แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 7
ใบพรเดินเช็ดน้ำตาออกมายังตรอกหลังร้านตามลำพัง ลงนั่งที่เก้าอี้อาร์มแชร์เก่า ๆ ไม่ได้สังเกตว่าร่างทะมึนของ สิงห์ ยืนซุ่มอยู่ เขาหยิบปืนที่เหน็บอยู่ที่เอว จ่อตรงมาที่ใบพร
สิงห์เดินมาใกล้ ได้ยินเสียงใบพรสะอื้น สิงห์ลังเล ใบพรหันมาพอดี สิงห์รีบเก็บปืนซ่อนไว้ด้านหลัง
"พี่..." ใบพรเช็ดน้ำตา "ยังไม่กลับเหรอ"
"ยัง เป็นอะไรร้องไห้"
"ฉันโดนไล่ออกน่ะ"
"โดนไล่ออก เพิ่งมาทำงานไม่ใช่เหรอ"
"ใช่....แต่เฮียเขาไม่พอใจ ฉันมีเรื่องกับแขกที่มันมาลวนลามฉัน"
"เธอเป็น เออ"
"ฉันเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่แขกลวนลามหมดหละ ถ้าเรามาทำงานที่แบบนี้"
"แล้วจะทำยังไงต่อ"
"ก็ต้องหางานใหม่น่ะพี่ สู้ต่อไป พี่มีงานอะไรให้ฉันทำบ้างไหมล่ะ ฉันหนักเอาเบาสู้นะ"
"ไม่มีหรอก"
ใบพรฝืนยิ้มไม่ไหว สะอื้นออกมาอีก สิงห์ยืนอึ้ง ที่คิดจะฆ่าเป็นอันล้มเลิกไป ต้อยออกมาจากประตูพอดี
"ใบพร"
สิงห์รีบซ่อนปืนทันที ต้อยเดินมาหาใบพร มองสิงห์อย่างสงสัยเล็กน้อย แต่จำสิงห์ไม่ได้
ไไม่ร้องนะ ไม่ร้อง ไป ไปเปลี่ยนชุดเถอะ แล้วกลับบ้าน"
ต้อยประคองใบพรกลับเข้าร้านไป สิงห์พิงผนังตึก ถอนใจ
ใบพรนั่งเศร้าที่โถงบ้านเสน่ห์จันทร์ ต้อยเข้าไปปลอบใจเพื่อน
"ไม่เป็นอะไรนะพร"
ใบพรพยักหน้ารับ ฝืนเข้มแข็งไม่ร้องไห้ ละม่อมที่ยืนคุยอะไรบางอย่างกับพริ้งอยู่เดินเข้ามา
"เห็นพริ้งบอกว่าเฮียให้พักงานเหรอ" ละม่อมถาม
"ค่ะ"
"แล้วคิดหรือยังว่าจะทำอะไรต่อไป"
"พรว่าจะลองสมัครงานโรงงานดู เผื่อมีตำแหน่งว่าง"
"แล้วระหว่างนี้ละ จะกินอยู่ยังไง แม่ก็กำลังโคม่าอยู่ไม่ใช่เหรอ"
ใบพรจะร้องไห้แต่กลั้นไว้
"พรยังไม่รู้เลยค่ะ"
"งั้นเอาเงินนี้ไปนะ ถึงมันจะไม่มากแต่มันก็จะพอดูแลแม่ไปซักระยะนึง"
ละม่อมยื่นเงินให้ใบพร 5000 บาท ใบพรเห็นความเอื้ออาทรที่ละม่อมมีให้ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พรั่งพรูความรู้สึกอัดอั้นทั้งหมดออกมา
"พรไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้"
ละม่อมกอดปลอบ
"เอาเถอะ ไม่ต้องร้องไห้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำไป"
ห้องพระ ตอนกลางคืน
ใบพรกำลังนั่งสวดมนต์อธิษฐานขอพรพระ ด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยอย่างคนสิ้นหวัง
"ลูกไม่รู้ว่าชาติก่อนลูกกับแม่ทำเวรทำกรรมอะไรไว้ แต่ถ้านี่เป็นการชดใช้กรรม ลูกก็ขอให้เวรรกรรมเหล่านั้นจงมาตกที่ลูกแต่เพียงผู้เดียว"
ห้องพักฟื้น วันรุ่งขึ้น
ใบพรกำลังเช็ดเนื้อตัวขาให้วิไลที่นอนโคม่าไม่ได้สติอยู่บนเตียง ด้วยความรักใคร่ทะนุถนอม
"ขอให้ผลแห่งกรรมดีที่ลูกทำมาไม่ว่าในชาตินี้ชาติไหน ที่กำลังทำอยู่หรือกำลังจะทำต่อไป..."
บ้านเสน่ห์จันทร์ ตอนกลางวัน
ใบพรปัดกวาดเช็ดถูบ้านอย่างหนักเอาเบาสู้ หวังจะให้ลืมเรื่องร้าย ๆ ในชีวิตตัวเอง แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ทำไปปาดน้ำตาไป
"...จงช่วยดลบันดาลให้แม่ของลูก หายจากความเจ็บป่วย มีชีวิตอยู่ยืนยาว"
วันต่อมา นงเยาว์กำลังเก็บข้าวของที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้นยัดลงกระเป๋า สิงห์และชิตเข้ามาในห้อง
"นง จะไปไหน" สิงห์ถาม
"ไปจากบ้านนี้ "
"แล้วจะไปอยู่ไหน"
"ฉันได้งานทำแล้ว"
"งานอะไร อย่าบอกนะว่างานประเภทเปลืองเนื้อ เปลืองตัวน่ะ"
"อาจจะยิ่งกว่านั้นก็ได้นะพี่"
"พี่ไม่ให้เธอไป"
สิงห์กระชากถุงข้าวของของนงเยาว์คืนมา
"เอาไปก็ได้ เพราะเสื้อผ้าพวกนั้นฉันไม่ใส่อยู่แล้ว เสื้อที่ใส่อยู่นี่ ฉันก็จะไม่ใส่เลยก็ได้" "อย่ามาพูดประชดแบบนี้ ที่ผ่านมาก็ทำตัวเละเทะพออยู่แล้ว"
"อย่ามายุ่งกับฉัน"
นงเยาว์สะบัดออก วิ่งออกจากห้อง สิงห์วิ่งตามมาพร้อมชิต
สิงห์ตามมายึดร่างนงเยาว์ไว้
"พี่ขอร้อง อย่าหนีไปอีก ไม่งั้นพี่ตงไม่ให้อภัยเธอแน่ ดูนี่ พี่ตงเขาอยากให้เธอดู"
สิงห์หยิบมือถือออกมา แล้วเปิดภาพคลิปแม่ที่นอนป่วยให้นงเยาว์ดู นงเยาว์นิ่งงันไป
แม่ผ่ายผอม พยายามขยับปากจะพูดบางอย่าง เสียงตงพูดอยู่ข้าง ๆ
"นง แม่บอกว่าแม่เป็นห่วงแกมาก แม่อยากให้แกกลับมา กลับมาเถอะนะนง"
ใบหน้าแม่น้ำตาค่อย ๆ ไหลพราก นงเยาว์น้ำตาไหลตาม เบือนหน้าหนีจากภาพคลิปนั้น
"พอแล้ว ไม่ต้องเอามาให้ฉันดู ฉันไม่อยากดู"
