ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผช.ผบ.ตร.นำหมายศาลบุกเข้าจับกุม 2 ผัวเมียเครือข่ายยูฟัน และยึดเงินสดกว่า 1 ล้านบาท หลังฉ้อโกงประชาชน พร้อมออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย ในชลบุรี
วันนี้ (12 พ.ค.) พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.), พล.ต.ต.นิติพงษ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.นราเดช กลมทุกสิ่ง รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ได้นำหมายศาลเข้าจับกุม นายเอกภพ ทรงสวรรณ อายุ 36 ปี พร้อมนางวิไลวรรณ ทรงสวรรณ อายุ 30 ปี เครือข่ายยูฟันที่บ้านเลขที่ 888/118 หมู่ 3 ในหมู่บ้านประภัสสร 8 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา โดยทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากัน
ในการจับกุมในครั้งนี้ทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า ทำงานอยู่ที่บริษัทยูฟัน สโตร์ มาเป็นเวลาประมาณ 11 เดือน โดยมีสมาชิกกว่า 2,000 คน ซึ่งการทำงานที่บริษัทฯ ดังกล่าวมีรายได้ทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านบาท หลังจากนั้น ได้นำเงินดังกล่าวไปซื้อรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ในราคา 1.8 ล้านบาท แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวด และจับกุมเครือข่ายยูฟันทำให้ไม่มีรายได้เข้ามา จึงต้องนำรถเก๋งดังกล่าวไปขายในราคา 1.2 ล้านบาท
นายเอกภาพ กล่าวว่า เดิมตน และภรรยาทำงานโรงงาน ต่อมา มีคนมาชักชวนให้เข้าไปทำงานที่บริษัทยูฟัน ตนจึงเข้าไปศึกษา และดูรูปแบบบริษัทฯ และเกิดความเชื่อถือ เนื่องจากเป็นบริษัทที่ใหญ่โต มีข้าราชการ มีนักธุรกิจทำงานที่บริษัทฯ แห่งนี้เป็นจำนวนมาก ตนจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานด้วย โดยนำเงินที่เก็บสะสมไว้เข้าปลงทุน และหาลูกค้าจนมีรายได้ดังกล่าว
“ในส่วนตัวไม่ทราบว่าเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ใคร เนื่องจากมีรายได้จากบริษัทยูฟัน จึงไม่ทราบว่ามีความผิด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการเช่นนี้ โดยใครที่เป็นสมาชิกของตนขอให้ออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาจจะได้เงินคืนจากเหตุการณ์ดังกล่าว” นายเอกภาพ กล่าว
นายเอกภาพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนทำรายได้เข้าบริษัทไปแล้วประมาณ 40 ล้านบาท โดยโอนให้แก่หัวหน้าที่อยู่ในสายงานของตน และทำให้ตนมีรายได้จากการทำงานในครั้งนี้กว่า 2 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ท.ดร.สุวิระ กล่าวว่า ทั้ง 2 คนได้ให้การรับสารภาพ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4, 5, 12, 15 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ประกอบมาตรา 83 พร้อมควบคุมตัวไปส่งที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 1,240,000 ล้านบาท ที่นำรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ ไปขาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเงินส่วนนี้ได้มาจากการทำธุรกิจในบริษัทยูฟัน ส่วนบ้าน และรถยนต์เก๋งฟอร์ดนั้น ไม่สามารถตรวจยึดได้ เนื่องจากซื้อมาก่อนที่จะเข้าไปทำงานที่บริษัทยูฟัน
พล.ต.ท.ดร.สุวิระ กล่าวว่า นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับ นายเรืองทรัพย์ เศรษฐชัยกร อยู่ในจังหวัดชลบุรี หนึ่งในผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมกรณีดังกล่าว หลังจากที่ผ่านมาออกหมายจับไปแล้วทั้งสิ้น 17 คน จับกุมได้แล้ว 10 คน โดยที่ผ่านมา สามารถเข้ายึดทรัพย์สินจากเครือข่ายยูฟันแล้วกว่า 800 ล้านบาท แต่มีผู้เสียหายที่เข้ามาร้องเรียนที่ได้รับความเสียหายเพียง 200 ล้านบาทเท่านั้น