xs
xsm
sm
md
lg

ทร.จับเรือสวมทะเบียนปลอมลอบขนน้ำมันเถื่อนเกือบแสนลิตร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือ ร่วมหน่วยงานรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 1 จับกุมเรือสวมทะเบียนปลอม ขนน้ำมันดีเซลเถื่อนเกือบแสนลิตร ลักลอบนำเข้าจากฝั่งมาเลเซีย จำหน่ายเรือประมงน่านน้ำไทย จับลูกเรือไทย 5 คน พร้อมยึดเงินสดเกือบล้านบาท

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (4 เม.ย.) พล.ร.ท.สุชีพ หวังไมตรี ผู้อำนวยการ ศูนย์การปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 1 (ผอ.ศรชล.เขต 1) ได้รับรายงานจากหน่วยข่าว มีเรือประมงขนาดใหญ่ ชื่อเรือเพชรบุรี 99 ตัวเรือสีฟ้า ขนาด 25 วา กว้าง 5 เมตร ดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน ลักลอบขายน้ำมันเถื่อนให้แก่เรือประมงในทะเลอ่าวไทย จึงได้รายงานให้ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้อำนวยการศูนย์การปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และเสนาธิการทหารเรือ รับทราบ พร้อมสั่งการให้ พล.ร.ต.เดชดล ภู่สาระ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 น.ต.กฤษณะ ชูสาย ผู้บังการเรือหลวงหัวหิน (ร.ล.หัวหิน) นำเรือออกลาดตระเวนหาเป้าหมาย

ต่อมารับแจ้งพบเรือดังกล่าวทิ้งสมอลอยลำอยู่ในพิกัดแบริ่ง 185 ระยะ 23 ไมล์ จากเกาะจวง ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงเข้าทำการตรวจสอบ ปรากฏว่า ไม่มีเอกสารประจำเรือ จึงได้ควบคุมเรือ พร้อมลูกเรือรวม 5 คน คือ นายไตรเทพ ตู้ทองคำ อายุ 56 ปี ผู้ควบคุมเรือ นายธเนศ นาคำ อายุ 27 ปี นายอิทธิพล ชูแว่น อายุ 39 ปี นายอภิสิทธิ์ ประดับคำ อายุ 54 ปี และนายสัญญา ดาทอง อายุ 39 ปี เข้าเทียบยังท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พร้อมประสานสำนักงานสืบสวนปราบปรามชลบุรี กรมศุลกากร สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ชลบุรี 2 กรมเจ้าท่า และตำรวจน้ำสัตหีบ เข้าตรวจสอบพบของกลางน้ำมันดีเซล (น้ำมันเขียว) ที่บรรจุอยู่ในระวางเรือ จำนวน 87,000 ลิตร และเงิน จำนวน 962,000 บาท ซึ่งนายไตรเทพ ตู้ทองคำ ผู้ควบคุมเรือยอมรับว่า เตรียมนำออกนอกประเทศเพื่อซื้อนำมันจากประเทศมาเลเซียมาจำหน่ายในน่านน้ำไทย

พล.ร.ท.สุชีพ หวังไมตรี กล่าวว่า หลังจับกุมได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมหารือ หาแนวทางในการตรวจสอบเส้นทางเดินเรือจากดาวเทียมที่มาของน้ำมัน เส้นทางของเงินจำนวนมากที่มีการนำออกนอกประเทศเกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา จากการตรวจสอบพบว่า เรือลำนี้ไม่อยู่สารบบการจดแจ้งไว้กับกรมเจ้าท่า น่าจะเป็นเรือเถื่อนที่นำมาสวมชื่อเรือ ว.เจริญสุข ทะเบียน 524580140 ที่แจ้งจดทะเบียนเรือไว้ที่ จ.นราธิวาส ใช้ในการบรรทุกน้ำมัน ส่วนข้อมูลทางด้านกรมศุลกากร พบว่า เส้นทางการเงินที่นำออกนอกประเทศเกินกฎหมายกำหนดนั้นผิด

เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหามีน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (ชนิดสีเขียว) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงภาษีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 ทำการในเรือในตำแหน่งที่ได้กำหนดให้ต้องมีใบประกาศนียบัตรรับรองความรู้ ความสามารถ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 เป็นผู้ควบคุมเรือไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงตัวเรือ หรือส่วนอื่นซึ่งผิดไปจากรายการที่ปรากฏอยู่ในทะเบียนเรือ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.เดินเรือไทย พ.ศ.2481 ใช้เรือผิดเงื่อนไขที่กำหนดใบอนุญาตใช้เรือ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และห้ามมิให้ผู้ใด ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 อีกทั้งจะมีการตรวจสอบเส้นทางของเงิน และเส้นทางการนำเข้าของน้ำมันอีกด้วย

ด้าน พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผอ.ศรชล.และเสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีนโยบายเร่งด่วนไปยัง ศรชล. ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือทั้ง 3 เขต มีอ่าวไทยตอนบน ตอนล่าง และทะเลอันดามัน ให้เข้มงวดกวดขันการกระทำความผิดกฎหมายทางทะเล โดยเฉพาะเรือประมงขนาดใหญ่ที่ทำการประมงระหว่างประเทศให้มีการขึ้นทะเบียนเรือ และระบบการติดตามเรือ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของการค้ามนุษย์

นอกจากนี้ ยังได้ให้เพิ่มความเข้มในการหาข่าวในทะเล ชายฝั่งให้มากขึ้น และมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเข้มงวดกวดขัน ป้องปราม ปราบปรามเหล่านี้ล้วนเป็นผลประโยชน์ของคนไทยในการส่งออกอาหารทะเลสู่ต่างประเทศ จึงขอให้ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ แจ้งจดทะเบียนเรือให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติร่วมกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น