xs
xsm
sm
md
lg

กำนัน ต.ขี้เหล็กแจงไม่มีส่วนร่วมแก๊งตุ๋นชาวบ้านเข้าทำงานราชการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กำนันตำบลขี้เหล็กและแกนนำชุมชนในพื้นที่อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด แจงไม่มีส่วนร่วมกับแก๊งต้มตุ๋น
ร้อยเอ็ด - กำนันตำบลขี้เหล็กและแกนนำชุมชนในพื้นที่ อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด แจงไม่มีส่วนร่วมกับแก๊งต้มตุ๋น ระบุเหตุไม่ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลตำรวจเพราะไม่รู้จักกับแก๊งต้มตุ๋น ทั้งชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อ ยังมีความหวังจะฝากบุตรหลานเข้าทำงานข้าราชการได้ ด้าน พมจ.ร้อยเอ็ดแจงเข้าทำงานรับราชการต้องสอบตามระเบียบราชการเท่านั้น

วันนี้ (24 มี.ค. 58) ที่ห้องประชุม อบต.ขี้เหล็ก อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด นายวิเศษ ละผิว กำนันตำบลขี้เหล็ก พร้อมด้วยแกนนำ 8 หมู่บ้าน ได้ประชุมชี้แจงต่อนายอำเภอปทุมรัตน์และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสังเกตว่ากำนันตำบลขี้เหล็ก รวมถึงผู้ใหญ่บ้านและแกนนำในพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนคลี่คลายคดีจับแก๊งต้มตุ๋นหลอกเอาเงินชาวบ้านในพื้นที่ อ้างว่าจะฝากให้เข้ารับราชการในสังกัด สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ร้อยเอ็ด

นายวิเศษ ละผิว กำนันตำบลขี้เหล็ก กล่าวว่า ส่วนใหญ่แกนนำชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้จักกับแก๊งต้มตุ๋นกลุ่มนี้มาก่อน ส่วนเหตุที่ชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือนั้นเพราะกลัวว่าจะถูกขัดขวางไม่สามารถฝากลูกหลานเข้าทำงานตามที่แก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงไว้ ยืนยันว่าแกนนำชุมชนและผู้ใหญ่บ้านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่ตำรวจเข้าใจ

หลังจากผู้ต้องหาถูกจับแล้วจึงยอมไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยจะเดินทางไปในวันรุ่งขึ้น มูลเหตุที่ชาวบ้านเชื่อถือจนถูกหลอกนั้น สาเหตุหลักมาจากผู้ต้องหามีการแอบอ้างว่าเป็นตำรวจ แต่งชุดตำรวจมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ชาวบ้านหลายคนจึงยอมทุ่มไปกู้ยืมเงินมาเพื่อหวังจะให้ลูกมีงานทำเป็นหลักแหล่ง

ก่อนหน้านี้นายอำเภอปทุมรัตน์สั่งว่าให้เร่งตรวจสอบ เพราะแก๊งต้มตุ๋นน่าจะมีมากกว่านี้ ซึ่งหลังจากเป็นข่าวขึ้นได้เรียกประชุมแกนนำเพื่อกระจายเตือนประชาชนที่อาจจะถูกหลอกลวงให้เข้าใจ จากข้อมูลมีชาวบ้านถูกหลอก 17 คน มีบัญชีรายชื่อชาวบ้านที่ยอมจ่ายเงินสูงสุดเพื่อหวังแซงคิวคนอื่นให้ลูกได้ทำงานก่อน ถึงขนาดยอมจ่ายเงินสูงสุดไปถึง 270,000 บาท รายที่จ่ายต่ำสุดคือ 30,000 บาท แต่ละคนล้วนหวังให้ลูกหลานได้ทำงาน

ด้านนางวิไลวรรณ อุดมประเสริฐ อายุ 51 ปี เหยื่อที่ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอก กล่าวว่า ตนหลงเชื่อ ได้สมัครขอใช้สิทธิ 2 คนคือลูกสาวกับลูกชาย โดยยอมจ่ายเงินคนละ 80,000 บาท ทั้งที่ยังไม่รู้ตำแหน่งงานในสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เ อีกทั้งยอมจ่ายเงินซื้อชุดอีก 2 ชุด ชุดละ 1,400 บาท ชุดขาวชุดละ 500 บาท โดยแก๊งต้มตุ๋นได้หาขีดป้ายตราหน่วยงานมาให้เอง ทำให้มีความน่าเชื่อถือมาก และเห็นว่ามีคนสมัครเยอะจึงหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อด้วย

ด้านนายสุชาติ ต่ายทรัพย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด (พมจ.) กล่าวว่า ขอชี้แจงให้สังคมได้รับรู้ว่าขบวนการจ้างเข้ารับราชการไม่มีในระบบราชการแน่นอน กรณีที่เสียเงินแล้วได้ทำงานไม่มีจริง เพราะการรับราชการต้องสอบตามขั้นตอน ตามระเบียบราชการเท่านั้น อย่าหลงเชื่อหากมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมาบอกว่า เสียเงินแล้วจะได้ทำงานนั้นไม่ชอบมาพากลแน่นอน ไม่ว่าจะหน่วยราชการไหนก็ตาม

ส่วนนายวัยวุฒิ อาศัยผล นายอำเภอปทุมรัตต์ กล่าวว่า หากประชาชนสงสัยเรื่องแก๊งต้มตุ๋น สามารถสอบถามอำเภอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ ทั้งได้ขอความร่วมกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ประชาสัมพันธ์อย่าหลงเชื่อ เพราะอาจจะมีการหลอกลวงรูปแบบอื่นเข้ามาอีก ส่วนใครที่โดนหลอกในกรณีเดียวกันนี้ขอให้รีบแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อพาไปแจ้งความดำเนินคดีต่อแก๊งต้มตุ๋นกลุ่มนี้ในคราวเดียวกัน

ด้าน พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความแล้วทั้งสิ้น 19 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ อ.ปทุมรัตน์ 12 ราย โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พงศธร สิทธิสาร ผกก.สภ.ปทุมรัตน์ และ พ.ต.อ.ธนิต เหรียญเจริญ ผกก.เกษตรวิสัย ให้สายตรวจประสานไปยังผู้เสียหายแล้วอำนวยความสะดวกมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังมีอีกส่วนใหญ่ที่ยังไม่พร้อมจะให้ปากคำ เพราะต้องการเตรียมข้อมูลและรายละเอียดมาพบพนักงานสอบสวนในวันต่อไป

ทั้งนี้ หลังการประสานไปยังนายอำเภอ และแกนนำชุมชน ในช่วงแรกผู้เสียหายไม่ยอมให้ปากคำและข้อมูลแก่ตำรวจ แต่หลังจากมั่นใจว่าโดนหลอกแน่นอน และมีการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 คนและสารภาพว่าหลอกลวงชาวบ้านจริงก็ได้รับความร่วมมือดี โดยได้กำชับให้ สภ.เมืองร้อยเอ็ดจัดตั้งกองอำนวยการการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้เสียหาย เชื่อมั่นว่ายังมีขบวนการนอกเหนือจาก 3 คนที่ผู้เสียหายชี้ตัว



กำลังโหลดความคิดเห็น