระดับต้นๆต่อจากนายรัฐวิชย์ ฐิติอรุณวัฒน์ หรือนายโน๊ต ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ทำหน้าที่บรรยายเกี่ยวกับธุรกิจยูฟัน
นอกจากนี้ ยังพบว่านายโชติพันธุ์ยังมีพฤติกรรมโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ต่อต้านการดำเนินคดีกับบริษัทยูฟันอีกด้วย และเคยเดินทางไปร่วมกิจกรรมกับบริษัทยูฟันที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา และเมื่อเดินทางกลับประเทศ หลบหนีมาตลอดจนกระทั่งถูกจับกุม
นายโชติพันธุ์ กล่าวว่า ตนเป็นลูกข่ายของนายโน๊ต และมีลูกข่ายเป็นของตัวเองแค่ไม่ถึงพันคน โดยทำธุรกิจยูฟันมาตั้งแต่ยังไม่มีบริษัทในไทย ซึ่งได้รับข้อมูลมาจากมาเลเซีย เคยไปดูงานที่มาเลเซีย จีน และอินโดนีเซีย ตนไม่มีหุ้นในบริษัทเป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งเท่านั้น มียูโทเคนอยู่ในระบบยังไม่ได้ถอนออกมา ประมาณไม่เกิน 10 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนการโพสต์รูปรถหรูในเฟซบุ๊กเป็นแค่รูปที่ใช้ในการโปรโมตธุรกิจไม่ใช่รถของตนเอง และกรณีที่โพสต์ต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นเพราะตนไม่เข้าใจกฏหมาย ไม่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ประชาชนท่านใดยังไม่ได้เดินทางมาแจ้งความให้รีบมาแจ้ง ตนอยากจะให้พิจารณาดูดีๆว่า บริษัทนี้น่าเชื่อถือหรือไม่ ค่าเงินยูโทเคนเป็นเพียงค่าเงินลอยๆที่บริษัทตั้งขึ้นมาเอง ไม่มีการขาดทุน ไม่มีการรับรองบริษัทนี้ในไทยแล้ว ต้องดูว่าต่างประเทศจะรับรองบริษัทนี้แค่ไหน ตัวผู้เซ็นต์เช็กจบการศึกษาแค่ป.6 ส่วนผู้บริหารที่มียศก็ให้ท่านดูเองว่าเป็นยศจริงหรือไม่ เอาสิ่งเหล่านี้มาตัดสินกันต่อไป อย่างไรก็ตามตนจะนำตัวนายโชติพันธุ์ไปทำการสอบปากคำที่ปคบ.ต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบ้านพักภายในคู้บอนซอย 6 พบเพียงเอกสารบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากไม่ใช่บ้านพักของผู้ต้องหา โดยหลังจากนี้จะขยายผลหาบ้านพักและทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ ( 5 พ.ค.) พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมนายโชติพัฒน์ วุฒิพันธุ์โภคิน อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ในคดีเครือแชร์ลูกโซ่ยูฟัน โดยสามารถจับกุมได้ขณะหลบหนีอยู่ภายในบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ของภรรยา คู้บอนซอย 6 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ จากนั้นได้เชิญตัวมาลงบันทึกประจำวันและสอบปากคำที่ สน.คันนายาว
พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า นายโชติพันธุ์ ถือเป็นผู้ต้องหาคนที่ 14 ที่ถูกออกหมายจับ โดยจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้เริ่มทำธุรกิจยูฟันตั้งแต่บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ก่อตั้งเพียงไม่นาน และเป็นแม่ข่ายระดับต้นๆต่อจากนายรัฐวิชย์ ฐิติอรุณวัฒน์ หรือนายโน๊ต ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ทำหน้าที่บรรยายเกี่ยวกับธุรกิจยูฟัน
นอกจากนี้ ยังพบว่านายโชติพันธุ์ยังมีพฤติกรรมโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ต่อต้านการดำเนินคดีกับบริษัทยูฟันอีกด้วย และเคยเดินทางไปร่วมกิจกรรมกับบริษัทยูฟันที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา และเมื่อเดินทางกลับประเทศ หลบหนีมาตลอดจนกระทั่งถูกจับกุม
นายโชติพันธุ์ กล่าวว่า ตนเป็นลูกข่ายของนายโน๊ต และมีลูกข่ายเป็นของตัวเองแค่ไม่ถึงพันคน โดยทำธุรกิจยูฟันมาตั้งแต่ยังไม่มีบริษัทในไทย ซึ่งได้รับข้อมูลมาจากมาเลเซีย เคยไปดูงานที่มาเลเซีย จีน และอินโดนีเซีย ตนไม่มีหุ้นในบริษัทเป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งเท่านั้น มียูโทเคนอยู่ในระบบยังไม่ได้ถอนออกมา ประมาณไม่เกิน 10 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนการโพสต์รูปรถหรูในเฟซบุ๊กเป็นแค่รูปที่ใช้ในการโปรโมตธุรกิจไม่ใช่รถของตนเอง และกรณีที่โพสต์ต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นเพราะตนไม่เข้าใจกฏหมาย ไม่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ประชาชนท่านใดยังไม่ได้เดินทางมาแจ้งความให้รีบมาแจ้ง ตนอยากจะให้พิจารณาดูดีๆว่า บริษัทนี้น่าเชื่อถือหรือไม่ ค่าเงินยูโทเคนเป็นเพียงค่าเงินลอยๆที่บริษัทตั้งขึ้นมาเอง ไม่มีการขาดทุน ไม่มีการรับรองบริษัทนี้ในไทยแล้ว ต้องดูว่าต่างประเทศจะรับรองบริษัทนี้แค่ไหน ตัวผู้เซ็นต์เช็กจบการศึกษาแค่ป.6 ส่วนผู้บริหารที่มียศก็ให้ท่านดูเองว่าเป็นยศจริงหรือไม่ เอาสิ่งเหล่านี้มาตัดสินกันต่อไป อย่างไรก็ตามตนจะนำตัวนายโชติพันธุ์ไปทำการสอบปากคำที่ปคบ.ต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบ้านพักภายในคู้บอนซอย 6 พบเพียงเอกสารบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากไม่ใช่บ้านพักของผู้ต้องหา โดยหลังจากนี้จะขยายผลหาบ้านพักและทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป