ปอท.จับสองผัวเมียหลอกขายกล้องฟรุ้งฟริ้งมือสองในราคา 8,000 บาท ผ่านเฟซบุ๊ก มีเจ้าทุกข์กว่า 70 รายที่ตกเป็นเหยื่อ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท ด้านผู้ต้องหารับสารภาพอ้างขณะนั้นกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนเลยต้องหาเงินด้วยวิธีนี้
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ยศวีร์ พรพีรพาน ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ มากเจริญ รอง ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ท.สุพจน์ หน่อคำ สว.กก.1 บก.ปอท. ร่วมแถลงผลการจับกุม นายชวเทพ หรือแซม พลรักษ์ อายุ 20 ปี และ น.ส.สุชาดา หรือขวัญ เอี่ยมสอาด อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดสตูล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน โดยสามารถจับกุมได้ที่โรงแรมแรมแห่งหนึ่ง ถนนพุกร่าง-บ้านหมอ หมู่ 8 ต.พุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ศิริพงษ์กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นแฟนกันอยู่ที่จังหวัดสตูล ก่อนหน้านี้เคยประกอบอาชีพขายอาหารเสริม และยาลดความอ้วนผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก และช่องทางอื่นๆ ต่อมาได้เปิดเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อว่า “Casio 2 Hand จำหน่ายกล้อง Casio มือสองทุกรุ่น รับซื้อกล้องราคาสูง และกล้อง Casio ฟรุ้งฟริ้ง ราคาถูกคุณภาพเริ่ด ปลอดภัย 100%” จากการตรวจสอบข้อมูลภายหลังที่ผู้เสียหายร้องเรียนนั้น ปรากฏว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการหลอกขายกล้อง Casio รุ่นฟรุ้งฟริ้งมือสองในราคา 8,000 บาท ซึ่งราคามือหนึ่งของสินค้ามีราคาเกือบ 5 หมื่นบาท
ทั้งนี้ มีเจ้าทุกข์กว่า 70 รายที่ตกเป็นเหยื่อรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้แต่ไม่ได้รับสินค้านานกว่า 2 ปีแล้ว ทาง บก.ปอท.จึงรวบรวมข้อมูลและหลักฐานต่างๆ ก่อนออกหมายจับ กระทั่งจับกุมทั้งคู่ได้ขณะกำลังหลบหนีไปตามจังหวัดต่างๆ เบื้องต้นดำเนินคดีทั้งคู่ตามกฎหมายต่อไป
ด้าน น.ส.กนกอร กุลชาติ อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเผยว่า เมื่อประมาณกลางเดือน ธ.ค. 57 ตนได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการประกาศซื้อขายกล้อง Casio ZR 1500 หรือกล้องฟรุ้งฟริ้ง ที่วัยรุ่นนิยมกันมาก ก่อนโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.สุชาดา เมื่อ 13 ธ.ค. 57 แต่ผู้ต้องหาไม่ส่งสินค้ามาให้ และบ่ายเบี่ยงไม่รับโทรศัพท์ จากนั้นปิดมือถือหนี จึงไปแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 57 จากนั้นพบว่าในเว็บพันทิพย์มีผู้เสียหายจากเฟซบุ๊กดังกล่าวหลอกขายกล้องฟรุ้งฟริ้งจำนวนมากกว่า 70 ราย จึงรวมตัวกันมาแจ้งความที่ บก.ปอท.
ขณะที่ น.ส.สุชาดาผู้ต้องหาอ้างว่า ตนเปิดเฟซบุ๊กหลอกขายกล้องดังกล่าวเนื่องจากที่บ้านในจังหวัดสตูล พ่อแม่ทำธุรกิจขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ธุรกิจล้มละลายจึงต้องทำแบบนี้ ประกอบกับตนตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนเลยหาเงินด้วยวิธีนี้นำเงินไปใช้จ่ายชีวิตประจำวันและซื้อของต่างๆ