"ตั้งแต่นงหนีมา แม่กินไม่ได้นอนไม่หลับ อาการทรุดลงไปทุกที ยิ่งนงทำแบบนี้แม่ยิ่งจากพวกเราไปเร็วขึ้น"
"พอเลย ทำไมฉันต้องรับผิดชอบเรื่องแม่คนเดียว พี่ล่ะ การที่พี่ไปปล้นเขากิน ไม่คิดบ้างเหรอว่ามันก็เร่งวันเร่งคืนให้แม่ตายเร็วขึ้นเหมือนกันละ"
สิงห์หมดแรงเถียง นงเยาว์ เพราะมันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
"ปล่อยฉันไปตามทางของฉัน บอกว่าเป็นห่วง บอกว่ารัก โกหกทั้งนั้น"
นงเยาว์วิ่งจากไป สิงห์หมดแรงตาม
"พี่สิงห์ เอาไง"
"แกพอจะรู้ไหมว่านงจะไปทำงานอะไร"
ชิตหลบตา
"ไม่รู้หรอกครับ แต่สืบได้อยู่แล้ว"
ชิตจะแยกกลับห้อง
"เดี๋ยวชิต ฉันเจอผู้หญิงสองคนนั่นแล้ว"
"หา....เจอแล้วเหรอพี่ ใคร"
"แกก็รู้จักดี ชื่อ ใบพร อีกคนชื่อต้อย"
ชิตตะลึงงัน
สายพิณ ศรี เดินมาจากในครัว ถือของกินเข้ามาด้วย ทั้งสองหยุดมองนงเยาว์ที่กำลังหมุนร่างอยู่ตรงหน้าละม่อม พริ้ง ต้อยคอยช่วยอยู่ด้วย ชุดนางโชว์วางอยู่หลายชุด ใบพรหน้าซีดเซียว ช่วยปักผ้าอยู่มุมห้อง
"เลิกเสื้อหน่อยซี ผอมไปหน่อย จะอวบกว่านี้อีกก็ได้นะ"
"แม่พวกนี้เขากลัวอ้วนกันพี่ กินข้าวคนละครึ่งทัพพี ไม่รู้จะกลัวอ้วนกันไปถึงไหน" พริ้งบอก
"ต้องไม่กลัวอย่างเจ๊ใช่ไหม กินทีละกะละมัง" ต้อยว่า
"นงเยาว์ มาอยู่บ้านเจ๊ อย่าให้ผีเจาะปากอย่างนังต้อยมันนะ เพราะอย่างนี้แขกมันถึงไม่ออฟ ปากมันเน่าปากมันหนอน"
"ต้องให้ผีเจาะอย่างอื่นใช่ไหมเจ๊ ปากถึงจะไม่เน่าหนอนน่ะ"
สายพิณมองนงเยาว์อย่างไม่วางใจ เพราะเห็นชัดเจนว่าสาวกว่า สดกว่าตน
ศรีบอก
"เห่อของใหม่ รำคาญ"
พริ้งแยกมาที่ศรีและสายพิณ
"นี่....ไปแนะนำตัวให้เด็กใหม่รู้จักหน่อยซี มันชื่อนงเยาว์"
"สวยนะพี่" สายพิณว่า
"ไม่เห็นสวยตรงไหน หน้าอย่างกะเพิ่งฟื้นจากโคม่า" ศรีบอก
"แหม นังศรี พูดได้ คนที่เพิ่งฟื้นโคม่าน่ะ คือแก เพิ่งไปซ่อมเสริมช่วงล่างมา ยังมาลอยหน้าว่าคนอื่น โถ อีลำโพง"
"ฉันซ่อมเสริมฟิตเปรี๊ยะกว่าเดิมก็แล้วกัน ไปเถอะพิณ รำคาญพวกเห่อของใหม่ อ้อ อย่าให้มายุ่งกับฉันนะ นังชะนีคนนี้"
สองสาวขึ้นบันไดไป สายพิณยังมองอย่างกังวลใจ
พริ้งกลับมาดูแลนงเยาว์ต่อ ละม่อมทาบชุดโชว์บนร่างนงเยาว์ เธอยิ้มดีใจ เพราะทุกคนชมว่าสวย ใบพรสะท้อนใจ ต้อยเดินกลับมาหา
"ยายคนนี้มันสวยนะ ยิ่งแต่งเข้าไปยิ่งสวยใหญ่ มันต้องทำเงินทำทองให้บ้านเรารองจากยายพิณแน่ ๆ เลย"
"ไม่ใช่เรื่องผิดใช่ไหมถ้าเราจะทำงานแบบนี้"
"พรว่าไรนะ"
ใบพรพูดไม่ออก ส่ายหน้า
"นังต้อย มาช่วยดูผมหน่อยซิ"
ต้อยรีบไปช่วย ใบพรเช็ดน้ำตาตัวเอง ลังเลเสียแล้วกับคำว่า “ศักดิ์ศรี”
พริ้งพานงเยาว์เข้ามาในห้อง เห็นศรีนั่งทำเล็บอยู่ ก็ลุกพรวดทันที
"ตอนนี้ก็อยู่ห้องนี้ไปก่อน เดี๋ยวค่อยขยับขยายทีหลัง"
ศรีไม่พอใจ
"เอ๊ะเจ๊ บอกแล้วใช่ไหม ถ้าจะรับมันก็อยู่ให้ห่าง ๆ ฉัน แล้วให้มาอยู่ห้องฉันทำไม"
"ก็ห้องมันมีแค่นี้ทำไมจะแบ่งกันอยู่ไม่ได้"
"แต่ฉันไม่เคยอยู่ร่วมห้องกับใคร ฉันมีโลกส่วนตัวสูง"
"สูงมากเลยนะเอ็ง ทีพาผู้ชายสี่ห้าตัวมาค้างสามวันสามคืน อยู่กันเป็นฝูงเหมือนเห็บ นอนเบียดกันเหมือนเหา ไม่เห็นบ่น"
ศรียิ้มหยัน
"ผู้ชายคือลูกค้า ยิ่งรวมฝูง ยิ่งเบียดเท่าไหร่ โลกส่วนตัวฉันยิ่งสูงเสียดฟ้า เสียดสวรรค์เท่านั้น"
"พูดไม่อายปากเลยนะ"
"ยังไง ฉันไม่ขออยู่ร่วมห้องกับนังชะนีเด็กคนนี้"
นงเยาว์ทำท่าหงอ
"ยังไง ข้าก็ยืนยันว่านังชะนีเด็กคนนี้ต้องอยู่ห้องเอ็ง มีปัญหาอะไรไหม อีโลก
สูง สันดานต่ำ"
"เจ๊ขา....หนูนอนห้องข้างนอกก็ได้ ไม่รบกวนพี่เขาหรอก"
ศรีมองนงเยาว์อย่างประเมิน
"นอนให้ยุงมันกัดจนผิวเสียเหรอ ไม่ได้โว้ย อยู่ไป มีปัญหาบอกฉัน"
พริ้งออกจากห้อง นงเยาว์มองศรีอย่างกลัว ๆ
"ฉันไม่รบกวนพี่หรอกนะ ฉันนอนที่พื้นก็ได้"
"แน่อยู่แล้ว อย่างแกไม่มีสิทธิ์นอนบนเตียง อย่าแม้แต่คิดเชียวนะ"
"จ๊ะพี่"
นงเยาว์ลงนั่งมุมห้อง ศรีมองอย่างหมั่นไส้ก่อนจะสะบัดออก นงเยาว์หน้าร้ายทันที
"โถ นังแก่ ยานจนเรี่ยดินแล้วยังจะมาทำเจ้าแม่ รอให้ฉันเป็นนางฟ้าเหมือนพี่สายพิณก่อนเถอะ ทั้งห้องทั้งเตียงแกจะไม่มีที่ให้ซุกนอน"
นงเยาว์ฝันถึงอนาคตสวยงามอีกไม่ไกล
สายพิณปลอบใจศรีที่ฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ
"ใจเย็น ๆ พี่ศรี บางทีอาจไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิดก็ได้"
ศรีสะบัดหน้าไปอีกทาง สายพิณแกล้งไซโคศรี
