ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาคที่ 1 ซ้อมแผนช่วยผู้ประสบภัยในทะเล เตรียมความพร้อมภาวะฉุกเฉิน ณ กลางอ่าวสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สร้างความเชื่อมั่นกองทัพเรือเคียงข้างประชาชน
วันนี้ (26 พ.ย.) พล.ร.ท.สุชีพ หวังไมตรี ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 (ศรชล.เขต 1) ได้ปฏิบัติการยุทธศาสตร์ภายใต้ภารกิจ “ซ้อมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล” เตรียมความพร้อมในภาวะฉุกเฉิน ณ กลางอ่าวสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี น.อ.สำเริง จันทร์โส รองเสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 ควบคุมการปฏิบัติ มีหน่วยงานเข้าร่วม เช่น กรมศุลกากร ตำรวจน้ำสัตหีบ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองการบินทหารเรือ และกรมทรัพยากร
สำหรับภารกิจแผนปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล มีการจำลองช่วยเหลือผู้ป่วยในเรือประมงที่ลอยลำอยู่กลางทะเล ห่างชายฝั่งสัตหีบ 5 ไมล์ทะเล โดยใช้เครื่องเฮลิคอปเตอร์ออกทำการลาดตระเวนหาเป้าหมายที่ตั้ง ณ จุดตำบลที่อยู่ของเรือผู้ประสบภัย ก่อนประสานมายังเรือตรวจการณ์ 15 เรือกรมศุลกากร และเรือตำรวจน้ำ เข้าช่วยเหลือเรือเป้าหมายทันที โดยส่งเรือยางมีกำลังพลของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (มนุษย์กบ) เข้าตรวจสอบเคลียร์พื้นที่ พร้อมรายงานผลให้หน่วยเหนือทราบ
เบื้องต้น พบผู้ป่วยมีอาการโคม่า ต้องรีบนำตัวส่งแพทย์ จึงได้ปฏิบัติการแผนช่วยผู้ประสบภัยทางเฮลิคอปเตอร์ โดยนำตัวผู้ป่วยยึดลวดสลิงโรยตัวขึ้นบนเครื่อง ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลใกล้เคียง
น.อ.สำเริง กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 1 หรือศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 มีภารกิจหลักในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ในทะเล การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล เช่น การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการลักลอบสินค้าเลี่ยงภาษีศุลกากร การปราบปรามโจรสลัด การป้องกันผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายประมงและป่าไม้ การปราบปรามการกระทำความผิดทางคมนาคมขนส่งทางน้ำ การปราบปรามผู้กระทำความผิดกฎหมายแรงงาน และการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับสถานที่ผลิตปิโตรเลียมในทะเล
ในภารกิจซ้อมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล นับเป็นภารกิจสำคัญอย่างหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในทะเลให้ได้รับความปลอดภัยอย่างทันท่วงที ในสภาวะปกติที่ต้องมีความเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ต้องมีการเตรียมความถึงขึ้นขีดสูงสุด ทั้งองค์บุคคล และองค์วัตถุ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนว่า กองทัพเรือพร้อมจะช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างประชาชนตลอดไป