ตำรวจ ปคบ.ค้นหรูเครือข่าย “ยูฟัน” ย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงจรเข้บัว ยึดนาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่า 12 ล้าน รวมยึดทรัพย์สินทั้งเครือข่ายแล้ว 812 ล้าน ขณะที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้ว 1,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 200 ล้านบาท
วันนี้ (9 พ.ค.) เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.เข้าตรวจค้นยึดทรัพย์ของเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟัน โดยนำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 97/2558 ลงวันที่ 9 พ.ค. 58 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 133/22 หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. หนึ่งในทรัพย์สินของ น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวพบว่าโทรทัศน์บริเวณชั้นล่างถูกเปิดทิ้งไว้ และเครื่องซักผ้ายังมีการซักผ้าค้างไว้ภายในเครื่อง เมื่อตรวจค้นอย่างละเอียดภายในบ้านพบกระเป๋าแบรนด์เนม 3 ใบ นาฬิกาแบรนด์เนม 8 เรือน โทรทัศน์ 3 เครื่อง ถูกเก็บไว้ในกล่องอย่างดี พระเลี่ยมทอง น้ำดื่มยี่ห้อยูฟัน เสื้อประทับโลโก้ยูฟัน และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ท.สุวิระกล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องมาจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าทำการค้นบ้านหรูมูลค่ากว่า 20 ล้านของ น.ส.ณมนพรรณ์ พบว่ามีเสื้อผ้าเครื่องใช้ของ น.ส.ณมนพรรณ์อยู่จำนวนไม่มากคล้ายกับไม่ได้พักอาศัยอยู่ประจำ ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีบ้านอีกหลังที่เป็นบ้านพักประจำของ น.ส.ณมนพรรณ์ เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนพบว่ายังมีบ้านหลังนี้ซึ่ง น.ส.ณมนพรรณ์ซื้อไว้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 57 โดยใช้ชื่อของสามีเก่า
ในการตรวจค้นวันนี้ได้มีนายสุกฤษณ์ ศิริเมธานนท์ อายุ 31 ปี หนึ่งในลูกข่ายของ น.ส.ณมนพรรณ์ร่วมเข้าเป็นพยานในการตรวจค้น โดยทรัพย์สินที่เป็นนาฬิกาและกระเป๋าแบรนด์เนม น.ส.ณมนพรรณ์ ได้ใช้ยูโทเคนในการแลกซื้อมาจากสมาชิกเครือข่ายยูฟันด้วยกัน
สำหรับทรัพย์สินของ น.ส.ณมนพรรณ์นั้น ขณะนี้ยังตรวจยึดได้ไม่ครบทั้งหมด โดยมีรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ 2 คัน ยี่ห้อโตโยต้า 1 คัน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลและติดตามตรวจยึด ทั้งนี้ หากบุคคลใดรับฝากทรัพย์สินของ น.ส.ณมนพรรณ์ หรือของเครือข่ายยูฟัน ให้นำมามอบคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่ เพราะหากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ใดครอบครอง หรือช่วยซุกซ่อนทรัพย์สินจะถือว่ามีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน มีอัตราโทษจำคุก 5-10 ปี อายุความ 15 ปี
พล.ต.ท.สุวิระกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ เนื่องจากหลังจากที่ น.ส.ณมนพรรณ์ถูกจับกุมก็ไม่มีผู้ใดเข้าออกบ้านหลังดังกล่าวอีก จึงทำให้บ้านอยู่ในสภาพดังกล่าว โดยในวันนี้ได้ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินของ น.ส.ณมนพรรณ์ มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ น.ส.ณมนพรรณ์ พบว่ามีการโอนเงินเข้าไปยังบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำนวนกว่า 177 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเส้นทางการเงินที่ทางบริษัท ยูฟัน ได้สั่งการให้ น.ส.ณมนพรรณ์โอนไปยังที่อื่นๆ อีก อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตรวจยึดทรัพย์สินของเครือข่ายยูฟันได้แล้วจำนวนกว่า 812 ล้านบาท โดยขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความแล้วจำนวนกว่า 1,000 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท หากไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่ม ผู้เสียหายที่แจ้งความไว้จะได้รับเงินคืน 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน
เบื้องต้นหลังจากนี้จะติดต่อสามีเก่าของ น.ส.ณมนพรรณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะนำทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้เพิ่มเติมส่งมอบให้กับทาง ปปง.ดำเนินการต่อไป