"เด็กมันยังใหม่ก็อย่างนี้แหละ แม่กับเจ๊ก็เลยให้ท้ายมันตามประสา ลองมันขายหรือทำยอดไม่ได้สิ ขี้คร้านจะไม่มีใครสนใจ"
"นั่นสิ ถ้ามันขายไม่ออก ใครจะสนใจ"
ศรีครุ่นคิดอะไรบางอย่าง สายพิณแอบยิ้มร้าย
เวลาต่อมา พริ้งพานงเยาว์มาเดินรอบ ๆ บ้านแนะนำสถานที่
"บ้านเราแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นที่พักอาศัยของพวกเรา อีกส่วนเอาไว้รับแขก แขกบางคนเค้าไม่อยากนอนโรงแรมหรืออยากออกไปไหนไกล ๆ เพราะกลัวคนรู้จักเห็น ก็แนะนำเค้ามาที่นี่ได้ แม่เปิดให้ใช้ฟรีไม่คิดค่าบริการเพิ่ม"
ระหว่างที่พริ้งแนะนำนงเยาว์อยู่นั้น สายพิณก็เดินผ่านมาพอดี
"อ้าว สายพิณมาพอดี ... เค้าเป็นนางฟ้าของที่นี่ หรือพูดง่าย ๆ ว่าค่าตัวแพงที่สุด" พริ้งถือโอกาสแนะนำและบอกกับสายพิณ "เด็กใหม่ชื่อนงเยาว์"
นงเยาว์ไหว้ด้วยความดีใจ
"นี่พี่พินนี่จริง ๆ ใช่มั้ย"
"ใช่ซี พินนี่มีคนเดียวในโลก" สายพิณยิ้มอย่างมีไมตรีกับนงเยาว์ก่อนจะถามพริ้ง
"เจ๊มีอะไรจะเรียกใช้พิณหรือเปล่า"
"กะว่าจะหาคนช่วยสอนร้องสอนเต้นให้นงเยาว์ซักหน่อย จะหวังให้นังศรีช่วยกลัวจะตีกันตายซะก่อน ดูแลด้วยนะ"
พริ้งแยกไป
"พี่ศรีดุจังนะคะ" นงเยาว์บอก
"พี่เค้าก็อย่างนี้แหละ คงกลัวว่าเด็กใหม่จะดังกว่า ไม่เป็นไรนะนง เดี๋ยวพี่ช่วยเอง"
"ขอบคุณค่ะพี่ ใจดีจัง พี่พินนี่รู้ไหม นงเป็นแฟนหนังพี่ ละครพี่ทุกเรื่องเลยนะ เรื่อง เพลิงรักเพลิงสวาน่ะ หนูว่าพี่สวยที่สุดเลย"
สายพิณนิ่งชะงักไป
นงเยาว์ไม่รู้เบื้องลึก ถามไปเรื่อย
"นั่นเรื่องสุดท้ายที่พินเล่น ทำไมถึงออกจากวงการละคะ"
สายพิณไม่ตอบคำถาม สีหน้าเจ็บแว่บนึง ก่อนจะกลบเกลื่อน ยิ้มหวานออกมา
"พี่สวยจริงนะ"
"ค่ะ สวยฝุด ๆ หนูก็อปชุดพี่ หน้าผมพี่ มาแต่งเป๊ะเว่อร์ทุกชุดเลยละ"
สายพิณหัวเราะ
"ขนาดนั้นเชียวไป ไปซ้อมกันเถอะ"
สายพิณพานงเยาว์แยกไป หัวเราะหัวใคร่ แต่สายตานั้นเจ็บช้ำ
อ่านต่อหน้า 2
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 7 (ต่อ)
วันต่อมา ชิตกินข้าวกับสิงห์ หน้าตากังวล
"ผมขอเถอะ นังต้อยมันก็เพื่อนผม ใบพรก็เป็นเด็กน่าสงสาร พี่อย่าฆ่ามันสองคนเลยนะ"
"พี่ไม่มีทางเลือก พี่ตงสั่งไว้"
"โธ่พี่....พี่ก็บอกเองว่าสองคนนั่นน่ะจำหน้าพี่ไม่ได้ พี่ปล่อยวางเสียดีกว่านะ"
"ใช่ จำหน้าพี่ไม่ได้ แต่ก็ต้องจำหน้าพี่ตงได้ เมื่อไหร่สองคนนั่นหลุดปาก พี่กับพี่ตงก็ซวย"
"เอาอย่างนี้ ผมไปเจรจากับทั้งคู่ ให้มันปิดปากเงียบแน่นอน"
สิงห์ถอนใจ ส่ายหน้า
"ไม่ต้องไปเจรจาอะไรทั้งนั้น ยังไงก็ต้องฆ่า แล้วแกก็ห้ามไปเตือนด้วยนะ ทำใจได้แล้ว อ้อ....อีกเรื่อง สืบได้รึยังว่า นงเยาว์ไปทำงานอะไร"
ชิตอึ้งไป
"ยังไม่ทราบเลยครับพี่"
ชิตกินอะไรไม่ลงอีกแล้ว รีบเลี่ยงไปเข้าห้องนอน กำหมัดชกกำแพงอย่างคับแค้นในทุกเรื่อง
ย่านผับบาร์ของพัทยา ตอนกลางวัน กฤษณ์ อ๋องกำลังคุยกับนายหน้า และผู้รับเหมา เจรจาเรื่องการเช่าอาคารและการตกแต่งใหม่ สายพิณเดินสำรวจดูมุมต่าง ๆ ของผับ กฤษณ์เดินมาหา
"ชอบไหมพิณ"
"ที่นี่เหรอคะ ถ้าตกแต่งเสียใหม่น่าจะสวยนะคะ ตกลงคุณกับพี่อ๋องจะเปิดผับจริงเหรอคะ"
"จริงซีครับ ที่นี่ทำเลดีมาก ๆ ด้วย" กฤษณ์บอก
"แล้วให้พิณมาดูทำไม ธุรกิจของคุณน่าจะให้ว่าที่คู่หมั้นมาดูมากกว่า"
"ธุรกิจแบบนี้ผมไม่ให้เขามายุ่งหรอก ให้อยู่แต่ในครัวนั่นแหละเหมาะแล้ว"
สายพิณหัวเราะ
"ตกลงรักคู่หมั้นบ้างรึเปล่าเนี่ย"
"ตอนนี้หัวใจผมอยู่ที่ สายพิณคนเดียว"
กฤษณ์ดึง สายพิณมากอด
"อย่าค่ะ อายเขา คุณอ๋องอยู่นั่น เดี๋ยวค่ะ ยังไม่ตอบเลยให้พิณมาดูที่นี่ทำไม"
"ต่อไป ไม่แน่ ผมจะให้พิณมาดูแลกิจการให้ผมไง"
"จริงเหรอคะ"
"พิณจะได้เลิกงานที่เฮเว่นเสียที แล้วมาเป็นเจ้าของกิจการร่วมกับผมที่นี่"
"เจ้าของร่วม ให้หุ้นพิณเหรอคะ"
"ครึ่งนึงเลยดีไหม"
"อย่ามาหลอกกันเลย"
"จะหลอกพิณไปทำไมละครับ ในเมื่อ ผมอยากให้พิณมาอยู่กับผม เป็นภรรยาผม"
สายพิณใจเต้น
"แล้ว...แล้ว...คุณพ่อคุณ ท่านจะยอมเหรอคะ"
"ท่านไม่ยอมอยู่แล้วละครับ แต่ท่านก็บังคับผมไม่ได้"
"โธ่....แล้วพิณจะเป็นภรรยาคุณได้ยังไง อย่าพูดให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แบบนี้ซีคะ"
"ผมพูดจริงทำจริงนะพิณ ผมจะแต่งงานกับพิณ สัญญา"
"คุณกฤษณ์"
สายพิณเข้ากอดกฤษณ์แนบแน่น น้ำตาแห่งความปิติไหลพราก
กฤษณ์และสายพิณกอดกันนอกอาคาร ผ่านกรอบหน้าต่าง นักสืบกำลังแอบถ่ายภาพทั้งคู่
หลาย ๆ อิริยาบท
