xs
xsm
sm
md
lg

รวบอดีตโบรกเกอร์เปิดเว็บหลอกขายกล้องถ่ายรูป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุรสิทธิ์ เตียวิไล ผู้ต้องหา
ปอท.แถลงรวบอดีตโบรกเกอร์นักบิน เปิดเว็บไซต์หลอกขายกล้องถ่ายรูป โดยมีพฤติการณ์หลอกเหยื่อโอนเงินมายังบัญชีธนาคารที่กระทำผิดมานานกว่า 5 ปี มูลค่าความเสียหาย 1 ล้านบาทเศษ อ้างต้องการนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วย



วันนี้ (2 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รักษาการ ผบช.ก. พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ยศวีร์ พรพีรพาน ผกก.1 บก.ปอท.แถลงข่าวจับกุม นายสุรสิทธิ์ เตียวิไล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 280 ซอยอนามัยงามเจริญ 27 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมของกลาง บัตรประชาชนผู้อื่น 2 ใบ บัตรเอทีเอ็มของผู้อื่น 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และซิมการ์ดโทรศัพท์ 6 ชิ้น จับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา

พล.ต.ต.ศิริพงษ์กล่าวว่า นายสุรสิทธิ์มีพฤติการณ์สร้างเว็บไซต์ปลอมและโพสต์ข้อความตามเว็บไซต์ซื้อขายสินค้ามือสอง ประกาศว่าเป็นพนักงานร้านจำหน่ายกล้องถ่ายรูปมือสองราคาถูกกว่าท้องตลาดมาเสนอขาย โดยได้ใช้ชื่อแฝงว่า “Benze Money” จากนั้นได้ให้เหยื่อโอนเงินมายังบัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาไปหลอกลวงเหยื่ออีกกลุ่มให้เปิดบัญชีมาอีกที กระทั่งมีผู้หลงเชื่อสั่งซื้อและโอนเงินให้หลายราย จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ กระทั่งพบว่าผู้ต้องหารายนี้จะใช้ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่กระทำความผิดเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบไอพีแอดเดรส ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้

สอบสวนนายสุรสิทธิ์รับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับนายนพ ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ผ่านทางเว็บไซต์ซื้อขายสินค้ามือสอง จากนั้นมีการแนะนำวิธีการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยตนเพิ่งเข้ามาร่วมก่อเหตุประมาณปี 2556 หลอกลวงผู้เสียหายมาประมาณ 20-30 คน ที่ผ่านมาตนได้รับซื้อข้อมูลบัญชีของผู้เสียหายจากนายนพ ในราคาเล่มละ 4,000 บาท ตัดสินใจซื้อมา 4 เล่ม และที่ผ่านมาได้กระทำเพียงลำพังคนเดียว สาเหตุที่ลงมือนั้นเพราะต้องการนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วย

“เมื่อก่อนผมเคยทำงานเป็นโบรกเกอร์บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ก่อนจะลาออกมา ส่วนการก่อเหตุที่เกิดขึ้นยอมรับว่าได้หลอกลวงผู้เสียหายจริงเพราะโกรธที่ผมเคยเขาถูกหลอกลวงมาก่อนด้วย อย่างไรก็ตาม อยากกล่าวขอโทษเหยื่อทุกราย ขณะนี้รู้สึกสำนึกผิดแล้ว ส่วนใครที่ยังคงกระทำการลักษณะเดียวกับผมอยู่ก็อยากให้เลิก เพราะวันหนึ่งก็จะต้องถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดี” นายสุรสิทธิ์กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น