ดีเอสไอจับผู้ต้องหาแอบอ้างผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หลอกชาวบ้านสามารถล็อกเลขรางวัลได้ เผยแก๊งนี้มีพฤติกรรมต้มตุ๋นมานานกว่า 20 ปี โดยส่งจดหมายไปยังเหยื่อเดือนละกว่า 5,000 ราย หากหลงเชื่อต้องจ่ายตังค์รายละ 4,000 ถึง 1 หมื่นบาท
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน ผบ.สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ (สทส.) ดีเอสไอ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผอ.ส่วนตรวจ 2 สทส.ดีเอสไอ พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ร่วมแถลงผลการจับกุมนายพรหมชัย หรือสัมฤทธิ์ ภูทะวัง อายุ 58 ปี ผู้ต้องหารายใหญ่ในคดีฉ้อโกงประชาชน โดยการแอบอ้างผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทำจดหมายหลอกลวงประชาชนว่าสามารถล็อกเลขรางวัลได้
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์กล่าวว่า สืบเนื่องสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลร้องทุกข์มายังดีเอสไอขอให้ดำเนินคดีต่อบุคคลที่แอบอ้างทำจดหมายหลอกลวงปลอมแปลงสัญลักษณ์และลายมือชื่อของผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวงประชาชน โดยแอบอ้างว่าสามารถล็อกเลขรางวัลได้หากสนใจให้สมัครเป็นสมาชิก ผู้ต้องหาจะทิ้งเบอร์โทร.ติดต่อในจดหมายนั้น และส่งจดหมายไปตามที่อยู่ที่สามารถหาได้ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2555 ต่อมาเมื่อปี 2556 ดีเอสไอสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ 5 รายข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และร่วมกันใช้เครื่องหมายครุฑพ่าห์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามกฎหมายประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.เครื่องหมายครุฑพาห์ มาตรา 13 และเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดไม่ว่าด้วยการใช้ บังคับขู่เข็ญ จ้างวานหรือยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีอื่นใด ตามประมวลกฎหมายอาญา ได้แก่ นายธนวัฒน์ พุกทอง ซึ่งศาลอาญาได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก 20 ปี นางธัญพร พุกทอง อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอาญา ความเสียหายกรณีนี้ประมาณ 3,035,395 บาท นายชัยอนันต์ คำมา ความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการคดีพิเศษ น.ส.ศิริมาศ สุขสมาน 28 ปี นายสานิต ศรีสุวงศ์ อายุ 34 ปี โดยทั้ง 2 รายนี้ให้การรับสารภาพและอยู่ระหว่างรอคำพิพากษาศาลอาญา ส่วนนายศุภชัย ภูทะวัง (น้องเขยของนายพรหมชัย) ศาลอาญาตัดสินจำคุก 20 ปี
สำหรับนายพรหมชัยเป็นผู้ต้องหารายใหญ่ในขบวนการนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ด้าน พ.ต.ท.ปกรณ์กล่าวว่า ขบวนการนี้มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนมานานกว่า 20 ปี โดยจะมีการส่งจดหมายประมาณ 5,000 ฉบับต่อเดือน และหากมีผู้สนใจก็จะเรียกเก็บค่าสมัครสมาชิกตั้งแต่ 4,000-หลักหมื่นบาท หรือการโทร.ไปบอกเลขซึ่งเป็นเลขที่ได้จากการสุ่ม ทั้งนี้เมื่อโทร.ไปบอกเลขแก่เหยื่อแล้วกลุ่มผู้ต้องหาก็จะบอกให้ซื้อหวยเผื่อ และจะจดบันทึกไว้ว่าให้เลขอะไร กับเบอร์โทร.ใด จากนั้นเมื่อเลขที่บอกถูกรางวัล ผู้ต้องหาก็จะโทร.ไปทวงเงินที่ฝากซื้อ บางรายก็ให้บางรายก็ไม่ให้ ส่วนที่เคยได้รับมาสูงสุดต่องวดประมาณ 50,000 บาท ทั้งนี้ในงวดต่อไปผู้ต้องหาจะโทรศัพท์ไปหาเหยื่อที่เคยถูกรางวัลว่าจะใช้บริการอีกหรือไม่ ผู้เสียหายส่วนใหญ่ที่หลงเชื่อก็จะใช้บริการอีก อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาจะมีการเปลี่ยนซิมการ์ดโทรศัพท์ทุกงวด