เย็นวันนั้น ภาพของกฤษณ์และสายพิณกอดกันในผับเก่า ปรากฏอย่ในไอแพ็ด นภาและ กฤษณ์นั่งดูอยู่ด้วยกัน นภาเลื่อนรูปดูหลายรูป แล้วถอนใจ กฤษณ์หน้าเสีย ไกรวิทย์ยืนเครียดอยู่ตรงหน้า
"อธิบายมาซิ ทั้งเรื่องที่แกจะเปิดผับ ทั้งเรื่องนังหญิงขายตัวที่แกไปมั่วด้วย"
"พ่อถึงกับให้คนไปแอบถ่ายเลยเหรอครับ"
"ใช่ ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้เรื่องว่าแกไปเละเทะอะไรมาบ้าง แกจบมาฉันต้องการให้สืบต่อตำแหน่งของฉัน อาจจะเริ่มที่ลงเลือกตั้ง อบจ. แต่นี่อะไร ไปเปิดผับกับไอ้เพื่อนนักเที่ยวด้วยกัน แล้วยังไปคบอีตัวชั้นเลวนั่นอีก นี่ถ้าหนูปริม เขารู้เข้า เขาคงเลิกคบกับแกไปแล้ว"
"ก็ดีครับ เขาจะได้เจอคนที่ดีกว่าผม"
ไกรวิทย์ตวาดลั่น เข้ามากระชากคอเสื้อ
"อย่ามาประชดนะ ไอ้"
กฤษณ์เงยหน้าสู้พ่ออย่างไม่เกรงกลัว
"ไม่ได้ประชดครับ เรื่องจริง ในเมื่อผมจะคว้าอีตัวชั้นเลวมาเป็นเมีย เขาก็ควรหาผู้ชายที่ดีกว่าผมได้แล้ว"
"โธ่ ไอ้ใฝ่ต่ำ"
ไกรวิทย์ตบหน้ากฤษณ์อย่างแรง กฤษณ์ผงะไป นภากรีดร้องรีบวิ่งเข้ามาแยกพ่อลูก
"อย่าค่ะคุณ พอเถอะ"
กฤษณ์น้ำตาไหล
"พ่อรู้ไว้นะ ต่อไปนี้ผมจะมีชีวิตของผมเอง ไม่มีใครมากำหนดชีวิตผมได้อีกแล้ว แล้วถ้าพ่ออยากหาทายาททางการเมือง ไปถามอีพวกเมียน้อยเป็นฝูงของพ่อดูซีครับ เผื่อพวกมันจะซุกซ่อนลูกเก็บไว้"
"กฤษณ์ ไม่พูดแบบนั้นนะลูก"
"อ้อ หรือพ่อไม่กล้าเอาลูกเมียน้อยมาออกหน้า เพราะมันเกิดมาจากแม่ที่มีเลือดกะหรี่ชั้นเลวกันทุกคน"
"โธ่ ไอ้เวร"
ไกรวิทย์เข้าบีบคอกฤษณ์ กฤษณ์ผลักร่างพ่อกระเด็นล้มไปที่โซฟา
"ผมจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว แล้วห้ามมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของผมอีก"
กฤษณ์ออกจากห้องไป นภาเข้าดูแล ไกรวิทย์ที่หอบอย่างแรงด้วยความโกรธ
"คุณคะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ"
ไกรวิทย์ส่ายหน้า ถอนใจ
"คุณช่วยพูดกับมันที ผมหมดปัญญาแล้ว"
"ค่ะ ค่ะ"
คืนนั้น ภายในห้องแต่งตัว นงเยาว์ กำลังแต่งหน้า ทำผมอยู่หน้ากระจก สายพิณนั่งอยู่ข้าง ๆ ช่วยแนะนำการแต่งหน้าให้
ศรีแต่งอยู่อีกมุม มองนงเยาว์อย่างหมั่นไส้ ส่งเสียงฮึดฮัดอยู่ตลอด ต้อยที่นั่งแต่งหน้าจัดเหมือนงิ้วอยู่ข้าง ๆ มองศรีอย่างรำคาญ
ต้อยถาม
"อีศรี รีแพร์ ใครเรียกวิญญาณเข้าสิงเหรอ ทำฮึดฮัดอยู่นั่นแหละ"
"หมั่นไส้นังเด็กใหม่ ดูซี จะได้โชว์วันแรกรีบประกบนางฟ้าทันที แหม....อีชะนีเด็กจอมเชลียร์"
"อีศรี ที่พูดเนี่ยเพราะอิจฉาใช่ไหม ดูซิ แต่งหน้าแต่งตัวเข้าไปหน่อย มันโป๊ะ
สุดฤทธิ์เลยนะแก สายพิณเลยกลายเป็นสวยรุ่นพี่ไปเลย"
"ต๊าย นังต้อย ทำไมตาแกถึงต่ำขนาดนั้น ไม่มีใครสวยเท่าน้องพิณไปได้ แล้วฉันจะคอยดูตอนมันโชว์ มันต้องทำพลาด ทำให้พวกเราบ้านเสน่ห์จันทร์ขายขี้หน้าแน่ ๆ"
"อ๋อเหรอ นังศรีรีแพร์ แม่คนตาสูง"
"หยุดเรียกแบบนี้นะนังต้อย ตอนนี้ต้องเรียก ศรี ร้อยไหมโว้ย"
ศรีสะบัดออกไป
"ร้อยไหม ไหมน่ะซื้อไปเองใช่ไหม ระวังจะกลายเป็นร้อยหวายนะมึง ฮ่ะฮ่ะ"
นงเยาว์เหลือบมองมา รู้ว่าศรีไม่พอใจ แกล้งทำหน้าเศร้า
"อย่าไปสนพี่ศรีเขาเลยนะ ตั้งใจโชว์ให้ดีที่สุดละกัน"
นงเยาว์มีกำลังใจขึ้น
"ค่ะ"
ชิตนั่งกลุ้มอยู่กับพริ้ง
"คิดดีแล้วเหรอพี่พริ้ง ให้นงเยาว์ออกโชว์คืนนี้เลย"
"คิดดีแล้วน่ะซี ยังไงตกลงกลัวนังพิศ หรือกลัวไอ้ที่ว่าเป็นพี่ชายนังนง"
"กลัวทั้งคู่นั่นแหละพี่ ผมคนเดียวที่ซวย"
ชิตส่ายหน้าแล้วแยกไป สวนกับศรีที่เข้ามาสมทบพริ้ง หน้าหงิกงอ
"เจ๊ ทำไมวันนี้เอานังคนใหม่มาโชว์ประจาน" ศรีถาม
"ประจานอะไร นังนงเยาว์มันซ้อมก็อปท่าสายพิณมาเป๊ะ ๆ มันเต้นสวยมาก ขอบอก นี่...เด็กใหม่มาทั้งทีเราก็ต้องขึ้นโชว์อวดแขกซีวะ"
เพลินเดินเข้ามาพร้อมสามสาว เอพริล เมย์ จูน จูนนั้นปากยังเจ่อ ๆ
"วันนี้บ้านนังเจ๊พริ้ง มันมีเด็กใหม่มาโชว์ละพี่เพลิน" เมย์ว่า
"เห็นหน้ามันบ้างไหมเจ๊"เอพริลถาม
"ยังไม่เห็น คงหนังหน้าละม้ายหนังคางคก เลยไม่กล้าเอาออกมาโชว์"
ทั้งสี่เดินมาใกล้พริ้ง พริ้งรีบพูดต่อ เสียงดัง
"แขกจะได้รู้ว่าบ้านเสน่ห์จันทร์ เรามีของใหม่ ๆ สด ๆ ซิง ๆ มานำเหนอ ไม่ใช่ขายแต่สินค้าซ้ำซาก เดี๋ยวนี้เขามีสี่จี ใครมาเล่นสามจีอยู่ เขาเรียกตกรุ่น"
"แหม....เด็กบ้านแกนี่มันคุณภาพมากซีนะ เท่าที่เห็นเนี่ย ใหม่ที่นี่ แต่เก่าขึ้นรามาจากบ้านหนองใหญ่ หนองฮี" เพลินว่า
