บุรีรัมย์ - รองประธานกลุ่มออมทรัพย์ที่บุรีรัมย์ยันไม่ได้ทุจริตยักยอกเงินสมาชิกตามที่ถูกกล่าวหาและพร้อมให้ตรวจสอบ แต่ยอมรับเกิดจากบริหารผิดพลาดให้เงินปันผลสัจจะสะสมสูงร้อยละ 10 ต่อปี และสัจจะพิเศษร้อยละ 20 สูงเกินรายได้ทำให้ขาดสภาพคล่องไม่มีเงินจ่ายคืนสมาชิก ชี้เงินกองทุนมีเพียง 23 ล้านบาท ไม่ถึง 100 ล้านบาทตามกล่าวอ้าง ขณะสมาชิกแห่แจ้งความแล้วกว่า 100 ราย
วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านตะโก ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้เร่งจัดเตรียมเอกสารบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของกลุ่มฯ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2527 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเตรียมไว้ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบในวันที่ 15 พ.ค.ที่จะถึงนี้
หลังจากได้มีสมาชิกกว่า 300 คนแห่มาถอนเงินและร้องให้ตรวจสอบการดำเนินงานของคณะกรรมการและตรวจบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสจนไม่มีเงินให้สมาชิกถอน และขณะนี้สมาชิกได้ทยอยเข้าแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้เป็นหลักฐานแล้วกว่า 100 ราย
ขณะที่ นายสมพันธ์ ธนาสูรย์ รองประธานฝ่ายอำนวยการ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านตะโก ได้ออกมายืนยันว่า ทั้งคณะกรรมการฯ และพนักงานทุกคนไม่ได้ทุจริตหรือยักยอกเงินของสมาชิกตามที่ถูกกล่าวหา และเงินกองทุนในการบริหารจัดการกลุ่มทั้งหมดมีเพียง 23 ล้านบาท ไม่ได้มีถึง 100 ล้านบาทตามที่สมาชิกบางคนกล่าวอ้าง ซึ่งคณะกรรมการฯ และพนักงานทุกคนก็พร้อมให้ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความกระจ่าง
แต่ยอมรับว่าสาเหตุที่ทำให้กลุ่มไม่มีเงินจ่ายให้สมาชิกนั้นเกิดจากความผิดพลาดในการบริหารจัดการของกลุ่ม โดยเฉพาะการจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิกในอัตราที่สูงเกินไป โดยจ่ายเงินปันผลสัจจะรายปีให้สมาชิกร้อยละ 10 ต่อปี และสัจจะพิเศษอีกถึงร้อยละ 20 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเกินกว่ารายได้หรือผลกำไรจากการดำเนินกิจการต่างๆ ของกลุ่ม ทั้งการเปิดโรงสี การเลี้ยงสุกร ให้บริการเช่าเต็นท์ และปล่อยกู้ ทำให้กลุ่มขาดสภาพคล่องและไม่มีเงินให้สมาชิกถอน
ที่สำคัญทางกลุ่มไม่ได้มีการปิดงบดุลรายรับ-รายจ่ายประจำปีมาตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่ม จึงทำให้ไม่ทราบถึงรายรับ-รายจ่าย และผลกำไรที่แท้จริง แต่ยืนยันว่าไม่มีการทุจริตอย่างแน่นอน
