ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หมอกควัน ไฟป่าเชียงใหม่ยังหนาทึบ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลงเล็กน้อย แต่ยังสูงเกินมาตรฐานกระทบสุขภาพ ขณะที่กองทัพและหน่วยงานเกี่ยวข้องระดมความร่วมมือทำงานเต็มที่ นำเครื่องบินลาดตระเวนดับไฟ และโปรยน้ำเหนือตัวเมือง
วันนี้ (19 มี.ค.) รายงานจาก จ.เชียงใหม่แจ้งว่า สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาทึบต่อเนื่องกันมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบกับช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ถือว่าหมอกควันเบาบางลงบ้างเล็กน้อย ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ยังสูงเกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยค่าเฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 162 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนที่สถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 166 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ที่มีค่าเกิน 200 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันหลายวัน
ขณะที่การแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือโดยใช้อากาศยานนั้น ล่าสุดกองทัพสิงคโปร์ได้ให้การสนับสนุนนำเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ชีนุก 2 ลำ เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย โดยประจำอยู่ที่กองบิน 41 เชียงใหม่ตั้งแต่วานนี้ เพื่อร่วมปฏิบัติการกับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบบ MI-17 ของกองทัพบก ในการทิ้งน้ำดับไฟป่าในพื้นที่ที่หน่วยภาคพื้นที่เข้าถึงได้ยากลำบาก
ทั้งนี้ แต่ละเที่ยวจะสามารถบรรทุกน้ำได้ 5,000 ลิตร โดยมีการปฏิบัติการแล้วครั้งหนึ่งช่วงเย็นวานนี้ ในพื้นที่รอยต่ออำเภอแม่แจ่มกับอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ และจะมีการปฏิบัติการไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยช่วงเช้าวันนี้รายงานข่าวแจ้งว่าได้มีการจัดเครื่องบินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกลาดตระเวนสถานการณ์ไฟไหม้ป่าและหมอกควันทั่วพื้นที่เพื่อวางแผนปฏิบัติการ
นอกจากนี้ ในส่วนของกองทัพอากาศยังคงมีการใช้เครื่องบินลำเลียงแบบ BT-67 ขึ้นบินโปรยน้ำเหนือตัวเมืองเชียงใหม่อย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศ ทั้งนี้ เดิมมีเครื่องบินที่ใช้ในการปฏิบัติการอยู่ 1 ลำ ล่าสุดทางกองทัพอากาศได้มีการส่งมาเพิ่มอีก 1 ลำ รวมเป็น 2 ลำ
ด้านศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบนบินปฏิบัติการต่อเนื่องทุกวันเช่นกัน แม้เบื้องต้นจะยังไม่ทำให้ฝนตก แต่ก็เป็นการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ เพิ่มโอกาสในการเกิดฝน และบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ลงบางส่วน