"บางทีมาจากบ้านโคกนูนสูง แต่สันดานต้ำต่ำ"
"มาถึงเฮเว่น ก็หย่อนยาน สตาร์ทไม่ติด หัวเทียนบอด" เมย์บอก
จูนพูดไม่ชัด เสียงเพี้ยน ๆ
" งั้นซีบางรายต้องไปโมห้องเครื่องมาใหม่"
ทั้งสี่สาวหัวเราะร่า จูนหัวเราะเม้ม ๆ เพราะยังเจ็บปาก ศรีลุกทันที
"อีจูน ก่อนจะด่าใคร ดูปากมึงซะก่อน ปากมึงเองยังไม่เข้าที่ ยังต้องโมอีกหลายยก หนอย....กล้ามารับแขกแล้ว" ศรีว่า
"แหม....อาชีพเรา ๆ ไม่ได้ใช้ปากนี้สักเท่าไหร่หรอกนะนังศรี"
จูนชี้ไปที่ปากตัวเอง สี่สาวกรี๊ดตาม แล้วแยกไป ศรีกระฟัดกระเฟียดแยกไปอีกทาง
"เดี๋ยวพวกมึงก็รู้ รวมทั้งนายมึงด้วย" พริ้งบอก
คฤหาสน์ไกรวิทย์ กลางคืนต่อเนื่อง นภากำลังทาครีมก่อนนอน ไกรวิทย์เดินเข้ามาที่หัวนอน หยิบยาก่อนนอนเข้าปาก ดื่มน้ำตาม สีหน้ายังอิดโรย
"ผมไม่นึกเลย ว่าเจ้ากฤษณ์มันจะกำแหงกับผมถึงขนาดนี้ มันลำเลิกผมเรื่องเมียเก็บ มันกล้ามาก"
นภามองสามีอย่างเย็นชา
"แต่ที่ลูกพูดก็ถูกไม่ใช่เหรอคะ คุณหาแม่เลี้ยงมาให้มันเป็นฝูง แถมยังเป็นเด็กในบาร์ทั้งนั้น อย่าไปโกรธลูกเลยค่ะถ้ามันจะเจริญรอยตามพ่อมัน"
"อ้าว อ้าว นี่จะก่อศึกกับผมอีกคนแล้วหรือไง ไม่เอานะ วันนี้กับไอ้ลูกเวร ผมก็เหนื่อยเต็มทีแล้ว อย่าต้องมาทะเลาะกับแม่อีกคนเลย"
ไกรวิทย์ขึ้นเตียง นภามองอย่างไม่พอใจ
"คุณไปหาวิธี ไม่ให้หนูปริมเขารู้เรื่องนังเด็กเฮเว่นนั่นดีกว่า"
นภายิ้มหยัน
"หนูปริมไม่ใช่คนโง่ เธอรู้มาแต่แรกแล้ว ก่อนพวกเราเสียอีก"
"หา....รู้ว่าเจ้ากฤษณ์ไปมั่วกับนังโสนั่นน่ะเหรอ"
"ค่ะ เมื่อวันก่อน หนูนภาเห็นแม่นี่จับมือถือแขนกฤษณ์ที่โรงพยาบาล"
อ่านต่อหน้า 3
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 7 (ต่อ)
ไกรวิทย์หน้าเจื่อน นภาเล่าต่อสีหน้าสะใจ
"เธอมาเล่าให้ฉันฟัง ฉันถึงขอคุณส่งนักสืบไปถ่ายรูปนายกฤษณ์มาไงคะ"
"ฉิบหายละ แล้วยายปริมเล่าให้พ่อฟังรึเปล่า"
"ฉันขอหนูปริมไว้แล้ว อย่าเล่าให้คุณพ่อฟัง ดีนะที่หนูปริมรักนายกฤษณ์มาก ถึงยังเชื่อฟังเราอยู่ แต่ต่อไปก็ไม่แน่"
"งั้นก็ต้องหาทางให้มันเลิกกันให้เร็วที่สุด ไม่งั้นเสี่ยธาดาแตกหักกับเราแน่"
ไกรวิทย์เหน็ดเหนื่อย นภาครุ่นคิดแผนการ
ดึกต่อเนื่อง คนเที่ยวคึกคัก แสงไฟบนเวทีสว่างวูบวาบ ตามจังหวะเสียงดนตรี เห็นกระจกแบบขุ่น ความสูงระดับอก ปกปิดต่ำลงจากสะโพกเล็กน้อย กั้นเป็นคอกเหมือนห้องอาบน้ำสองห้อง สายพิณในชุดบางพลิ้วสุดเซ็กซี่เดินออกมาจากฝั่งซ้ายเข้าไปยืนหลังกระจกขุ่น ไฟด้านหลังส่องสว่าง ทำให้เห็นเงาเรือนร่างอย่างชัดเจน สายพิณร้องไปถอดชุดไปเหมือนกำลังอาบน้ำ
"ก็แบบพยายามจะมองตา ก็ไม่มอง พยายามจะมองเธอ ก็ไม่มองแต่งตัวอะไรมา เธอไม่มองเลย ได้แต่มองเลย"
สายพิณร้องจบท่อน ไฟตรงฝั่งขวาขอเวทีก็สว่างขึ้นเห็นนงเยาว์ในชุดกรุยกรายสุดเซ็กซี่เดินเข้าไปยืน
หลังกระจก ร้องไปถอดชุดไป แสงเงาส่องให้เห็นเรือนร่างสุดเซ็กซี่ ส่วนสายพิณก็เต้นประกอบเหมือนกำลังอาบน้ำ ทางฝั่งของตัวเองไป
"อะไรที่ฉันจะปิด เธอก็คิดก็คิดจะเปิด ฉันกลัวเธอจนเตลิด เธอก็มา ก็มาตลอดควบคุมตัวเองหน่อยไหม ในตาเธอจ้องจะกอด ข้างนอกเธอจ้องจะใส่ ข้างในเธอจ้องจะถอด ถอด ถอด อ่ะเดี๋ยวหัวใจวาย"
พอนงเยาว์ร้องจบ เข้าสู่ท่อนฮุก สองสาวผลักกระจกให้เปิดออกมารเต้นในชุดเกาะ กางเกงขาสั้นสุดเซ็กซี่
สายพิณกับนงเยาว์ร้องเพลงต่อ
"อย่ามโน อย่ามโน ท่องนโมไว้เลย อย่ามโน อย่ามโน เก็บอาการบ้างนะ อย่ามโน อย่ามโน ท่องนโมไว้เลย อย่ามโน แต่ช่วยโชว์ข้างใน ว่าคิดอะไรอ่ะว่าคิดอะไรอ่ะ (อย่ามโน มโน มโน) อ๊ะคิดอะไรอ่ะ (อย่ามโน มโน มโน) ไม่อยากให้มีอารมณ์จนเกินไป"
สองสาวเต้นแรงแบบไม่ยอมกัน จนนักเที่ยวส่งเสียงฮือฮาเป่าปากันไม่ขาดสาย
มุมหนึ่ง ศรี ต้อย พริ้ง ก้านร่วมกลุ่มกันอยู่ ส่งเสียงเชียร์ ชิตนั่งดื่มอยู่ด้วยแต่หน้าเซ็งโลก
พริ้งบอก
"แหม....นังเด็กใหม่นี่มันมืออาชีพนะ ดูท่าเต้นมันซี สายพิณกินมันไม่ลง" พร้อมส่งเสียงเชียร์ "
เด้งเข้าลูก เด้งเข้า"
"ไงนังศรี กระหรี่ในมุมมืดอย่างแกน่ะ ยังจะอิจฉาเด็กมันอยู่ไหม"
ศรีฮึดฮัด ไม่กล้าเถียง
อีกมุม เพลิน เอพริล เมย์ จูน เขม้นมอง นงเยาว์ จูนจำได้ทันที พยายามจะบอก แต่พูดเร็วไม่ได้ เจ็บปาก
"นะ นังคนนี้ มัน"
เอพริลบอก
"คุ้นคุ้นนะเจ๊ เหมือนเพิ่งเคยเห็นนะ"
"ข้าก็ว่าอย่างนั้น หรือว่ามันเด็กเก่าเจ๊จูที่กรุงเทพวะ "เพลินว่า
"มะ....ม่ายช่าย...นี่มันคือ..."
