xs
xsm
sm
md
lg

แจงเหตุรื้อบ้านสองตายาย บุกรุกใหม่-ขวางขุดลอกคลอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ผอ.ชป.13 แจงเหตุรื้อบ้านสองตายายทิ้ง เพราะเป็นผู้บุกรุกรายใหม่ สร้างขวางโครงการขุดลอกคลองระบายน้ำ

กรณีนายพยุง ทับทิมศรี อายุ 61 ปี นางนงเยาว์ ทับทิมศรี อายุ 55 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 1071/26 หมู่ 4 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่ทำเพิงพักอาศัยอยู่บนถนนเลียบแม่น้ำแม่กลอง หมู่ 4 ต.ท่าม่วง ถูกเจ้าหน้าที่ชลประทานรื้อบ้าน ทำให้ทั้งสองอยู่กันอย่างอนาถาเป็นอย่างมากนั้น

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้(20 มี.ค.)นายประสงค์ ผ่องสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กลอง สำนักชลประทานที่ 13 ชี้แจงว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุในความครอบครองของกรมชลประทาน มีประมาณ 2,000 ไร่เศษ ครอบคลุมหมู่ 1-4 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง และ หมู่ 4-5 ต.ท่าม่วงเขตพนังกั้นน้ำฝั่งซ้ายเขื่อนแม่กลอง มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งพบว่ามีราษฎรบุกรุกปลูกสร้างอาคาร บ้านพักอาศัย ปักเสาไฟฟ้าพร้อมพาดสาย ออกเลขที่บ้าน ปลูกไม้ยืนต้น อันเป็นการทำลายพนัง ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กลอง สำนักชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน แต่อย่างใด เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2554 เจ้าหน้าที่ได้ทำการสำรวจพบว่ามีราษฎรบุกรุก 93 หลังคาเรือน

โดยมีหนังสือแจ้งไปยังกำนันตำบลท่าล้อ กำนันตำบลท่าม่วง ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 6 หมู่ เทศบาลตำบลท่าล้อ เทศบาลตำบลท่าม่วง ช่วยแจ้งข่าวสารให้กับราษฎรทั้ง 93 ครัวเรือนรื้อถอน และแจ้งให้ทราบว่าการบุกรุกมีความผิดตามพ.ร.บ.การชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 มาตรา 23 และ 30 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่แจ้งความดำเนินคดี เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม

นอกจากนี้ได้แจ้งไปที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)กาญจนบุรี ให้ทำการรื้อถอนเสาไฟฟ้าออกจากพื้นที่พนังกั้นน้ำทั้งหมด ซึ่งได้รายงานไปที่กรมชลประทานให้ทราบมาโดยตลอด สำหรับพนังกั้นน้ำยาว 6 กิโลเมตรได้ทำโครงการขุดลอกคลองเพื่อใช้สำหรับระบายน้ำเป็นระยางทาง 2 กิโลเมตร

สำหรับบ้านของนายพยุงและนางนงเยาว์ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่าบ้านหลังดังกล่าวเพิ่งบุกรุกเข้ามาสร้างใหม่ และขวางเส้นทางขุดลอกคลองระบายน้ำในระยะ 2 กิโลเมตร หากไม่ทำการรื้อถอนหรือเว้นเอาไว้ การขุดลอกก็จะไม่มีประโยชน์ ซึ่งก่อนทำการรื้อถอนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบแล้ว นายพยุง และนางนงเยาว์ก็เข้าใจเป็นอย่างดี ยินยอมให้รื้อถอนโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ

"ถึงแม้จะเป็นคนยากจน แต่ทางกฎหมาย คือ ผู้บุกรุก าหากเราปล่อยให้มีการบุกรุกรายใหม่เกิดขึ้น ต่อไปก็จะมีผู้เข้ามาบุกรุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหากไม่มีการดำเนินการกับผู้บุกรุก เราอาจโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้มอบพื้นที่ไม่ใช้ประโยชน์คืนให้กับราชพัสดุ กรมธนารักษ์แล้ว บางส่วน จึงอยากให้ประชาชนไปเช่าให้ถูกต้องเพื่อประโยชน์ของตัวเอง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่เพิงพักของนายพยุและนางนงเยาว์ อากาศยังคงร้อนจัด มีเพื่อนบ้านมาเยี่ยมเยียนจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนที่ทราบข่าว นำอาหารพร้อมน้ำดื่มและเงินสดมามอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ซึ่งวันที่ 24 มี.ค. นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอท่าม่วง จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น