xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มออมทรัพย์บุรีรัมย์ฉาวประกาศขายสำนักงาน-ทรัพย์สิน ด้านสมาชิกแห่แจ้งจับแล้วกว่า 200 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อาคารสำนักงาน กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านตะโก  ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ  จ.บุรีรัมย์
บุรีรัมย์ - กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านตะโก จ.บุรีรัมย์ ที่มีปัญหาฉาวขาดสภาพคล่องเพราะบริหารผิดพลาดจนเงินกองทุนหมดเกลี้ยง และถูกสมาชิกร้องเรียนไม่โปร่งใส ได้ประกาศขายอาคารสำนักงานและทรัพย์สินดำเนินกิจการ พร้อมเร่งรัดหนี้คงค้างกว่า 6 ล้านบาทเพื่อนำมาจ่ายให้สมาชิกที่ต้องการถอนเงิน ล่าสุดสมาชิกแห่แจ้งจับแล้วกว่า 200 ราย ตำรวจจ่อดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน

วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านตะโก ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่มีปัญหาบริหารผิดพลาดจนขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินจ่ายให้แก่สมาชิก ทั้งถูกร้องเรียนว่าบริหารไม่โปร่งใส ได้ประกาศขายอาคารสำนักงานมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินกิจการของกลุ่มฯ เช่น โรงสีข้าวชุมชน รถยนต์หกล้อที่ใช้ในการบรรทุกเต็นท์ และถ้วยชามที่ไว้สำหรับบริการให้เช่า รวมถึงจะทำการเร่งรัดหนี้สินที่ทางกลุ่มได้ปล่อยกู้ให้แก่สมาชิกที่ยังคงค้างอยู่อีกกว่า 6 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาจ่ายให้แก่สมาชิกที่ต้องการจะถอนทั้งเงินออมและเงินสัจจะ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีสมาชิกกว่า 300 คนแห่มาขอถอนเงินแต่ทางกลุ่มไม่มีจ่ายให้เพราะไม่มีเงินคงเหลือในกองทุน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าได้มีสมาชิกที่ได้รับเงินจากทางกลุ่มแล้วทยอยมาขอลาออกจากการเป็นสมาชิกแล้วหลายราย เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการ

ทั้งนี้ยังมีสมาชิกที่ยังไม่สามารถถอนเงินจากกลุ่มออมทรัพย์ดังกล่าว ได้ทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ อย่างต่อเนื่อง รวมแล้วขณะนี้กว่า 200 ราย จากจำนวนสมาชิกทั้งหมดกว่า 4,000 คน

ส่วนเรื่องคดีความนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาเอาผิดบุคคลใด เนื่องจากเป็นการแจ้งความร้องทุกข์ที่มีจำนวนผู้เสียหายที่เข้าร้องทุกข์เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งรอผลการตรวจสอบบัญชีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบอีกครั้งว่ามีการทุจริตยักยอกเงินหรือไม่ จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

น.ส.มยุรี แฉล้มไธสง เลขานุการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านตะโก ระบุว่า หลังจากเข้ามาทำงานที่กลุ่มออมทรัพย์ดังกล่าวเมื่อปี 2544 พบว่าทางคณะกรรมการได้กำหนดดอกเบี้ยปันผลเงินฝากสัจจะให้แก่สมาชิกร้อยละ 10 ต่อปี และสัจจะพิเศษอีกร้อยละ 20 ต่อปีอยู่แล้ว ทั้งมีการจ่ายค่าตอบแทนส่วนลดให้เหรัญญิก ณ ที่จ่ายในวันที่นำเงินมาส่งให้ทางกลุ่มร้อยละ 5 ต่อเดือน

ส่วนการดำเนินการกิจการในช่วงแรกก็ไม่มีปัญหาเพราะยังไม่ได้ลงทุนหลายอย่าง แต่พอมาปี 2547 ได้นำเงินไปลงทุนซื้อที่ดินสร้างโรงสีข้าว โรงเรือนเลี้ยงหมู และซื้อรถบรรทุกหกล้อ รวมถึงเต็นท์เพื่อมาไว้สำหรับบริการให้เช่าเพราะคิดว่าจะได้ผลกำไรเข้ากลุ่มมากขึ้น

อีกทั้งได้นำเงินที่สมาชิกฝากออม และฝากสัจจะพิเศษที่ไม่ได้จำกัดวงเงินไปปล่อยกู้ให้แก่สมาชิก โดยจะเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อเดือน แต่สมาชิกที่กู้ไปหลายรายส่งเงินล่าช้าบางรายก็ยังไม่ส่งคืน จึงทำให้ขาดสภาพคล่องสะสมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เคยแจ้งให้สมาชิกทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้

กระทั่งล่าสุดได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยปันผลเหลือร้อยละ 2 บาทต่อปี จากเดิมร้อยละ 10 ต่อปี และดอกเบี้ยสัจจะพิเศษลดเหลือร้อยละ 2 ต่อปี จากเดิมร้อยละ 20 ต่อปี จึงทำให้สมาชิกที่เคยได้ผลตอบแทนสูงเกิดความไม่พอใจ และแห่มาถอนเงินจนเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น

“แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการทุจริตหรือยักยอกเงินกลุ่มอย่างแน่นอน และเงินหมุนเวียนในกองทุนทั้งหมดมีเพียง 23 ล้านบาท ไม่ใช่ 100 ล้านบาท ตามที่สมาชิกกล่าวอ้าง” น.ส.มยุรีกล่าวในตอนท้าย
น.ส.มยุรี แฉล้มไธสง  เลขานุการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านตะโก
สมาชิกเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ อย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 200 รายแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น