เมย์บอก
"แน่เลย พอซ่องแตก เด็กเจ๊จูก็ทะลักมาพัทยา มาแย่งพื้นที่การเกษตรของเราดักตบมันดีไหม"
จูนพยายามพูด
"นะ..นี่มันคือนัง ....นงเยาว์"
เพลินบอก
"จูน แกอย่าพูดเลย รำคาญ ฟังไม่รู้เรื่อง นงยง นงเยาว์ไหน หา นงเยาว์"
เพลิน เอพริล เมย์ จ้องเขม็งไปที่นงเยาว์
"นังนงเยาว์ ที่หนีจากบ้านเรา"เอพริลว่า
เมย์บอก
"หนีจากแม่พิศ"
"แล้วมาอยู่บ้านเสน่ห์จันทร์ได้ยังไง" เพลินหันขวับไปทางพริ้งทันที "อีพริ้ง"
เพลิน สามสาวตรงมาหากลุ่มพริ้ง
"นังพริ้ง แกขโมยเด็กบ้านข้ามาเหรอ นั่น นัง นงเยาว์เด็กแม่พิศ"
"ไม่รู้ว่ะ รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นเด็กสังกัดแม่ละม่อมไปแล้ว เซ็นสัญญาด้วยนะ"
"อีตัวกินไก่ พอเจ้าของเผลอ ลากไก่ไปกินในน้ำ"
"อู๊ย.....ไม่ต้องในน้ำหรอก บนบกนี่แหละ แดร๊กสด ๆ เลย"
"เป็นเรื่องแน่"
เพลินแยกมาโทร.มือถือทันที ชิตมองมาใจคอไม่ดี
สุวรรณเปลือยท่อนบนกำลังนวดให้นางพิศ ที่นอนสบายอารมณ์อยู่บนเตียงนวด
"นัง จันทร์ฟองมันเป็นยังไงแล้ว"
"กินข้าว กินปลาแล้วครับ แล้วผมก็สอนวิชาชีพมันไปแล้วหลายยก"
"ดี....จับมันตกแต่ง โมใหม่ทั้งตัว เอาให้สวยกว่านังเพื่อนมัน ไอ้จ่าพยับมันเห็น มันจะได้กลืนน้ำลายตัวเอง"
พิศยังแค้นจ่าพยับ มือถือดังขึ้น สุวรรณหยิบให้
"เจ๊เพลินครับ"
"ว่าไง เพลิน มีอะไร อะไรนะ"
พิศลุกนั่งทันที สุวรรณดูท่าที
ใบพรกำลังช่วยแต่งตัวให้ละม่อม เสื้อผ้าหน้าผมเพียบทั้งตัว
"เรื่องแม่น่ะ ขาดเหลืออะไรก็บอกนะ ฉันพอมีให้หยิบยืมได้บ้าง"
ใบพรยกมือไหว้
"เท่าที่แม่ช่วยเหลือก็เป็นพระคุณแล้วละจ๊ะ หนูไม่รบกวนอีก"
"ถ้ายังหางานทำไม่ได้ ก็มาช่วยฉันเย็บผ้าพวกนี้ไปก่อนก็แล้วกัน เธอปักผ้าเก่งนะ ประณีตมาก น่าจะเอาดีทางตัดเย็บได้"
"อยู่ที่โรงงานก็ได้ฝึกอยู่ ถ้าหนูพอมีเวลา อยากไปเรียนตัดเย็บที่เขาสอนฟรีน่ะ"
ละม่อมฟังความ ใบพรหน้าสลด
"แม่คะ ศักดิ์ศรีคนเรามันกินไม่ได้ใช่ไหม"
ละม่อมรู้ทันทีว่าใบพรกำลังลังเล
"ทำไมถึงพูดแบบนั้น"
ใบพรเช็ดน้ำตาพยายามระงับอารมณ์ มือถือดังขึ้นพอดี
"ว่ายังไงพริ้ง ได้เรื่องแล้วใช่ไหม เสร็จพอดี จะไปเดี๋ยวนี้ละ ขอบใจนะ ใบพร"
"แม่จะไปไหนเหรอจ๊ะ"
"ไปเฮเว่น ไปเคลียร์เรื่องนงเยาว์ จะไปด้วยกันไหม"
ใบพรพยักหน้า
เพลินเอะอะต่อหน้าเฮียหมา เอพริล เมย์ จูน ยืนอยู่เบื้องหลังเพลิน นงเยาว์ ยืนหน้าซีดอยู่กับพริ้ง ชิต ต้อย ศรี ก้านอยู่อีกมุมหนึ่ง
หมาบอก
"ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากันก็ได้"
"ฉันไม่ยอม กว่าพี่พิศจะซื้อมันมาได้ ลงทุนไปเท่าไหร่" เพลินบอก
"เจ๊พริ้ง ตกลงนี่เจ๊ไปขโมยเด็กเขามาจริง ๆ ใช่ไหม"
"เปล่าเฮีย.....เด็กเขาหนีมาพึ่งใบบุญ เพราะรู้ว่าไอ้บ้านสุขสำราญน่ะ มันไม่สุขสำราญจริง แต่มันคือบ้านนรก ทั้งซ้อม ทั้งขืนใจเด็ก มอมเด็กด้วยยา บังคับขายตัว อีเพลินเอ๊ย แม่มึงน่ะ นรกมันจะกุดหัวเข้าสักวัน"
เสียงตวาดดังมาจากเบื้องหลัง
"ถ้านรกมันกินหัวกู กูคงไม่สวยเป็นนางงามแบบนี้หรอก อีพริ้ง"
พริ้งสะดุ้ง นงเยาว์รีบหลบไปหลังชิตด้วยความกลัว พิศก้าวเข้ามาพร้อม สุวรรณ
"อ้อ....นี่คงทำงานกันเป็นทีม ไอ้ชิต แกใช่ไหมที่พานังนงหนีออกมาจากบ้านข้า"
"แม่จ๋า มันเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ผมขอโทษ"
"พาเข้าไปหลบในบ้านเสน่ห์จันทร์ นังละม่อมมันคงเห็นละซีว่าเด็กมีแววรุ่ง ถึงได้วางแผนขโมยหน้าด้าน ๆ"
พริ้งบอก
"แม่พิศจ๊ะ อย่าคิดเองเออเอง แม่ละม่อมเขาไม่เคยคิดขโมยของใคร แต่เรื่องมันมีบทสรุปมากกว่านั้น ที่ทำให้แม่ละม่อมเขาต้องรับนงเยาว์เข้าบ้าน รู้แค่ว่า ตอนนี้เด็กคนนี้เป็นของบ้านฉันแล้วก็พอ"
"แต่เด็กเป็นของกู กูจ่ายเงินซื้อมันมา นงเยาว์ แกต้องกลับไปบ้านฉันเดี๋ยวนี้"
"ไม่ หนูไม่กลับ"
"งั้นก็ต้องใช้วิธีขั้นเด็ดขาด"
พิศคว้าปืนออกมาจ่อหน้าทุกคน กลุ่มพริ้งร้องกรี๊ดลั่น
หมาบอก
"เฮ้ย เจ๊พิศ นี่ในร้านเฮีย อย่าถึงกับใช้อาวุธเลยนะ เดี๋ยวแขกหนีกระเจิงหมด"
"ก็อย่าขวางซีวะ ใครขวางกูยิงไม่เลี้ยง สุวรรณลากมันกลับบ้าน"
สุวรรณเข้าจับตัวนงเยาว์ จะพาออก นงเยาว์ทั้งร้องทั้งดิ้น
"พี่พริ้งช่วยหนูด้วย"
"เสียใจว่ะ นงเยาว์ เจ๊ช่วยหนูไม่ได้หรอก"
หมา /ศรี/ ต้อย / ชิต ร้อง "อ้าว !"
"ใช่ งานนี้พริ้งมันช่วยอะไรใม่ได้หรอก"
ละม่อมเดินเข้ามาด้วยชุดเจ้าแม่ ทุกคนหันไปมอง พิศเป็นงง
"ที่จริง แม่เองก็ช่วยหนูไม่ได้"
"พูดอย่างนี้แสดงว่าแกยอมให้ฉันพานังนี่กลับบ้านใช่ไหม นังละม่อม" พิศถาม
"จ๊า ฉันจะไปทัดทานอะไรแม่พิศละจ๊ะ แม่พิศถือปืนกระบอกเท่างวงช้างมาแบบนี้ เชิญตามสบายจ๊ะ"
"แม่ แต่แม่ตกลงกับหนูแล้ว จ่าพยับก็ตกลงแล้ว"
พิศและสุวรรณชะงัก
"อะไรนะ จ่าพยับ"
"จ๊ะ จ่าพยับเขาเป็นคนพาเด็กมาขายกับฉันเอง ค่าตัวเด็กฉันก็จ่ายไปครบจำนวนที่จ่าเขาเสนอมา ถ้าแม่พิศอยากขัดความประสงค์ของจ่าเขาก็เชิญ แต่ระวังนะ ปืนของจ่าน่ะ มันน่าจะกระบอกโตกว่างวงช้างของแม่พิศแน่ ๆ"
"ฉันไม่เชื่อ ไอ้จ่ามันโกงฉันงั้นเหรอ"
เสียงดังมาจากเบื้องหลังอีกด้าน
"พูดอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกนะเจ๊พิศ ฉันไปโกงเจ๊ตอนไหนไม่ทราบ"
พิศ สุวรรณหันมามอง จ่าพยับ จ่าพยับเลิกเสื้อเห็นปืนเสียบอยู่ข้างเอว พิศอึ้ง
สายพิณแยกมาหลังครัว พูดมือถือกับกฤษณ์ จังหวะนี้ใบพรหลบมุมมานั่งลำพัง ได้ยินสายพิณพูดทั้งหมด สายพิณไม่เห็นใบพร
"คุณกฤษณ์ พิณเบื่อจังเลย วันนี้ร้านมีแต่เรื่อง ...เรื่องแย่งนังเด็กใหม่กันน่ะ อีเด็กนี่ก็ร้าย ทะเยอทะยานสุด ๆ ถามแต่เรื่องที่พิณเป็นดารา รำคาญมาก"
ใบพรอึ้ง ก็เห็นรักใคร่นงเยาว์อยู่ดี ๆ นี่นา
"คืนนี้พิณไม่อยากรับแขกแล้ว พิณแวะไปหาคุณที่คอนโดได้ไหมคะ นะคะ อยู่ทั้งคืนเลย ได้ค่ะ พิณไปเดี๋ยวนี้แหละ"
สายพิณเลิกสาย เหลือบมาเห็นใบพรเข้า หน้าเจื่อนไปนิด ก่อนจะยิ้มหวาน
"มาด้วยเหรอใบพร มานั่งอยู่นานยัง"
"เพิ่งมาค่ะ หลบมาตรงนี้ดีกว่า ในร้านท่าจะเรื่องใหญ่"
"นั่นซี เบื่อมาก ฝากบอกพี่พริ้งด้วยว่าฉันไปค้างกับคุณกฤษณ์แล้ว งดรับแขกอื่น"
"ค่ะ"
สายพิณออกไปหลังร้านทันที ใบพรยังงงกับท่าทีแสนดีของสายพิณ ชะเง้อกลับเข้าไปส่วนในร้าน
อ่านต่อหน้า 4
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 7 (ต่อ)
จ่าพยับยังพูดต่อเนื่องด้วยลีลากวนบาทา
"เจ๊เอง ไม่ซื่อกับฉันก่อน ก็ช่วยไม่ได้ที่ฉันต้องให้บทเรียน เฮ้ย ปล่อยเด็ก เด็กเป็นของฉัน แล้วฉันก็ขายให้แม่ละม่อมไปแล้ว"
สุวรรณรีบปล่อยนงเยาว์ นงเยาว์รีบวิ่งกลับไปหาพริ้ง
"แล้วปืนในมือน่ะ เอามานี่"
จ่าพยับคว้าปืนในมือนางพิศไปเก็บไว้ พิศตัวสั่นด้วยความโกรธ
"ร้านนี้เขาปลอดอาวุธ เจ๊ไม่น่าฝืนคำสั่ง ไม่งั้นได้ไปนั่งเล่นหลังมุ้งสายบัวแน่"
พิศยิ้มออกมา
"ได้ จ่าเล่นฉันแบบนี้ ไม่ว่ากัน"
นางพิศหันไปมองกลุ่มละม่อม
"ยกนี้แกชนะ ฉันยกเด็กให้แกนังละม่อม"
พิศมองนงเยาว์ด้วยสายตาอาฆาต
"นังนงเยาว์หวังว่าแกคงมีความสุขดีนะที่บ้านเสน่ห์จันทร์ ฝากความคิดถึงไปที่เพื่อนแกด้วยซี นังจันทร์ฟองน่ะ มันสุกงอมได้ที่พร้อมจะรับแขกแล้ว เหมือนแกไม่มีผิด อีกไม่กี่วันคงได้เจอมันที่เฮเว่นนี่แหละ ขอให้โชคดี"
พิศยื้มเหี้ยม แล้วสะบัดออกไป สุวรรณตาม
ทุกคนโล่งอก นงเยาว์ยังตัวสั่น ร้องไห้ออกมาเบาๆ ละม่อมเข้ามาปลอบ
"แม่ หนูกลัว"
"ไม่ต้องกลัว ไปพักก่อน"
ละม่อม ต้อยพานงเยาว์ไปพักด้านใน ชิตตามไป จ่าพยับมองนงเยาว์อย่างติดใจในความสวย
เพลิน เอพริล เมย์ จูน ยังซุบซิบ
ศรีสะใจ
"อ้าว.....เจ๊สำลี ยังมายืนแช็ทอะไรกันอีก แม่แกพูดเองแล้วนี่ ยกนี้บ้านข้าชนะ ฮ่ะฮ่ะ"
เพลินและสามสาวรีบแยกไป
พริ้งบอก
"นังศรี เลิกซ่าส์ ไปรับแขก"
ศรีแยกไป
หมาบอก
"แหม ขอบคุณจ่ามาก ที่มาช่วยระงับเหตุ ไม่งั้นสองเจ้าแม่ยิงกันตูมตาม ร้านผมเจ๊งป่นปี้ ก้าน เสิร์ฟเครื่องดื่มจ่า วันนี้เลี้ยงไม่อั้น"
"ได้ครับ"
หมาแยกไป จ่ามายืนข้างพริ้ง พริ้งไหว้กระชดกระช้อย
"ขอบพระคุณจ่ามากค่ะ ได้จ่าคุ้มครองพวกเราแบบนี้ การค้ามีแต่เจริญยิ่งขึ้นไป"
"เจ๊พริ้ง คืนนี้งามหยดย้อยเลย ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ"
"ชมกันซึ่ง ๆ หน้า พี่ก็อายเป็นนะคะจ่า ถึงขนาดกลัดมันทนไม่ไหวเชียวเหรอคะ"
"ฉันหมายถึงนงเยาว์น่ะ"
"อ้าว"
"คืนนี้ฉันขอเป็นแขกคนแรกของนงเยาว์นะ"
พริ้งพูดไม่ออกบอกไม่ถูก อึ้งไป ก้านเสิร์ฟเครื่องดื่ม จ่ายกซดยิ้มหื่น
ชิต ต้อย ใบพร ออกมาปรับทุกข์กันหลังตรอก
"ใจหายใจคว่ำ นึกว่าเจ๊พิศจะยิงสนั่นเสียแล้ว" ต้อยบอก
"นั่นซี เฮ้อ ถ้ามีจ่าพยับมาคุ้มครองอย่างนี้ค่อยยังชั่ว ไม่งั้นฉันโดนพี่สุวรรณกระทืบแน่"
ชิตมองเลยไปแล้วตะลึง เพราะสิงห์ขับมอไซค์มาจอดฝั่งตรงข้ามผับ
"ต้อย ใบพร กลับเข้าร้านก่อนดีกว่า ใบพรรีบกลับบ้านเลย"
"มีอะไรเหรอพี่ชิต" ใบพรถาม
"รีบกลับเถอะ ต้อย แกกลับพร้อมใบพรได้ไหม"
"คืนนี้ยังไม่ได้แขกเลย จะรีบกลับทำไมวะ" ต้อยบอก
"เถอะ เข้าร้านก่อนไป"
"ยังไม่เข้าร้าน บอกมาก่อนว่ามีเรื่องอะไร"
สิงห์ข้ามถนนตรงมาพอดี ชิตเข้าขวางสองสาว กางแขนกันไว้ ตะโกนลั่น
"พี่ อย่าทำอะไรนะ"
สิงห์นิ่งไป ต้อยและใบพรเป็นงงอาการชิต
"ชิต แกเมายารึเปล่า แกเป็นอะไรน่ะ"
ชิตลดแขนลง
"ปละ เปล่า"
"วันนี้ฉันมาตามหานง ไม่ได้ทำอย่างอื่น"
ชิตโล่งอก
พริ้งปรึกษากับละม่อม นงเยาว์ยังกลัว นั่งอยู่ลำพัง
"พี่ละม่อม มันจะไหวเหรอ นังนงมันไม่ได้เหล็กไหลเหมือนนังศรีมันนะ"
"ฉันรู้ ก็ต้องขอร้องจ่า อย่ารุนแรงกับเด็ก"
"แล้วเราต้องยอมเหรอพี่"
"ต้องยอม เพราะตกลงกับจ่าไว้แล้ว"
พริ้งเจื่อนไป มองนงเยาว์อย่างเห็นใจ ละม่อมเดินไปหา นงเยาว์
"นงเยาว์"
"คะ แม่"
"มีแขกจะออฟ พร้อมทำงานรึยัง"
"ได้ค่ะ"
"ฉันบอกก่อนนะ แขกรายนี้ไม่จ่าย"
"เป็นใครคะ"
"คนที่คุ้มครองพวกเรา จ่าพยับ"
นงเยาว์อึ้งไป เพราะยังจำได้ที่จ่าทำร้ายศรีเสียยับ
"แม่....ต้องเป็นจ่าคนนี้ด้วยเหรอ"
"มันจำเป็น"
นงเยาว์ยิ่งกลัวหนักขึ้นไปอีก
ละม่อมกระซิบกับพริ้ง
"ฉันไปคุยกับจ่าก่อน แกช่วยปลอบนงมันด้วย"
"ได้ค่ะพี่"
ละม่อมออกไป พริ้งเข้ามาปลอบนงเยาว์ ที่สะอื้นอีกครั้ง
"พี่พริ้ง เขาจะทำกับหนูอย่างที่ทำกับพี่ศรีรึเปล่า นงกลัว"
หลังร้าน ต้อยให้ท่าสิงห์
"พี่รูปหล่อ มาเที่ยวเหรอคะ"
"เปล่า"
"แหม นึกว่ามาเที่ยว เพราะต้อยยังว่าง ถ้าต้องการต้อยบริการเต็มที่ ถ้าพี่ไม่ฟิน ยินดีคืนเงิน"
"มาหาคน"
"หาใครคะ"
"น้องสาว ไงชิต รู้รึยัง นงเยาว์ทำงานที่ไหน"
ชิตพูดไม่ออก ต้อยและใบพรมองหน้ากัน
"นงเยาว์ไหนคะ ที่สวย ๆ เต้นเก่ง ๆ รึเปล่า"
"ใช่ รู้จักเหรอ"
"น้องสาวพี่เหรอคะ"
"ใช่"
พอรู้ว่าเป็นน้องสาว สองสาวไม่กล้าบอกว่านงเยาว์มาขายตัวที่นี่
"เออ ก็มาทำงานวันนี้วันแรกที่เฮเว่นนี่แหละ"
สิงห์ถามเสียงกร้าว
"ทำงานอะไร"
"ลองไปถามในร้านดูเองละกันนะพี่ ต้อยไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก"
"แกรู้มาตลอดใช่ไหมชิต ว่านงทำงานที่นี่"
"พี่สิงห์ จะให้ผมพูดยังไง ผมอึดอัดไปหมดแล้ว"
สิงห์เข้าร้านไปทันที
"พี่ชิต มันเรื่องอะไรกัน เขาเป็นพี่นงเยาว์จริง ๆ เหรอ"
ชิตหน้าซีด พยักหน้า
"ก็เป็นเรื่องน่ะซีไอ้ชิต ไปดูเร้ว"
ทั้งสามรีบตามเข้าร้านไป
สิงห์เข้ามาที่หน้าห้องแต่งตัว พริ้งยังปลอบนงเยาว์อยู่
"นง"
"พี่สิงห์"
"ใครน่ะ"
"เออ พี่นงเองค่ะ"
"มาพูดกันให้รู้เรื่อง ทำไมมาทำงานแบบนี้"
"อุ๊ยตาย" พริ้งอุทาน
"พี่พริ้ง ขอหนูคุยกับพี่เขาส่วนตัวก่อนนะ"
"ไม่มีปัญหาแน่นะ"
"ค่ะ"
พริ้งออกจากห้องไป
"อย่าบอกนะว่าทำงานเป็นแคชเชียร์หรือสาวเสิร์ฟ แต่งตัวแบบนี้ไม่พ้นขายบริการ"
"แล้วทำไม"
"ยังจะมาย้อนถาม ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนเขายอมมาทำงานแบบนี้"
"ก็นงมันเป็นผู้หญิงไม่ดีไง มันหญิงคนชั่ว ใจแตกมาตั้งแต่อายุ 14 แล้ว แล้วก็มั่วผู้ชายมาเรื่อยเหมือนที่พี่ตงด่านงนั่นแหละ"
หน้าห้อง ชิต ใบพรและต้อยมาแอบฟังอยู่
"จะประชดชีวิตไปถึงไหน พี่ขอร้อง อย่ามาทำงานแบบนี้ นงเป็นน้องพี่ น้องพี่ตง ลูกของพ่อแม่ นงมีศักดิ์ศรี พี่เลี้ยงนงได้ กลับบ้านเราเถอะนะ"
ใบพรอึ้งไป เพราะกำลังคิดเรื่องศักดิ์ศรีเช่นกัน
นงเยาว์ปัดมือของสิงห์ออก
"ปล่อยฉัน ศักดิ์ศรีของฉันมันก็คือนี่ไง พลีร่างให้ผู้ชายคนทุกคนที่บอกรักฉัน ใครก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่ามันจะโกหก ตอแหล หรือว่ารักฉันจริง ๆ ฉันยอมเป็นเมียมันทุกคน อ้อ แต่มันต้องจ่ายให้ถึงค่าของความรักด้วยนะ"
"บ้าแล้ว เธอบ้าไปแล้ว ถ้าไม่กลับพี่จะใช้กำลังบังคับ กลับเดี๋ยวนี้"
"ปล่อยฉัน ปล่อยซี้ แอร๊ย ช่วยด้วย"
สิงห์ปล้ำจะลากนงเยาว์ออกไป จ่าพยับเข้ามาพร้อมเฮียหมา ก้าน และพนักงานชายอีกสองคน บริเวณหน้าห้อง ใบพร ต้อย ชิต ละม่อม พริ้ง ที่เพิ่งตามมา ยืนดูอยู่ด้วยใจระทึก
"เฮ้ย....นั่นเด็กข้า เอ็งทำอะไรวะ" จ่าพยับบอก
"นี่น้องฉัน เป็นเด็กแกตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ตั้งแต่แรกเห็นเลยว่ะ ปล่อยเด็กเดี๋ยวนี้ เพราะเด็กต้องไปนอนกับฉันคืนนี้"
"ก็ข้ามศพกูไปก่อนก็แล้วกัน"
สิงห์ถีบเข้ากลางอกจ่าพยับ จ่าพยับเซไป ก้านรับไว้ได้ สาว ๆ กรีดร้องตกใจ
"เฮ้ย รุมแม่งเลย"
สองหนุ่มพนักงาน เข้ารุมทั้งต่อย ทั้งเตะ สิงห์เสียหลักล้มไป ก้านเข้ารุมยำตีนอีกคน
"พอเถอะ อย่าทำพี่เขาเลย"
"จับมันลุกขึ้นมา"
ก้านและสองหนุ่มจับร่างสิงห์ลุกขึ้น โงนเงน เลือดกลบปาก จ่าพยับหยิบปืน ทุกคนช็อก
"จ่า อย่าฆ่ากันในนี้เลยนะ"
"ไม่ต้องห้าม"
ขาดคำ จ่าพยับก็ใช้ด้ามปืนฟาดเข้าที่ขมับของ สิงห์ สิงห์ล้มฟาดแน่นิ่งไป
นงเยาว์ลงดูอาการ
"พี่สิงห์"
"มันเป็นพี่เธอจริง ๆ เหรอ"
นงเยาว์เงยหน้าขึ้นมองจ่า แล้วส่ายหน้า
"ว่าแล้ว งั้นก็คงเป็นพี่แนวแมงดาละซี แหม มาทำงานคืนแรก แมงดาก็บินมาไถเงินเลยนะ"
จ่าพยับจับร่าง นงเยาว์ลุกขึ้น
"ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัว พี่จ่าคนนี้จะดูแลน้องนงเอง"
จ่าพยับโอบร่าง นงเยาว์พาออกไป
หมาสั่ง
"ลากมันออกไป"
ก้านและสองชายลากร่าง สิงห์ออกไป ชิต ต้อย ใบพรรีบตาม เหลือเฮียหมา ละม่อม พริ้ง
"พริ้งไปสืบมา ไอ้นี่มันเป็นใครกันแน่ พี่ชายหรือผัว"
"ได้พี่"
พริ้งแยกไป
"โอ๊ย...ปวดหัว เจ๊ม่อม คืนนี้ยายเด็กคนนี้พาเรื่องมาไม่หยุดเลยนะ จะรับไว้ทำงานดีไหมเนี่ย"
"ฉันจะปั้นให้มันเป็นนางฟ้าอีกตัว เฮเว่นจะขึ้นกว่านี้เยอะ เฮียสนไหมล่ะ"
ละม่อมแยกไปพร้อมกับพริ้ง
"ถ้าเรียกแขกมาได้เยอะ ๆ ก็ยอมเสี่ยงว่ะ"
อ่านต่อตอนที่ 8